‘ผู้ตรวจการแผ่นดิน’ชง! รัฐเร่งผุดกม.สกัดนอมิน

รีบทำก่อนสิ้นชาติ! ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอรัฐบาล หน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งออกกฎหมาย กฎระเบียบเข้ม ปิดช่องว่างกฎหมาย กันนอมินีและธุรกิจผิดกฎหมายล้นเมือง หลังพบลามภาคธุรกิจ 10 สาขา เสนอออกกฎหมายกลางคุมเฉพาะ แก้ไขสัดส่วนถือหุ้น ชงสอบสถานะการเงินผู้ถือหุ้นไทยย้อนหลัง หวังรัฐบาลยกเป็นวาระแห่งชาติเร่งแก้ไข 

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีนอมินี หรือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะนอมินีขยายลุกลามกระทบความมั่นคงของประเทศ และขยายไปยังภาคธุรกิจมากกว่า 10 สาขา  ซึ่งกระทบความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ เพราะธุรกิจนอมินีเข้าข่ายธุรกิจศูนย์เหรียญที่กระทบรายได้ ภาษี กระทบอาชีพคนไทย การขนส่ง ร้านอาหาร ทั้งค้าปลีกค้าส่ง ออนไลน์ อสังหาริมทรัพย์ ภาคการเกษตร สวนทุเรียน สวนผลไม้ รวมถึงเชื่อมโยงปัญหาอาชญากรรม ฟอกเงิน การค้าผิดกฎหมาย จึงหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเพื่อหาแนวทางป้องกันตั้งแต่ต้นและเฝ้าระวังแนวโน้มจะเกิดนอมินีในภาคธุรกิจ อีกทั้งจะต้องมีการตรวจสอบติดตาม 

เนื่องจากไทยไม่มีกฎหมายในเรื่องนอมินีโดยเฉพาะ แต่มีอยู่ในกฎหมายหลายฉบับ และไม่มีหน่วยงานใดดูแล จึงจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยงานมาดูแล มีมาตรการ แก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ รวมถึงอาจมีกฎหมายกลางขึ้นมาบังคับใช้โดยเฉพาะ ขณะเดียวกันทุกรัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมการลงทุน แต่หากมีการใช้ช่องว่างกฎหมายทำผิดก็จะเกิดความเสียหาย จำเป็นต้องดูแลทั้งการส่งเสริมการลงทุน และการอำนวยความสะดวกการทำธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ปิดช่องโหว่กฎหมาย ไม่ให้เกิดความเสียหายหรือกระทบต่อประเทศ โดยก่อนหน้านี้ได้เสนอไปยังรัฐบาล สภาทนายความ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล และในปลายเดือนนี้ก็จะมีการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่รับข้อเสนอแนะเพื่อติดตามความคืบหน้า

นายทรงศักกล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้ดำเนินการ โดยเสนอให้สำนักนายกรัฐมนตรีออกระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการทำธุรกรรมนอมินีแทนคนต่างด้าว อาจจะมีการทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ มีนายกฯ เป็นประธาน มีการนิยามคำว่านอมินี ธุรกิจนอมินี และมาตราเชิงบริหารให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงต้องมีกลไกระดับจังหวัดในการเฝ้าระวังไว้ด้วย ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ร่างระเบียบดังกล่าว ตามข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน   และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฝ้าระวังจังหวัดในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีธุรกิจนอมินี 

ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าต้องมีการปรับปรุงกฎหมาย จึงเสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว 2542 แก้นิยามคนต่างด้าวและการกระทำที่เข้าข่ายเป็นนอมินีให้ชัดเจน ให้ครอบคลุมอำนาจการบริหาร แม้คนไทยจะถือหุ้น 51% หากพิสูจน์ว่าอำนาจบริหารอยู่กับคนต่างด้าวก็เข้าข่ายเป็นบริษัทต่างด้าว ติดตามการโอนหุ้น โอนย้ายทรัพย์สินในภายหลัง รวมถึงต้องมีมาตรการป้องกันตรวจสอบผู้ถือหุ้นฝ่ายไทย เช่น ตรวจสอบสถานะการเงินของผู้ถือหุ้นคนไทยย้อนหลังไปประมาณ 5 ปี ประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ ป้องกันไม่ให้เกิดการจดทะเบียนนอมินี รวมถึงจะต้องมีการติดตามตรวจสอบให้ชัดเจน หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยจะต้องร่วมทำงานเชิงรุก และแก้ไขเพิ่มบทลงโทษทั้งคนไทยและต่างด้าว เช่นโทษจำคุกเพิ่มเป็น 5-7 ปี  ปรับในวงเงินที่สูงขึ้นให้สอดคล้องกับขนาดธุรกิจ

ใช้นอมินีถือครองที่ดิน

นอกจากนี้ต้องแก้ไขประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเพิ่มโทษจำคุกและปรับคนต่างด้าว หากมีการพิสูจน์ได้ว่าใช้นอมินีไปซื้อและถือครองที่ดิน และให้ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินมากกว่าการให้บังคับขายคืน ต้องแก้ไขให้กฎหมายรุนแรง มีความครอบคลุม ถือเป็นมาตรการป้องปรามที่สำคัญ ขณะเดียวกันต้องมีการจัดโซนนิงและเฝ้าระวังพื้นที่การเกษตรที่เข้าข่ายจะมีธุรกิจนอมินี หรือความเคลื่อนไหวผิดสังเกต เช่น สวนทุเรียน สวนผลไม้ พื้นที่การเกษตรที่มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมาก

ขณะเดียวกันก็ได้ส่งข้อเสนอแนะไปยังสภาทนายความ  ให้กำกับดูแลสอดส่องให้มีความเข้มงวด เนื่องจากเมื่อบริษัทต่างชาติจะเข้ามาทำธุรกิจ จะใช้บริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมาย  ที่ปรึกษาทางบัญชีหรือธุรกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่และเข้มงวด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI จะต้องดูแลร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องของการส่งเสริมการค้าการลงทุนและการเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้มีการอาศัยช่องทางกฎหมายทำผิดกฎหมาย และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ดูแลพื้นที่ภาคการเกษตร หลังพบว่าคนต่างชาติเปิดล้งรับซื้อผลไม้ และหลายเจ้ามีแนวโน้มไปซื้อพื้นที่การเกษตร คุมระบบขนส่งและการค้า

ดังนั้น ต้องให้เกษตรกร ผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องมีการพัฒนาขีดความสามารถในการทำธุรกิจ การส่งออก  สร้างเครือข่ายการจำหน่าย กระจายสินค้าในต่างประเทศ จะทำให้คนไทยมีความสามารถดูแลธุรกิจได้ตลอดทั้งสาย โดยมีชาวต่างชาติมารับซื้อในบางช่วง และลดความเสี่ยงเกิดนอมินีเข้าไปซื้อพื้นที่การเกษตร

 “การสร้างความตระหนักรู้ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ว่านี่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย ต่อประชาชนที่อาจไม่ทราบข้อมูลหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็กลายเป็นนอมินี เป็นหัวใจสำคัญอันหนึ่งที่ต้องสร้างความตระหนักรู้ เป็นมาตรการที่เราเสนอว่าอาจจะดำเนินการได้ทันที ส่วนในระยะต่อไปเมื่อไม่มีกฎหมายโดยเฉพาะ ก็ควรมีการร่างกฎหมายโดยเฉพาะขึ้นมาสำหรับเรื่องนอมิมี ธุรกิจนอมินี กำหนดกลไกกลาง กลไกต่างจังหวัด โดยยกระดับจากร่างระเบียบสำนักนายกฯ มากำหนดนิยามนอมินีและธุรกรรมนอมินีให้ชัดเจนขึ้น ครอบคลุมการจดทะเบียน การตรวจสอบติดตาม บทลงโทษและมีความเชื่อมโยงกับกฎหมายต่างๆ ที่บังคับใช้ โดยได้เสนอไปยังคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้สำนักนายกฯ อยู่ระหว่างนำเข้า ครม.ให้พิจารณา และนายกฯ สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักในการยกร่างระเบียบสำนักนายกฯ” นายทรงศักกล่าว

เจ้าหน้าที่รัฐมีข้อจำกัด

ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่รัฐอาจมีการปล่อยปละละเลย เพราะประชาชนร้องเรียนเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง นายทรงศักกล่าวว่า จากการร่วมประชุมทราบว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีข้อจำกัดจากข้อกฎหมาย จึงทำตามกฎหมายที่มี อีกทั้งไม่มีกฎหมายและระบบที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ จึงทำให้เจ้าหน้าที่รัฐส่วนหนึ่งไม่กล้าดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่ส่วนที่มีการปล่อยปละละเลยก็สามารถปรับปรุงให้เกิดการกระชับการทำงานได้ โดยใช้ข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย และประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ไม่เป็นนอมินีให้คนต่างชาติ

เมื่อถามว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีความห่วงใยที่จะฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการ เพื่อจะปิดช่องว่างนอมินีไม่ให้เกิดผลกระทบต่อมิติความมั่นคง สาธารณสุขและมิติอื่นๆ หรือไม่ นายทรงศักกล่าวว่า ปัญหาเรื่องนี้มีความรุนแรงและขยายตัวอย่างรวดเร็ว คนทั้งประเทศเป็นห่วงกังวลและเป็นข่าวทุกวัน จึงเห็นว่ามีความเร่งด่วนอย่างมาก หวังว่ารัฐบาลจะยกเป็นวาระแห่งชาติและดำเนินการอย่างเร่งด่วน และขอให้ทุกหน่วยงานที่ผู้ตรวจการฯ ได้มีข้อเสนอแนะไปให้เร่งรัดดำเนินการ ใช้กลไกที่มีดำเนินการอย่างเต็มที่ รวมถึงขอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดร่างระเบียบสำนักนายกฯ ขึ้นมาเป็นกลไกกลาง ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการดูแลสินค้าไทยที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าต่างประเทศ มีอนุกรรมการ 2 คณะดูแลเรื่องนอมินีโดยเฉพาะ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หากมีระเบียบสำนักนายกฯ และยกระดับคณะกรรมการขึ้นมาเป็นคณะกรรมการระดับชาติ โดยมีนายกฯ หรือรองนายกฯ เป็นประธานดูแลแต่ละสาขา จะทำให้ดูแลได้ทั่วถึง อีกทั้งต้องเร่งออกกฎหมาย ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะปิดช่องว่างต่างๆ สำหรับบริษัทต่างๆ ที่มีแนวโน้มเป็นนอมินี อาศัยใช้ช่องว่างต่างๆ มาดำเนินการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.