แกนนำ พท.ยันไร้สัญญาณปรับ ครม. ไม่รู้มีดีลแลกเก้าอี้ รมต. "พท.-ภท." ย้ำเป็นอำนาจตัดสินใจของ "นายกฯ" แต่ยอมรับ สส.พท.อยากให้ปรับกระทรวง ศก. แก้ปัญหาการค้าขาย "เทพไท" ฟันธง พท.ปรับ ภท.ไม่ง่าย ฝ่ายอนุรักษนิยมอาจให้พรรคร่วมฯ แท็กทีมต่อรองจนถอนตัว "นักกฎหมายมหาชน" เชื่อ พท.ไม่แตกหัก ภท. แต่ยึด มท.คืน ลดบทบาท ดองเค็มไม่ให้กล้าต่อกร "นิด้าโพล" เผย ปชช.ส่วนใหญ่หนุนปรับ ครม.เร็วที่สุด "ก.พาณิชย์-ก.เกษตรฯ" ติดโผอันดับแรก "ซูเปอร์โพล" ชี้คนไทยมีความทุกข์มากขึ้นเหตุ ศก.ไม่ดี แต่ยังมั่นใจฝีมือ "นายกฯ อิ๊งค์" นโยบายตอบโจทย์คนมีรายได้น้อย
เมื่อวันอาทิตย์ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน ส.ค.-ก.ย. ภายหลังผ่านการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า ได้ยินแต่ข่าวจากสื่อ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ในพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการเคลื่อนไหว หรือหารือเรื่องปรับ ครม. ให้เป็นอำนาจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาลตัดสินใจ
ส่วนกระแสข่าวปรับ ครม.ที่พรรคเพื่อไทยจะเปิดดีลแลกกระทรวงกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรีและนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ทุกอย่างให้เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุนการตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะขอกระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทยกลับมาดูเอง เพื่อชิงความได้เปรียบในการคุมเลือกตั้ง นายวิสุทธิ์ระบุว่า ยังไม่เคยได้ยิน ส่วนตัวไม่รู้ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่ต้องนำกระทรวงมหาดไทยกลับมาดูแลเอง เพราะทุกวันนี้ก็ยังทำงานได้อยู่ ส่วนกระแสข่าวปรับ ครม.ในทีมเศรษฐกิจ มีความเป็นไปได้ เท่าที่คุยกับ สส. มีเสียงสะท้อนแสดงความเป็นห่วงเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ อยากให้มีการแก้ไข โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวกับการค้าขาย ที่เป็นห่วงในส่วนสินค้าเกษตร แต่คนตัดสินใจคือนายกฯ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนิด้าโพลระบุความเห็นประชาชนต้องการให้ปรับ ครม.ว่า เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรัฐบาลยินดีรับฟัง อย่างไรก็ดี อำนาจการปรับ ครม.เป็นของนายกฯ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะมีการปรับ ครม.ในช่วงเดือน ส.ค. หลังจากพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 69 นั้น เป็นข่าวจากนอกพรรค ซึ่งภายใน พท.ไม่มีบรรยากาศของความวุ่นวายใดๆ
"ที่พรรคไม่ได้พูดคุยกันว่าใครจะเข้าหรือใครจะออกแต่อย่างใด และตัวของนายกฯ เองส่งสัญญาณตลอดว่าอำนาจการปรับ ครม.นั้นเป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่งขณะนี้ ครม.ชุดนี้ก็ยังสามารถทำงานได้"
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่อาจจะมีการปรับ ครม.ในกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการค้าการขาย นายอนุสรณ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือจะเป็น สส. ทุกคนสามารถสะท้อนการทำงานของกันและกันได้ โดยข้อเสนอแนะหรือข้อแนะนำนั้นเป็นปกติ ไม่ใช่การกดดันหรือขับไล่รัฐมนตรีในกระทรวงใด ทั้งนี้ สส.ทุกคนยังเชื่อมั่นนายกฯ ฐานะหัวหน้ารัฐบาล รวมถึงยังเชื่อมั่นรัฐมนตรีทุกคน ส่วนจะปรับ ครม.เมื่อใดนั้น เป็นอำนาจเต็มของนายกฯ จะพิจารณาว่าจะปรับหรือไม่ปรับ
ปรับ ครม.ข่าวจากนอก พท.
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยขอกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทยเพื่อชิงความได้เปรียบของการเลือกตั้ง นายอนุสรณ์กล่าวว่า กระแสข่าวนี้ได้ฟังมาจากนอกพรรค แต่ในพรรคไม่ได้คุยกัน การขอแลกกระทรวงมหาดไทยไม่น่าจะใช่เพื่อความได้เปรียบในการเลือกตั้ง เพราะกระทรวงมหาดไทยไม่ได้คุมการเลือกตั้ง คนที่บริหารจัดการการเลือกตั้งคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยอมรับว่ามีเสียงสะท้อนว่าในบางจังหวัดหรือในบางพื้นที่นั้น หากผู้ว่าราชการจังหวัดหรือการปกครองในแต่ละจังหวัดนั้นไปอิงฝ่ายการเมืองมากเกินไป ท้ายที่สุดประชาชนไม่ได้ประโยชน์
"พรรคเพื่อไทยไม่ติดว่าผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ในกำกับการดูแลของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดหลายคนสามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อนโยบายหลักของรัฐบาลได้ ยืนยันว่าแม้จะไม่สลับกระทรวงยังสามารถทำงานได้ หรือหากจะสลับแล้วผลประโยชน์ตกที่ประชาชน พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีปัญหาอะไร" นายอนุสรณ์กล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ปรับภูมิใจไทยออก : ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก การปรับ ครม.ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า จะมีการปรับแน่นอน จะเป็นปลายเดือน เม.ย.หรือต้นเดือน พ.ค.ก็ตาม แต่การปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ตามที่แกนนำพรรคเพื่อไทยบางคนเคยแสดงความเห็นว่ามี สส.พรรคเพื่อไทยหลายคนอึดอัดกับท่าทีทางการเมือง หรือการแสดงออกของนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยก็ตาม แต่การปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่โจทย์ที่ทำกันง่ายๆ เพราะพรรคภูมิใจไทยมีผนังทองแดงกำแพงเหล็ก มีแบ็กอัปทางการเมืองที่แข็งแกร่ง ถ้าหากไม่ได้รับสัญญาณที่ชัดเจน นายไชยชนกคงไม่กล้าประกาศไม่เอากาสิโนออกกลางสภาฯ
"การปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลที่มีจำนวน สส. 70 คน ไม่มีผลต่อเสียงสนับสนุนรัฐบาล เพราะยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในลักษณะปริ่มน้ำได้ แต่ไม่มีหลักประกันว่า ถ้าปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว อาจจะมีสัญญาณฝ่ายอนุรักษนิยมให้พรรคร่วมรัฐบาลแท็กทีมกันต่อรองกับพรรคเพื่อไทย ถอนตัวจนอาจทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถ้าพรรคเพื่อไทยจะกระโดดข้ามขั้วไปจับมือกับพรรคประชาชนจัดตั้งรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีก เพราะพรรคประชาชนได้ประกาศจุดยืนชัดเจนแล้วว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลในสมัยสภาชุดนี้ จึงทำให้พรรคเพื่อไทยอยู่ในลักษณะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หรือจะเรียกว่ายักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ก็ได้" นายเทพไทระบุ
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน วิเคราะห์ว่า หลังการหารือระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะยังรักษาเสถียรภาพด้วยการประคองพรรคภูมิใจไทยไว้ แต่ลดบทบาทในเชิงอำนาจลง โดยเฉพาะจากกรณีที่นายไชยชนก ชิดชอบ บุตรชายนายเนวิน ชิดชอบ แสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยอย่างเปิดเผยกลางสภา ทั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์เชิงเหน็บแนมว่า “ภูมิใจไทย ก็คือภูมิใจไทยไทย” ซึ่งตีความได้หลายนัย แต่นักวิเคราะห์มองว่า เป็นสัญญาณไม่พอใจและเตรียมตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์
พท.ไม่แตกหักภท.แต่ดองเค็ม
"รัฐบาลอาจเลือกเชือดไก่ให้ลิงดู ด้วยการยึดกระทรวงมหาดไทยคืน ซึ่งเป็นกระทรวงสำคัญต่อเกมเลือกตั้ง โดยสลับให้พรรคภูมิใจไทยไปคุมกระทรวงรองที่มีบทบาทน้อยลง เป็นการลดอิทธิพลของพรรคสีน้ำเงินในรัฐบาลผสมอย่างมีนัย สะท้อนรูปแบบดองเค็มที่เคยใช้กับ สส.ที่ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค คือไม่ขับออก แต่ลดบทบาททางการเมืองให้ไร้อิทธิพล และเป็นโมเดลที่รัฐบาลผสมในหลายยุคเคยใช้มาแล้ว แม้พรรคภูมิใจไทยจะยังคุมเครือข่ายองค์กรอิสระ และ สว.สีน้ำเงินบางส่วนไว้ แต่หากถูกลดบทบาทใน ครม. อาจทำให้พรรคสูญเสียแรงส่งในสนามเลือกตั้ง และเผชิญปัญหาการตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะกรณีที่ดินเขากระโดง ซึ่งยังคาราคาซัง การเคลื่อนไหวล่าสุดจึงเป็นการวางเกมล่วงหน้าเพื่อครองความได้เปรียบในช่วงรักษาการรัฐบาล หากอยู่ครบเทอมถึงปี 2570 ซึ่งเป็นเป้าหมายของเพื่อไทย โดยการดองเค็มพรรคพันธมิตรที่เริ่มแข็งข้อ ถือเป็นจังหวะปรับทิศทางอำนาจอย่างไม่เปิดศึกแตกหัก" ดร.ณัฐวุฒิระบุ
วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “ปรับ ครม. วันไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5-9 เมษายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นต่อการปรับ ครม. ในรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร
เมื่อถามถึงการปรับเปลี่ยนกระทรวงในรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร พบว่า 1.กระทรวงพาณิชย์ ตัวอย่างร้อยละ 57.02 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 41.60 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 2.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 48.55 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 49.47 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 3.กระทรวงการคลัง ร้อยละ 46.49 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 51.98 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 4.สำนักนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 44.43 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 52.82 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 5.กระทรวงแรงงาน ร้อยละ 43.89 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 54.05 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 6.กระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 43.82 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 54.58 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน
7.กระทรวงกลาโหม ร้อยละ 42.52 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 55.57 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 8.กระทรวงคมนาคม ร้อยละ 41.53 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 56.56 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 9.กระทรวงศึกษาธิการ ร้อยละ 41.22 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 57.10 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 10.กระทรวงยุติธรรม ร้อยละ 41.07 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 56.79 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 11.กระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 40.61 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 57.71 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 12.กระทรวงพลังงาน ร้อยละ 38.09 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 60.53 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 13.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร้อยละ 38.09 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 58.17 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 14.กระทรวงการต่างประเทศ ร้อยละ 35.26 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 60.69 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน
15.กระทรวงอุตสาหกรรม ร้อยละ 34.66 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 61.83 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 16.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้อยละ 34.20 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 62.90 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 17. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร้อยละ 34.04 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 61.53 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 18.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 33.66 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 63.97 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 19.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร้อยละ 33.59 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 62.98 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน 20.กระทรวงวัฒนธรรม ร้อยละ 31.76 ระบุว่าควรปรับเปลี่ยน, ร้อยละ 64.66 ระบุว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน
เศรษฐกิจไม่ดีทุกข์มากขึ้น
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการปรับ ครม.ของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 48.24 ระบุว่าจำเป็นต้องปรับ ครม.โดยเร็วที่สุด รองลงมา ร้อยละ 16.18 ระบุว่าไม่จำเป็นต้องปรับ ครม., ร้อยละ 15.50 ระบุว่าการปรับ ครม. ควรรออีก 3 เดือน, ร้อยละ 10.07 ระบุว่าการปรับ ครม. ควรรออีก 6 เดือน, ร้อยละ 6.95 ระบุว่าการปรับ ครม. ควรรออีก 1 ปี และร้อยละ 1.53 การปรับ ครม. ควรรออีก 9 เดือน
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ในสายตาของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,215 ราย ระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน 2568
เมื่อสอบถามถึงดัชนีความสุขคนไทยหลังสงกรานต์ พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 40.7 กลับมารู้สึกทุกข์เหมือนเดิมถึงทุกข์มากขึ้น เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีงานทำ สุขภาพไม่ดี มีปัญหาครอบครัว ยาเสพติด มลพิษ ความวุ่นวายการเมือง และความไม่ปลอดภัย ในขณะที่ร้อยละ 24.8 รู้สึกกลางๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เพราะไม่เห็นมีอะไรดี ทรงๆ มีขึ้นๆ ลงๆ ยังมองไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร เป็นต้น และร้อยละ 34.5 มีความสุขเหมือนเดิมถึงเพิ่มขึ้น เพราะความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การงานอาชีพดี ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน เพื่อนดีเป็นกัลยาณมิตร ทำบุญเข้าวัด สมาธิวิปัสสนา เป็นต้น
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกตื่นตกใจต่อคนหรือเจ้าหน้าที่รัฐติดอาวุธ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.2 รู้สึกตกใจและไม่เชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อเห็นกลุ่มคน ขบวนการออกมาคุกคามประชาชนและก่อความไม่สงบในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.4 รู้สึกปลอดภัย รู้สึกอุ่นใจ เมื่อเห็นตำรวจออกตรวจตราหรืออยู่ในที่เกิดเหตุ, ร้อยละ 60.5 รู้สึกเชื่อมั่น เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รัฐออกมาชี้แจงข้อสงสัยได้ดี มีเยียวยาความเสียหาย, ร้อยละ 57.8 รู้สึกปลอดภัย สบายใจ เมื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐออกให้บริการอำนวยความยุติธรรม และร้อยละ 54.1 รู้สึกตื่นตกใจ เมื่อเห็นทหารหรือคนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐออกมาถืออาวุธ
ที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อสอบถามถึงความหวาดกลัวต่อภัยเศรษฐกิจ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 กลัวเงินไม่พอใช้ กลัวเศรษฐกิจแย่ ข้าวของราคาแพง ค้าขายไม่ดี, ร้อยละ 75.2 กลัวเงินออม เงินเก็บ ลดลง กลัวเงินหมด, ร้อยละ 62.2 กลัวนโยบายรัฐบาลทำไม่ได้จริง กลัวนโยบายรัฐมีผลต่อเงินในกระเป๋า, ร้อยละ 61.8 กลัวสงครามการค้าโลก กลัวราคาน้ำมันพุ่ง กลัวภาษี และร้อยละ 53.5 กลัวตกงาน กลัวถูกลดเงินเดือน กลัวถูกลดชั่วโมงทำงาน ตามลำดับ
ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวต่อว่า ที่น่าสนใจคือ ความนิยมต่อนายกรัฐมนตรี ผลสำรวจของซูเปอร์โพลพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.3 เชื่อมั่นมากถึงมากที่สุดต่อนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพราะนโยบายตอบโจทย์ช่วยเหลือคนรายได้น้อย แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นผู้หญิงคนรุ่นใหม่ เก่ง ทำงานเร็ว ได้บารมีจากพ่อ ภาพลักษณ์ส่วนตัว รักครอบครัว ดูดีมีสง่า คิดอ่านพูดทันสมัย สื่อสารตรงประชาชน และปรับตัวเก่ง เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 24.8 เชื่อมั่นน้อยถึงไม่เชื่อมั่นเลย เพราะขาดประสบการณ์ เป็นเครือข่ายตระกูลการเมือง ยังไม่เห็นผลงานชัดเจน มีหลุดอารมณ์ดูไม่ดี กังวลผลของนโยบายบางอย่าง ยังไม่เด็ดขาด และเห็นแก่พวกพ้อง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว

