"เพื่อไทย" แย่งชามข้าว เขย่าปรับ ครม. "สมคิด" รับลูกนิด้าโพลปรับออก "พาณิชย์-เกษตรฯ" เผย สส.ในพรรคคุยกันขรม ชาวบ้านบ่นพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ดันตรงกับผลโพล ชี้เหมาะสุดปรับช่วงเดือน มิ.ย. ด้านนายกฯ อิ๊งค์ปิดปากเอาแต่หัวเราะ! "ภูมิธรรม" ปัดยึดเก้าอี้ มท.1 ด้าน "อนุทิน" ลั่นแย่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทยต้องใช้แรงเยอะ
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 หลังมีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) สะพัดตลอดทั้งวัน ซึ่งสืบเนื่องมาจากผลสำรวจของนิด้าโพลนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ว่า "พรุ่งนี้ๆ สัมภาษณ์กัน"
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความพยายามเขย่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถามแล้วหัวเราะ
ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับ นายกฯ หันไปแซวนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมกับหัวเราะว่า “เมื่อกี้ท่านประเสริฐปรับให้เรียบร้อย แซวๆ เขาพูดผิด แกล้งแซว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างนายประเสริฐกล่าวรายงานช่วงหนึ่งในงาน “ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน” ภายใต้โครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง ในโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน (SML) นายประเสริฐ ได้พูดตำแหน่งของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จาก รมช.การคลัง เป็น รมช.มหาดไทย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีผลสำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ที่อยากให้ปรับ รมว.พาณิชย์และ รมว.เกษตรฯ ว่า การปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี ก็ได้ติดตามประเมินผลการทำงานของรัฐมนตรีทุกคน ถ้ายังไปกันได้ดีก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ต้องแล้วแต่นายกรัฐมนตรีเป็นคนประเมิน เพราะถือเป็นเจ้านายสูงสุดของ ครม. ส่วนที่ผลโพลอยากให้ปรับรัฐมนตรีในส่วนของเศรษฐกิจที่ยังทำงานไม่ตอบโจทย์นั้นก็เป็นเรื่องของโพล เป็นความเห็นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็คงรับไปพิจารณา ทั้งนี้ยังไม่เคยได้ยินนายกฯ เปรยเรื่องปรับ ครม. เพียงแต่ได้ยินท่านบอกว่าทำงานกันไปให้เต็มที่
ส่วนผลโพลที่ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ก็ขอขอบคุณ เพราะตนเองทำงานเต็มที่ อยู่ที่ไหนก็รักที่นั่น และพยายามที่จะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ และพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขร่วมกันกับทุกๆ ส่วน
เมื่อถามกระแสข่าวแลกโควตากระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรมปฏิเสธว่าไม่เคยได้ยิน ตนได้ยินมาจากสื่อเท่านั้น
ถามย้ำว่า มีข่าวว่าจะไปนั่งเป็น รมว.มหาดไทย จะไม่อยู่ที่กระทรวงกลาโหมแล้ว รมว.กลาโหมตอบว่า “ผมเพิ่งอยู่ 6 เดือนเอง จะไล่แล้วเหรอ”
สส.บ่นราคาพืชผลตกต่ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรว่าจะเอาพรรคภูมิใจไทยออก หรือคิดว่าจะอยู่ต่อไป นายภูมิธรรมตอบว่า จะวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างไร อยู่ที่พี่น้องประชาชนเป็นคนประเมิน เพราะพวกเรายังสามารถทำงานร่วมกันได้ดี ซึ่ง นายอนุทินกับตนก็ยังคุยกันได้ดี คุยกันรู้เรื่อง หากมีงานอะไรที่เป็นเกี่ยวพันกันหรือสนับสนุนกันเราก็ทำเต็มที่
ซักว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่มีอะไรหนักหนาจนต้องเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรามาอยู่ในช่วงที่ประเทศเผชิญกับวิกฤตต่างๆ ในการที่จะเผชิญปัญหาและเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดา งานวิกฤตก็คืองาน ซึ่งงานก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้นายภูมิธรรมยังได้เป็นประธานในพิธีวันสถาปนาองค์ศาลหลักเมือง 243 ปี โดยเข้าสักการะศาลหลักเมือง ศาลเทพารักษ์และทำพิธี สะเดาะเคราะห์ เติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด (วันเสาร์ ปางนาคปรก) ก่อนนำทำพิธีบวงสรวงสักการะองค์พระหลักเมืองอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวแซวว่าวันนี้หน้าแดงมาก รมว.กลาโหมตอบกลับว่า หน้าร้อน แต่ใจไม่ร้อนนะ ผู้สื่อข่าวถามว่า คนเกิดวันเสาร์ดวงแข็ง และเก้าอี้แข็งด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมหัวเราะพร้อมบอกว่า เรื่องเก้าอี้แข็งนี่บอกไม่ได้
ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลของนิด้าโพลว่า ความจริงเป็นความเห็นของตัวอย่างประชากร 1,300 คน แต่อำนาจการปรับ ครม.เป็นของนายกรัฐมนตรี ส่วนวันนี้เท่าที่คุยนายกฯ ยังไม่มีการพูดจาอะไร ฉะนั้นเรื่องโพลเป็นเรื่องของประชาชนให้ความเห็นไป ซึ่งมีการถามทุกกระทรวงว่าควรปรับอะไรหรือไม่ ถ้าทำตามโพลก็ต้องปรับทุกกระทรวง ตนเชื่อว่า รัฐบาลยังไม่คิดอะไร ยังทำงานต่อไป ยืนยันอำนาจการปรับ ครม.เป็นของนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงอันดับหนึ่งที่ประชาชนอยากให้เปลี่ยน ซึ่งตรงกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่อยากให้เปลี่ยน รองเลขาฯ นายกฯ ตอบว่า ในส่วนหนึ่งได้ยินสมาชิกพรรคเพื่อไทยพูด และหลายคนพูดถึงเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร พืชผลบางชนิดบางตัวตก บางตัวมันก็ได้อยู่ อย่างเช่นยางพารา, ปาล์ม แต่ข้าวนาปรังและมันสำปะหลังจะมีปัญหา ฉะนั้นกระทรวงพาณิชย์จะต้องไปปรับปรุงเร่งรัดในการทำงาน
เหมาะปรับ ครม.เดือน มิ.ย.
"ผมเชื่อว่าหากมีเวลาสักหน่อยก็คงจะดีขึ้น แต่ตามผลโพลที่ออกมาก็เห็นทุกเรื่องอยู่ว่าอยากให้ปรับ อย่างไรก็ตามในพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกันเป็นปกติ ผมได้ยินอยู่ และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา สส.ไปพบปะพี่น้องประชาชนก็อยากให้ราคาพืชผลดี ถูกพี่น้องประชาชนสะท้อนมาก็นำมาสะท้อนในพรรค เชื่อว่ารัฐมนตรีพาณิชย์ท่านก็รับฟัง วิธีการต่างๆ ก็ค่อยไปว่ากันต่อไป"
ซักว่า ช่วงเวลาใดเหมาะสมในการปรับ ครม. หรือควรผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ไปก่อน นายสมคิดเลี่ยงตอบว่า ไม่ทราบจริงๆ เหมาะสมก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะปรับอย่างไร แต่ปกติเวลาจะปรับ ครม.จริงๆ ในความคิดเห็นส่วนตัวของตน ถ้าจะปรับก็หลังกฎหมายงบประมาณ น่าจะเป็นช่วง มิ.ย. ซึ่งกฎหมายงบประมาณเข้าวาระแรกประมาณวันที่ 28-30 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ส่วนจะปรับก่อนหรือหลังตนไม่แน่ใจ แต่โดยหลักการปรับ ครม.เป็นเรื่องปกติ มีการปรับในทุกรัฐบาล
ถามว่า นอกจากกระทรวงพาณิชย์แล้ว ในพรรคมีการพูดคุยเรื่องการสลับหรือโยกกระทรวงหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ได้พูดขนาดนั้น จริงๆ กระทรวงพาณิชย์เขาไม่ได้ระบุเจาะจง เขาสะท้อนเรื่องราคาพืชผลตกต่ำ อยากให้ราคาพืชผลดี ทาง สส.ไปบ้านกลับมาก็มาบ่นเรื่องนี้ ซึ่งดันมาตรงกับผลโพลพอดี
เมื่อถามอีกว่า ในพรรคเพื่อไทยได้มีการพูดคุยกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์แล้วหรือยัง นายสมคิดกล่าวว่า ตนว่านายกฯ พูดคุย แต่ไม่แน่ใจว่าพูดคุยเรื่องอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยพอใจกับกระทรวงที่ดูแลอยู่หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ก็พอใจอยู่แหละที่ดูแลอยู่ ผลงานก็เริ่มจะมีออกมาบ้างแล้ว บางอันก็ไม่ได้ดังใจหรอก พี่น้องประชาชนก็เข้าใจอยู่ว่าใจร้อน แต่อย่าลืมว่าเรามาอยู่ในภาวะเศรษฐกิจมันถดถอยตกต่ำ เลยกลายเป็นเรื่องที่เราต้องทำงานอย่างหนัก
เขย่าเก้าอี้ มท.1 ต้องใช้แรงเยอะ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะดึงกระทรวงมหาดไทยกลับคืนว่า ก็เห็นตามข่าวหนังสือพิมพ์ แต่ไม่มีความกังวล เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จัดตั้งรัฐบาลมาด้วยกัน พรรคภูมิใจไทยมี สส. 71 คน เราก็ยกมือสนับสนุนนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาถึง 2 คนแล้ว คือนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ก็เป็นสิ่งที่เรามาร่วมรัฐบาลจนถึงทุกวันนี้ ทำงานร่วมกันก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ตอบสนองข้อสั่งการของนายกฯ ในทุกเรื่อง ยืนยันว่านายกฯ ยังไม่เคยพูดเรื่องปรับ ครม.
“ผมยังงงอยู่เลยว่าสัญญาณปรับ ครม.ส่งไปที่สำนักข่าวหรือผู้วิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่มาถึงหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ถามหัวหน้าพรรคร่วมคนไหนก็ไม่มีใครบอกว่าได้รับสัญญาณใดๆ ทุกคนยังมีความตั้งใจ เต็มใจในการปฏิบัติหน้าที่สนองนโยบายของนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาล” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า การปล่อยข่าวแบบนี้เป็นการเขย่าเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยและพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “โอ้โห ต้องใช้แรงเยอะนะ ไม่น่าจะมีเรื่องพวกนี้ จะเขย่าทำไม ต่างคนต่างทำงาน ไม่เห็นมีปัญหาอะไรในการทำงาน ทำงานร่วมกันมาจะ 2 ปีอยู่แล้ว ทุกคนก็ทำงาน ก็ได้รับเกียรติ และนายกฯ ก็สั่งงานตลอดเวลา เช่น เรื่องตึก สตง.ถล่ม ก็ติดตามให้กรมโยธาธิการ ของกระทรวงมหาดไทยเร่งหาสาเหตุให้ชัดเจนโดยเร็ว ตอนนี้ในภาควิชาชีพต่างๆ ก็เริ่มเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากจุดไหน"
รอยปริในพรรคร่วมรัฐบาล
นายอนุทินยังยอมรับด้วยว่า ก่อนสงกรานต์ได้มีการไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และแขกจากต่างประเทศที่เคยรู้จักกัน นายทักษิณจึงชวนตนไปทานอาหารด้วย ซึ่งการพูดคุยวันนั้นไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะตนก็รู้จักกับแขกของนายทักษิณด้วย ไม่มีนักการเมือง ไม่มีรัฐมนตรี แต่เป็นเรื่องส่วนตัว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าความสัมพันธ์ยังแน่นปึ้กใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมขยันวิเคราะห์กันจัง
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นแต่ความวุ่นวายของนายใหญ่ ซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาสาระแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่เป็นการปรับเพื่อเอาอกเอาใจ บริหารความพึงพอใจของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่เอาเป้าหมายที่จะทำให้ประชาชนมีความผาสุกมาเป็นตัวตั้ง
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า วินาทีนี้เลยจุดนั้นมาแล้ว ที่จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลกลับมาปรองดองและสมานฉันท์ในการทำงานร่วมกัน เพราะมีร่องรอยของร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งเป็นรอยปริร้าวอย่างรุนแรง หากพรรคเพื่อไทยจะกระชับอำนาจในการดึงกระทรวงสำคัญมาอยู่ในมือของตัวเอง ก็จะยิ่งทำให้รอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาลขยายตัวในระดับที่รุนแรงมากขึ้น
ส่วนสูตรที่มีกระแสว่า พรรคภูมิใจไทยจะถูกผลักมาเป็นฝ่ายค้านนั้น นายวิโรจน์ระบุว่า ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลไป แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือ สมัยนี้พรรคประชาชนจะไม่ร่วมรัฐบาล ส่วนการปรับ ครม.ก็เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรายังไม่เจอมาตรการตอบโต้ภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งประเทศกำลังเผชิญหน้ากับพลวัตที่สถานการณ์ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และกระทบเศรษฐกิจโดยตรง
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. แถลงว่า ถ้ารัฐบาลรีบปรับ ครม.เพื่อสร้างศรัทธา ก็จะสามารถดำเนินการทางการเมืองต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าไม่สามารถร่วมงานต่อไปได้ ก็ประกาศความชัดเจนถอนตัวออกมา อย่าให้เป็นคนอมโรค ถูลู่ถูกังกันไปอย่างนี้ เพียงเพื่ออยากเป็นรัฐบาลต่อไป โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เพราะศรัทธาของประชาชนจะสามารถค้ำยันให้รัฐบาลบริหารต่อไปได้ ไม่ใช่ตัวเลขของสส.อย่างเดียว เดี๋ยวจะพากันไปทั้งรัฐบาล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว

