
ป.ป.ช.จ่อไต่สวนรัฐมนตรี หลังถูกกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรม ปมติดสติกเกอร์ป้ายชื่อ-หน้าตัวเองบนถุงยังชีพช่วยน้ำท่วม “พีระพันธุ์” แอ่นอกพร้อมชี้แจงหากถูกเรียก “สนธิญา” ยื่นดาบสองร้องปมถือหุ้น 4 บริษัท บอกหนักใจเพราะเป็นคนที่รักและเคารพ “ชูศักดิ์” รีบตีกันบอกเรื่องไม่ลามถึงนายกฯ แน่
เมื่อวันศุกร์ที่ 2 พ.ค. มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ป.ป.ช.กําลังไต่สวนรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม กรณีแจกถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งได้รับการสนับสนุนมาจากรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง แต่กลับมีการติดสติกเกอร์ป้ายชื่อตัวเองพร้อมกับหน้าตัวเองข้างถุง นอกจากนี้ ภายในถุงยังชีพดังกล่าวยังใส่ถุงข้าวสารของตัวเองลงไปด้วย ซึ่งกรณีนี้ส่อเข้าข่ายกระทำการตามมาตรา 17 แห่งมาตรฐานทางจริยธรรม ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ที่บัญญัติว่า ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง
“สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ไต่สวนเบื้องต้น พร้อมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณา โดยเห็นว่าข้อกล่าวหามีมูล โดยคณะไต่สวนคดีดังกล่าวจะเชิญรัฐมนตรีมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 พ.ค.นี้ เพื่อประกอบข้อเท็จจริงในสำนวน ก่อนสรุปต่อที่ประชุม ป.ป.ช.อีกครั้ง หากพบว่ามีมูลความผิดตามที่ถูกกล่าวหา จะส่งสำนวนฟ้องศาลฎีกา เพื่อพิจารณาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่และถอดถอนจากตำแหน่งต่อไป”
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในเรื่องนี้ว่า ไม่มีปัญหาหรอก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช.ได้แจ้งมาแล้วหรือยัง นายพีระพันธุ์ตอบว่า ไม่ได้แจ้ง ยังไม่ทราบ แต่รู้เรื่องแล้ว เพราะมันกลั่นแกล้งมาตั้งนานแล้ว เมื่อถามย้ำว่าจะไปตามที่ ป.ป.ช.เชิญใช่หรือไม่ กล่าวว่า เขาเชิญเราก็ต้องไป
ขณะเดียวกัน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากที่เคยยื่นให้ตรวจสอบนายพีระพันธุ์ จากเป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้น บจ.รพีโสภาค และถือหุ้นในบริษัทอื่นรวม 4 บริษัท อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ.หุ้นส่วน และหุ้นของคณะรัฐมนตรี และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561
นายสนธิญากล่าวภายหลังเข้ายื่นหลักฐานกับ ป.ป.ช.ว่า การยื่นครั้งนี้มีความไม่สบายใจ เพราะไปยื่นบุคคลที่ตนเองรักและเคารพ และเคยเป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ได้ลาออกไปในช่วงลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ลูกสาวก็ยังคงเป็นสมาชิกพรรค แต่หากดูใบบริคณห์สนธิ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทั้ง 4 บริษัทยังมีชื่อบุคคลที่ตนเองร้อง ดังนั้นขอให้นายพีระพันธุ์ออกมาชี้แจงกับสังคมให้ชัดเจน ว่าทําไมในเอกสารที่ได้รับมาจึงมีชื่อท่านเป็นหุ้นส่วน และไม่มีชื่อเป็นกรรมการผู้จัดการ เพราะเอกสารที่มีมาเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2568 เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน
“ขอเรียนไปถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ว่าขอให้มีการตรวจสอบ คัดรายชื่อบริษัทที่เป็นข่าว ว่านายพีระพันธุ์มีรายชื่อเป็นกรรมการบริหารกับมีหุ้นส่วนหรือไม่ เพื่อให้เรื่องกระจ่าง และให้ท่านตัดสินใจว่าเรื่องนี้ผิดหรือถูก เพราะหากทั้ง 4 บริษัทนี้ยังมีชื่อนายนายพีระพันธุ์เป็นกรรมการบริหารหรือผู้ถือหุ้น ก็จะเกี่ยวพันไปถึงตัวนายกฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นายสนธิญากล่าว
นายสนธิญากล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้าจะไปยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาวินิจฉัยและตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่านายพีระพันธุ์ยังถือหุ้นอยู่ในทั้ง 4 บริษัทหรือไม่ อย่างไร และขอให้คณะรัฐมนตรีตรวจสอบข้อมูลนี้ว่าจริงหรือเท็จอย่างไร เพื่อไม่ได้โดนบุคคลอื่นร้อง เหมือนกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ทั้งหมดนี้จะส่งเอกสารให้ครบถ้วนกระบวนความ แล้วจะไปส่งให้กับ กกต.ในวันที่ 26 นี้ ทั้งหมด 3 ชุด ชุดที่ 1 ไปผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อนำไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ชุดที่ 2 มายื่นที่ ป.ป.ช. 2 เรื่อง แล้วชุดที่ 3 จะยื่นให้ กกต.
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องนี้ว่า โดยมารยาทไม่ควรพูดเรื่องนี้ เป็นเรื่องของนายพีระพันธุ์ และข้อเท็จจริงก็ยังไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นเรื่องอะไร เพราะดูจากคำร้องเป็นกรณีการถือหุ้น แต่นายพีระพันธุ์บอกว่าไม่ได้ถือ เป็นภรรยาและลูก หรือจะบอกว่าเป็นกรรมการ ก็มั่วกันไปหมด ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะคนที่รู้ดีที่สุดคือผู้ที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่าถือหุ้นเกินกว่ากฎหมายที่กำหนดใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ถูกต้อง ไม่สามารถจะพูดอะไรได้ และใครก็ไม่สามารถจะพูดได้ เพราะเรายังไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพียงแค่รู้ว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต้องผ่านการตรวจสอบมาโดยละเอียด อย่างตนเองก็ต้องรับรองว่าส่วนตัวไม่ไม่ขาดคุณสมบัติ เป็นข้อๆ หลายข้อ ซึ่งเป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ
เมื่อถามว่า มีนักวิชาการระบุว่าหากกรณีของนายพีระพันธุ์ขัดรัฐธรรมนูญ อาจขัดจริยธรรม และส่งผลถึงนายกฯ ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง นายชูศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเทียบเคียงกับกรณีอื่นๆ ที่ผ่านมามองว่าเป็นคนละเรื่องกัน นี่เป็นตัวบุคคล แต่ถ้าถามว่าได้ตรวจสอบแล้วหรือไม่ ก็ต้องยืนยันว่ามีการตรวจสอบจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แต่ขอย้ำว่าต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครรู้ จึงไม่อยากไปฟันธงว่าผิดหรือไม่ผิด
ถามว่า ในฐานะที่นายพีระพันธุ์เป็นนักกฎหมาย มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่ตกม้าตายเรื่องนี้ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ ซึ่งการแต่งตั้งบุคคล นายกฯ ได้ใช้ดุลยพินิจในการตรวจสอบ รวมถึงมีการตรวจสอบโดย สลค.อย่างละเอียดทุกคน ซึ่งมองว่าได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่แล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ
'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


