พสกนิกรทั่วหล้าเทิดไท้องค์ราชินี47พรรษา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิ.ย. พร้อมโปรดเกล้าฯ ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์   

ปล่อยโค นก ปลา "นายกฯ" นำคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล  "เหล่าทัพ" ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ   "พสกนิกร" ทั่วหล้าสวมใส่เสื้อสีม่วงเทิดไท้องค์ราชินี จัดกิจกรรมจิตอาสาแสดงออกถึงความจงรักภักดี "สงขลา" แปรอักษรรูปตราสัญลักษณ์ “สท.” พร้อมข้อความ "ทรงพระเจริญ"

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2568 เวลา 17.37 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ 

พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงชานหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม บรรพชิตจีนและญวน ถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้น เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนพระมหามงคล 1 คู่ ที่ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลา เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางกระทงดอกไม้บนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร  ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย

จากนั้น ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์บนแท่น และพระราชทานเงินแก่ข้าราชการผู้ทำหน้าที่โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ จากนั้น เสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาสน์

จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร  เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระบรมวงศ์ เสร็จแล้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 และพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล พระสงฆ์ 48 รูป เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบทเสกน้ำพระพุทธมนต์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบพระกริ่งอุบาเก็ง ทรงประเคนพระครอบพระกริ่งอุบาเก็งแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 48 รูป เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา

จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง  เสด็จพระราชดำเนินกลับ

นายกฯ นำคณะทำบุญตักบาตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างสวมใส่เสื้อสีม่วง เฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินตลอดเส้นทาง

ก่อนหน้านั้น เวลา 07.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลปล่อยโค นก และปลา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ 3 มิ.ย.2568 ณ ท่าวาสุกรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ ประธานองคมนตรีประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่โค และปล่อยโค จำนวน 1 คู่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่ครอบครัวเกษตรกร นางพันธ์ นนทะนำ บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ที่ 6 ตำบลสวนจิก อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์เพิ่มผลผลิต กับประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่กรงนก  ปล่อยนกเขาชวา จำนวน 48 ตัว กลับคืนสู่ธรรมชาติ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่ตู้ปลา ตัดแถบแพรตู้ปลา ปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด จำนวน 1,000,000 ตัว ซึ่งกรมประมงน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ประกอบด้วย

ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลายี่สกไทย ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อยขาว ปลากระแห ปลาโพง ปลาเทพา และปลาชะโอน ลงแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เจริญเติบโตเพาะขยายพันธุ์ตามธรรมชาติและรักษาความสมดุล

ตามระบบนิเวศต่อไป

ที่บริเวณท้องสนามหลวง เวลา 07.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิ.ย.2568 โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลปกครองสูงสุด  ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า  ปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมพิธี

เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางมาถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ  พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์  นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย  ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ให้ศีล พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานวุฒิสภา (ผู้แทน ประธานรัฐสภา) ประธานศาลปกครองสูงสุด  ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และส่วนราชการในพระองค์ ถวายผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม แด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย   ถวายความเคารพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคู่สมรสนำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 148 รูป เมื่อเสร็จพิธี นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส เดินทางไปลงนามถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังเปิดให้สมาชิกราชสกุล องคมนตรี คณะทูตานุทูต ผู้นำศาสนา นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และคู่สมรส องค์กรอิสระ ผู้นำเหล่าทัพ บุคคลสำคัญ หน่วยงานภาครัฐ-ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป นำแจกันดอกไม้มาทูลเกล้าฯ ถวายเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิ.ย.2568  พร้อมลงนามถวายพระพร ให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

พสกนิกรทั่วหล้าใส่เสื้่อสีม่วง

โดยเวลา 12.00 น. เหล่าทัพได้มีการยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา โดยในส่วนของกองทัพบก ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ส่วนกองทัพเรือ ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ โดยกองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ขณะที่กองทัพอากาศ ณ อุทยานการบินกองทัพอากาศ โดยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน

จ.เชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ นำส่วนราชการและประชาชนจิตอาสา ร่วมกันทำกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ บริเวณโดยรอบศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ครบ 47 พรรษา 3 มิ.ย.2568 โดยประชาชนจิตอาสาจังหวัดเชียงใหม่สวมใส่เสื้อสีม่วงนับร้อยคน ได้ร่วมกันทำความสะอาดและปรับภูมิทัศน์ ตัดหญ้าและกวาดเศษขยะ ใบไม้แห้งต่างๆ บริเวณโดยรอบของศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น เป็นไปตามแนวทางของโครงการจิตอาสาพระราชทานเราทำความดีด้วยหัวใจ แสดงออกถึงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และสร้างความสมัครสมานสามัคคี เพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน โดยแต่ละอำเภอทั้ง 25 แห่งก็มีการจัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะพร้อมกันทั้งจังหวัดด้วย

จ.นครราชสีมา บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯ นครราชสีมา นำหัวหน้าส่วนราชการ ศาล อัยการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ สส. สว. และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา สวมใส่เสื้อสีม่วง ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สวดถวายพระพรชัยมงคล และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต  และ ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นำหัวหน้าฝ่าย เจ้าหน้าที่ บุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

จ.ภูเก็ต นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ อัยการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ต ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยมีพระศรีวชิรคุณ เจ้าคณะอำเภอกะทู้ เจ้าอาวาสวัดสิริสีลสุภาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์ออกรับบิณฑบาต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

จ.สงขลา บริเวณสนามกีฬาติณสูลานนท์  อำเภอเมืองฯ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าฯ สงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิ.ย.2568  นอกจากนี้ มีการแปรอักษรเป็นรูปตราสัญลักษณ์ “สท.” พร้อมข้อความ “ทรงพระเจริญ” และ “คนสงขลารัก พระราชินีฯ” อย่างพร้อมเพรียงกันบนลานสนาม สร้างภาพประวัติศาสตร์แห่งความจงรักภักดี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผุด‘ฉก.อินเตอร์’ ปราบแก๊งคอลฯ ‘พท.’ฟุ้งคุม‘มท.’

ผบ.ทสส.เตรียมจัดตั้ง “ฉก.นานาชาติ” ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ดนุพร” ขย่มเชื่อ  3 เดือนข้างหน้าอาชญากรรมจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังเพื่อไทยกุมบังเหียนมหาดไทย