สมศักดิ์เข้าถกแพทยสภา

"สมศักดิ์" ประกาศเข้าร่วมประชุมบอร์ดแพทยสภา 12 มิ.ย.นี้ วาระปมลงโทษ 3 หมอรักษา “ทักษิณ” ชั้น 14 ยันอยู่ตรงกลาง ทำตามกฎหมายทั้งหมด ซัดพวกล่าชื่อสนับสนุนมติแพทยสภา ไม่ใช่วิสัยของผู้ที่มีสติปัญญาที่ดี "ประชาคมแพทย์" ตั้ง 5 คำถาม ชี้จุดตายปมป่วยทิพย์ "แพทย์เวร" ตัวละครลับที่ไม่เคยถูกสอบสวน แนะแพทยสภาหากรู้เป็นใครต้องสอบสวนทันที

เมื่อวันจันทร์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะสภานายกพิเศษ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการแพทยสภาจะมีการประชุมตามวาระปกติในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ และจะมีการพิจารณามติที่ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่า ตนตั้งใจจะไปร่วมประชุมด้วย อาจจะต้องไปทำความเข้าใจ  เพราะเราต้องทำงานร่วมกัน ระหว่างแพทยสภากับแพทย์ ตนอยู่ตรงกลาง คิดว่าทำหน้าที่ตามกฎหมาย และถ้าเป็นไปได้ก็อยากชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อให้เห็นถึงความตั้งใจที่อยากจะแก้ปัญหา

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้มีการสั่งการคณะกรรมการแพทยสภาบางรายให้ออกมติเห็นต่างกับมติของแพทยสภา นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าแพทย์มีวิจารณญาณ มีสติปัญญา มันสมองล้ำเลิศของประเทศอยู่แล้ว ถ้าเราปล่อยปละละเลยให้ผู้คนนำม็อบมากดดันหรืออะไรต่างๆ มันไม่ใช่วิถีทางที่แก้ปัญหา ตนอยากให้ทุกฝ่ายได้คุยกันด้วยเหตุด้วยผล และยอมรับในหลักการที่เรานำหลักเกณฑ์เข้ามา ซึ่งเรื่องนี้ตนจะพยายามที่จะเข้าไปทำความชี้แจง ไปพูดไปคุย เพราะเราต้องทำงานร่วมกัน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า แพทยสภามีการรวบรวมรายชื่อมาร่วมสนับสนุนมติ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่วิสัยของผู้ที่มีสติปัญญาที่ดี

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ได้มอบหมายให้เลขาฯ ยื่นให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตรวจสอบจริยธรรมของคณะกรรมการแพทยสภาที่อยู่ในแชตไลน์หลุด นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการตรวจสอบไปตามข้อเท็จจริง ตามที่มีผู้ร้องเรียนมาก็ต้องดำเนินการ เราจะปล่อยปละละเลย หรือทิ้งจากที่เขาร้องเรียนมามันก็มีความผิดที่เกิดขึ้น จึงต้องดำเนินไปตามขั้นตอนของระบบราชการ เพราะเราเป็นประชาธิปไตย

ทั้งนี้ มีการถามถึงกรณีที่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ออกมาโต้แย้งว่า รมว.สาธารณสุขไม่มีอำนาจให้สอบจริยธรรมของแพทย์ นายสมศักดิ์กล่าวว่า หากไม่มีอำนาจก็สบายจะได้ไม่ต้องทำ แต่ที่ต้องทำเพราะมันมีอำนาจตามกฎหมาย อย่ามาโต้เถียงกันเลย ขอให้มาพบพูดคุยกัน

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์  กรรมการแพทสภาโดยตำแหน่ง โพสต์เฟซบุ๊กเป็นข้อความสั้นๆ ว่า “ขอบคุณที่เป็นห่วงกัน เข้าประชุมแน่นอนครับ”

ทั้งนี้ เพจประชาคมแพทย์ซึ่งมี นพ.ชาติชัย อติชาติ  แพทย์ศิริราช รุ่น 90 เป็นผู้ดูแล โพสต์บทความว่า "สมศักดิ์ โยนลูกระเบิด ที่ชื่อว่า 'แพทย์เวร' ให้แพทยสภา โดยไม่ได้ตั้งใจ" โดยสรุปใจความได้ว่า การที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ออกคำวีโตต่อมติลงโทษกรณีส่งตัวอดีตนายกฯ ออกนอกเรือนจำในคืนแรกของการถูกคุมขัง ได้โยนระเบิดลูกใหญ่กลับมายังแพทยสภาอีกครั้ง เพราะคำว่าแพทย์เวรได้ปรากฏอย่างเป็นทางการในเอกสารวีโตเป็นครั้งแรก และคำนี้ไม่ใช่คำลอยๆ แต่หมายถึงแพทย์เวร ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผอ.รพ.ราชทัณฑ์ นี่คือจุดเปราะบางที่สุดของทั้งคดี เพราะแพทย์เวรคือผู้ที่ชี้ชะตาว่าการส่งตัวทักษิณ ชินวัตร ออกไปรักษานอกเรือนจำในคืนนั้น เป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

"และนี่คือ 5 คำถามสำคัญที่แพทย์เวรต้องตอบ และควรเป็นคำถามที่กรรมการแพทยสภาต้องสืบเสาะ หาตัวแพทย์เวรให้มาตอบคำถาม การปล่อยผ่านเสมือนว่าไม่มีอะไร เพราะไม่มีใครร้อง คือการเพิกเฉยในอำนาจหน้าที่ของกรรมการแพทยสภา ที่หยิบยกกรณีจริยธรรมของแพทย์ขึ้นมาตั้งเรื่องเองได้"

"1.ทำไมต้องส่งตัวตอนเที่ยงคืน? 2.ทำไมต้องไปโรงพยาบาลตำรวจ? 3.ทำไมไม่ใช้ 1669? 4.มีการบันทึกการตัดสินใจหรือไม่? 5.กลัวอะไร หรือถูกสั่ง? ถ้าแพทย์เวรเป็นผู้สุจริต แต่ถูกบังคับหรือขอร้องจากผู้มีอำนาจ ควรเข้าสู่กระบวนการ 'ถูกกันไว้เป็นพยาน' ทันที

เมื่อ 'แพทย์เวร' กลายเป็นตัวละครที่ยืนยันว่ามีอยู่จริง คณะกรรมการแพทยสภาก็เดินมาถึงทางสองแพร่ง ที่ไม่มีเส้นทางไหนปลอดภัยจริง ทางที่ 1 : ยืนยันว่า 'ไม่มีแพทย์เวร' ทางที่ 2 : ยอมรับว่ามีแพทย์เวร และควรสอบสวนเพิ่มเติม

ประชาคมแพทย์เสนอให้ กรรมการแพทยสภาดำเนินการ 3 ประการ ดังนี้ 1.ในการประชุมวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ขอให้มีมติยืนยันตามมติเดิมของวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ด้วยเหตุผลว่าตัดสินไปตามข้อมูลข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่ปรากฏ ณ เวลานั้น 2.ตั้งชุดอนุกรรมการสอบสวนชุดใหม่ เนื่องจากเชื่อว่าสภานายกพิเศษ ได้รับข้อมูลใหม่จากกลุ่มแพทย์บางท่าน ซึ่งรวมทั้งหมอราชทัณฑ์ที่ขอความเป็นธรรม จนเป็นที่มาในเอกสารสำนวนของการวีโต ที่มีการระบุว่าแพทย์เวรเป็นผู้ให้ความเห็น 3.เมื่อทราบว่าแพทย์เวรคือใครแล้ว ให้ดำเนินการสอบสวนแพทย์เวรท่านนั้นทันที"

วันเดียวกัน แพทย์รามาธิบดี รุ่นที่ 15 (ปีการศึกษา พ.ศ. 2522-2527) ได้ออกแถลงเจตนารมณ์ระบุว่า "แพทย์รามาธิบดีรุ่น 15 จำนวนเกินกว่าร้อยละ 74 ของทั้งรุ่น สนับสนุนการยืนยันมติเดิมของแพทยสภาเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เกี่ยวกับจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ในกรณีการให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้แถลงการณ์นำโดย นพ.วิทยา สังขรัตน์, นพ.ปราโมทย์  อิ่มวัฒนา, นพ.วิชัย แท่นธรรมโรจน์ จากการลงชื่อถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 รวม 53 คน คิดเป็นร้อยละ 74.65 ของทั้งรุ่น"

ขณะที่ศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รุ่นที่ 18 ออกแถลงการณ์แสดงพลังใจและจุดยืน  เพื่อสนับสนุนแพทยสภาในการรับรองมติที่ยึดหลักความถูกต้อง ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ และธำรงไว้ซึ่งมาตรฐานแห่งวิชาชีพ โดยมีแพทย์ร่วมลงชื่อ 27 คน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.