‘บิ๊กอ้วน’ผวา3จว.หนุนม็อบ โอนเงินพุ่ง!ช่วยท่อน้ำเลี้ยง

"ภูมิธรรม" ปูด จว.ชายแดนนำคนเข้ามาเติมม็อบ ลั่นไม่ควรทำไม่มีเหตุผลที่จะชุมนุม แกนนำ "คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” เข้าหารือตำรวจนครบาล วางแนวทางการชุมนุมไม่ให้ละเมิดกฎหมาย ยันยุติชุมชุมแค่ 3 ทุ่ม กระแสโอนเงินพุ่ง! หนุนม็อบปกป้องอธิปไตยทะลุ 5 ล้านบาท “ผบ.ตร.” เผยการข่าวยังไม่พบมือที่ 3 ป่วนม็อบ เข้าใจผู้ชุมนุมใช้สิทธิตาม รธน. แต่ต้องเคารพกฎหมาย เชื่อมีอดีตเป็นบทเรียน

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 23 มิถุนายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมใหญ่ของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้น่าเป็นห่วงหรือไม่ว่า ม็อบเข้ามาก็ต้องมีเหตุผล เพราะวันนี้ประเทศกำลังเดินไปข้างหน้า สิ่งที่กัมพูชาต้องการมากที่สุดคือความอ่อนแอภายในประเทศ วันนี้ไม่มีเหตุผลที่จะมาชุมนุม การอยากแสดงความคิดเห็น หรือมีทัศนคติต่อรัฐบาลและนายกฯ ก็มีสิทธิ์ทำได้ แต่อย่าหวังที่จะทำอะไรให้มากเกินเลยไป เพราะประเทศมาถึงวันนี้บอบชํ้ามามากแล้ว สถานการณ์ขณะนี้มีการรบกันระหว่างประเทศ มีการจะปิดอ่าว ขนส่งนํ้ามัน จะไม่ให้เดินทาง ประเด็นเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อประเทศรุนแรงอยู่แล้ว ดังนั้นม็อบก็ไม่ควรเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะมาซํ้าเติม

 “ผมได้ยินมาว่า มีจังหวัดชายแดนแถวศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์จะนำคนเข้ามาเติม ผมคิดว่าไม่ควรทำ หากอยากแสดงความเห็นไม่ต้องเข้ามาก็ได้ สามารถแสดงความคิดเห็นที่จังหวัดได้เลย” นายภูมิธรรมกล่าว

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายนิติธร ล้ำเหลือ และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. พร้อมคณะแนวร่วมเดินทางมาประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงแนวทางการชุมนุมซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมี พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1, นายสบโชค ณ ศรีโต  ผู้อำนวยการเขตราชเทวี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยการพูดคุยวันนี้เกี่ยวกับขั้นตอนทางกฎหมาย ในการบริหารพื้นที่จัดการชุมนุม ด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม โดยจะมีผู้หารือที่เกี่ยวข้องคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจและตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดจุดการจัดเวที พร้อมกันนี้ได้ชี้แจงเหตุผลและความต้องการ อยากให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยตลอดการชุมนุม ตั้งจุดคัดกรองในการดูแลป้องกันมือที่ 3 พร้อมทั้งขอให้ตำรวจไม่สร้างบรรยากาศ โดยการนำตำรวจควบคุมฝูงชนมาในพื้นที่ และอำนวยความสะดวกเรื่องไฟฟ้า รถสุขา รวมถึงขอใช้ช่องทางการจราจรบางส่วน แต่ไม่ได้ต้องการให้ปิดการจราจร  และยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และไม่มีการเคลื่อนย้ายการชุมนุม ไม่ค้างคืน

พล.ต.ต.อัฏธพรได้ให้แกนนำชี้แจงแผนผังการจัดตั้งเวที และการใช้พื้นที่ทำกิจกรรม พร้อมระบุว่าการจัดกิจกรรมต้องให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของการจราจร ซึ่งจากการประเมินภาพรวมพบว่า การทำกิจกรรมไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นจึงได้ให้มีการตั้งชุดประสานงานกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่  เพื่อหารือถึงการจัดเวทีและใช้พื้นที่จัดกิจกรรมให้เข้าใจตรงกัน ส่วนการดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม ตำรวจจะมีการตั้งจุดคัดกรอง 4 มุม และชั้นนอกจะมีการตั้งจุดตรวจด้วยเพื่อเป็นการป้องปราม และยืนยันว่ามาตรการทั้งหมดไม่ได้เป็นการปิดกั้นประชาชนเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม แต่เพื่อให้เข้าและออกอย่างปลอดภัย ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยเรื่องนี้ และได้กำชับมา

ม็อบเลิกชุมนุมแค่ 3 ทุ่ม

ด้านนายนิติธรเปิดเผยภายหลังหารือว่า เบื้องต้นกลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการเข้าใช้พื้นที่ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 27 มิ.ย. โดยตำรวจจะสนับสนุนในการอำนวยความสะดวกการจราจร ปิดถนน 1 ช่องทางเพื่อให้ใช้ในการตั้งเวที เบื้องต้นคาดการณ์ว่าผู้ชุมนุมจะเริ่มเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 28 มิ.ย. ยืนยันไม่มีการค้างคืนและจะยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. ซึ่งจากการประเมินด้านการข่าวขณะนี้ พบกระแสข่าวว่าอาจจะมีประเทศที่ไม่หวังดีส่งคนมาสร้างสถานการณ์ แต่ส่วนนี้ยังไม่มีผู้ยืนยันข้อเท็จจริง ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ขนลุกจริงๆ ครับ ผ่านไป 1 ชั่วโมง มีผู้โอนเงิน 1,569 รายการ เป็นเงิน 685,417.01  บาท เข้าบัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อให้มูลนิธินำเงินไปมอบให้ 'กลุ่มพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย' ที่จะจัดกิจกรรมชุมนุมสาธารณะเพื่อให้ความรู้และแสดงความรักชาติปกป้องอธิปไตยไทย ในวันที่ 28 มิถุนายน 2568"

สำหรับผู้ที่ต้องการสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้น สามารถโอนเงินมาที่บัญชี 1.มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย บัญชีกระแสรายวันเลขที่ 008-109529-9 โดยมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินให้เพิ่มชื่อผู้ที่เบิกจ่ายบัญชีนี้ 2 ใน 3 คน คือ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, อ.แก้วสรร อติโพธิ และทนายนิติธร ล้ำเหลือ 2.บัญชีนี้จะเปิดรับบริจาคถึงวันที่ 28 มิ.ย. 68 เท่านั้น และจะปิดเคลียร์บัญชีในวันที่ 29 มิ.ย. 68 โดยจะแจ้งเปิดเผยรายรับและรายจ่ายทั้งหมด โดยขณะนี้บัญชีนี้มีเงินอยู่เพียง 0 บาท 3.เมื่อจบโครงการนี้แล้วหากมีเงินคงเหลือจะนำไปบริจาค หรือซื้อสิ่งของสนับสนุนการทำงานของกองทัพภาคที่ 2 ทั้งหมด

ต่อมานายปานเทพโพสต์ว่า "ขนลุกยิ่งขึ้นไปอีก ผ่านไป 5 ชั่วโมงเวลา 16.31 น. มีผู้โอนเงินมากกว่า 5,000 รายการทางแอป ไม่สามารถรายงานจำนวนครั้งที่โอนได้มากกว่านี้แล้ว รวมเป็นงิน 4,286,735.74 บาท"

 นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่าวชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.) เปิดเผยว่า เครือข่าย คยปท.มีมติออกแถลงการณ์พร้อมเดินทางไปร่วมชุมนุมกับเครือข่ายพันธมิตร ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ โดย คยปท.มีเครือข่าย 14+1 จาก 14 จังหวัดภาคใต้กับ 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะร่วมกันขับเคลื่อนโดยจะมีตัวแทนจากแต่ละจังหวัดเข้าร่วม เดินทางโดยรถไฟตามสถานีใกล้บ้านเพื่อเข้าร่วมที่อนุสารีย์ขัยฯ มีเจตจำนงให้ น.ส.แพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่และลาออกทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับให้พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลลาออก ตั้งคณะตั้งรัฐบาลใหม่โดยไม่มีพรรคเพื่อไทย แล้วเร่งนำเรื่องผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิด ซึ่งเป็นตัวค้ำยันเศรษฐกิจหลักของประเทศพิจารณาเป็นวาระแห่งชาติอย่างเร่งด่วน เพราะสินค้าทางการเกษตรเกือบทุกชนิดมีผลกระทบทั้งข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ยางพารา ปศุสัตว์และพืชผลไม้

ผบ.ตร.แนะดูอดีตเป็นบทเรียน

ที่ จ.สงขลา น.ส.ไรด๊ะ หมานอินทร์ ชาวบ้าน ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา แกนนำสภาประชาชน 4 ภาค  พร้อมเครือข่ายกว่า 20 คน จาก 6 อำเภอใน จ.สงขลา เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ที่ตำรวจภูธรภาค 9 กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังมีคลิปเสียงเจรจากับผู้นำกัมพูชา เนื่องจากถือว่าทำผิดกฎบ้านเมือง ไม่รักษาแผ่นดินไทย ช่วยเหลือคนต่างชาติเพื่อจะยึดแผ่นดินไทย และเมื่อเวลา 10.00 น. ได้ไปที่ศูนย์ดำรงธรรมยื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดสงขลาด้วย  

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกที่คณะรวมพลังแผ่นดินฯ นัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ วันที่ 28 มิ.ย.นี้ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการประชุมทุกวัน สิ่งสำคัญคือการข่าว การเจรจา และการดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม เข้าใจผู้ชุมนุมแต่ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ส่วนการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและผู้ใช้รถใช้ถนนนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความห่วงใยและต้องตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า อาจมีบุคคลไม่หวังดีหรือกลุ่มมือที่สามเข้ามาก่อเหตุ

"ดังนั้นการข่าวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งจากภายใน ภายนอก และตำรวจภูธรภาคต่างๆ ต้องสืบสวนหาข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมด้านกำลังพลและอุปกรณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตำรวจจะดูแลความปลอดภัยทั้งผู้ชุมนุมและประชาชน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการข่าวที่แน่ชัด ว่าจะมีการระดมคนจำนวนมากมาร่วมชุมนุม มีเพียงการโพสต์ข้อความเชิญชวนตามปกติในโซเชียลมีเดีย ตำรวจเข้าใจดีว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การปฏิบัติก็มีกฎหมายรองรับเช่นกัน"

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า หากทั้งประชาชนและตำรวจให้ความร่วมมือกัน ความสงบเรียบร้อยก็จะเกิดขึ้น และพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชน ขณะนี้มีการประสานงานและขออนุญาตจัดการชุมนุมอย่างถูกต้องแล้ว โดยเบื้องต้นอนุญาตให้จัดได้ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. และมีการยืนยันการชุมนุมในพื้นที่เดียวคือที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับผู้จัดการชุมนุมในพื้นที่ที่มีการจำกัดและดูแลพิเศษเรียบร้อยแล้ว

"การชุมนุมนี้ไม่ต้องจับตาบุคคลใดเป็นพิเศษ แต่มองว่าเป็นปรากฏการณ์ที่มีการรวมตัวกัน และตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แกนนำหลายท่านเป็นผู้ใหญ่ในวงการการเมือง เชื่อว่าสิ่งที่ผ่านมาในอดีตก็เป็นบทเรียนให้กับผู้ชุมนุม ว่าหากทำอะไรไปจะเกิดอะไรต่อบ้านเมือง" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบุ.