นายกฯ หวัง “พิชัย” ยกทีมเจรจากำแพงภาษีทรัมป์ได้ข้อสรุป อุบตัวเลขลดกี่เปอร์เซ็นต์ มั่นใจทำดีที่สุดแน่นอน ด้าน “พิชัย” เหินฟ้าคุยสหรัฐฯ ปักธงเปิดโต๊ะเจรจา 3 ก.ค.นี้ กางโจทย์ win-win ทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนข้อสรุปอัตราภาษีจะออกมาเท่าไหร่ยังไม่มีใครตอบได้ พร้อมเดินเครื่องอัดงบบูสต์เศรษฐกิจ 1.15 แสนล้านบาท ลั่นไม่ใช่สารกระตุ้นระยะสั้น แต่ฝันปูพรมระยะยาว
เมื่อวันจันทร์ ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เตรียมเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเจรจาการเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs) ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ได้ให้แนวทางอย่างไรบ้างว่า รายละเอียดนั้นเราได้คุยกันในที่ประชุมหมดแล้วว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง และล่าสุดได้มีการคุยเรื่องรายละเอียดทุกอย่าง ซึ่งวันที่ 1 ก.ค.จะได้เดินทาง
เมื่อถามว่า คาดหวังให้การไปพูดคุยครั้งนี้เป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า คิดว่ารอบนี้ที่ได้เจรจาก็น่าจะได้สรุปคำตอบมาหลายหัวข้ออยู่ เพราะจริงๆ มีเนื้อหารายละเอียดที่ค่อนข้างสำคัญหลายเรื่อง เพราะล่าสุดที่ไปเจรจามาแล้วหนึ่งรอบ เราก็มาดูในด้านของรายละเอียดต่อว่าสามารถปรับอะไรกันได้อย่างไรบ้าง
เมื่อถามอีกว่า เราจะสามารถลดตัวเลขได้กี่เปอร์เซ็นต์ นายกฯ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบเป็นตัวเลข แต่จริงๆ แล้วทางทีมเจรจาก็ทำให้ดีที่สุดแน่นอน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและให้กำลังใจ “ทีมไทยแลนด์” ที่จะเดินทางไปเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐอเมริกาในคืนวันที่ 30 มิ.ย. โดยขอให้ยึดหลักประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อหาจุดสมดุลทางด้านการค้าขายระหว่างประเทศให้ได้ ในช่วงที่ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.การคลัง จะเป็นผู้นำคณะผู้แทนทีมไทยแลนด์ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจามาตรการภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ
"สำหรับการหารือที่สำคัญ คือการประชุมหารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ (Mr.Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative-USTR) ในวันที่ 3 ก.ค. 2568 เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่เก็บกับไทยจาก 36% ให้เหลือต่ำที่สุด โดยที่ผ่านมาไทยได้ยื่นข้อเสนอหลายครั้ง และได้รับสัญญาณที่ดีจากฝั่งสหรัฐฯ นอกจากนี้ ทีมไทยแลนด์ยังมีกำหนดเข้าพบหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของสหรัฐฯ อีก 2-3 หน่วยงาน" นายจิรายุกล่าว
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเดินทางไปเจรจาเรื่องภาษีและการค้ากับสหรัฐฯ ว่า คาดว่าในวันที่ 3 ก.ค.นี้จะสามารถเจรจาในประเด็นดังกล่าวได้ ซึ่งการเจรจาจะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และได้วางโจทย์สำคัญที่จะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ประเทศเป็นหลัก ส่วนจะได้ข้อยุติทันทีหรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่เชื่อว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมที่สหรัฐฯ จะให้เป็นการบ้าน ซึ่งแต่ละประเทศจะแตกต่างกันออกไป สำหรับการหารืออื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องภาษี แต่เป็นเรื่องการค้า กฎเกณฑ์และกติกา ตลอดจนความไม่สะดวกทางการค้าต่างๆ เหล่านี้จะมีการนำมาปรับให้มีความเหมาะสม และมองว่าเป็นข้อดีที่จะทำให้การนำเข้าและส่งออกระหว่างกันมีความคล่องตัวมากขึ้น
“ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นความกังวลของทุกคน เพราะทุกคนมองกันว่าเดดไลน์คือวันที่ 8 ก.ค. 68 ซึ่งเหลือเวลาน้อยมาก โดยผมมีแผนจะเดินทางในคืนวันที่ 30 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะได้เจรจาในอีก 2 วันข้างหน้า แต่ตรงนี้ไม่ใช่การเริ่มคุย เพราะที่ผ่านมามีการหารือกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการยื่นข้อเสนอไปหลายครั้ง แต่รอบนี้ที่ไปคือไปเก็บตกในรายละเอียดส่วนที่เหลือข้อจำกัดของสหรัฐฯ ที่ใส่มาว่าต้องการอะไร โดยวางโจทย์การเจรจาที่จะเป็น win-win ส่วนข้อสรุปอัตราจะออกมาเป็นเท่าไหร่ จะเป็น 18% หรือต่ำกว่านั้น คงไม่มีใครทราบ” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยยังกล่าวถึงแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านงบประมาณ 1.15 แสนล้านบาท ภายใต้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยยืนยันว่าแผนการใช้งบประมาณดังกล่าวไม่ใช่เพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น แต่จะเป็นการสร้างผลในระยะยาว ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การปรับกฎเกณฑ์ และการวางรากฐานที่ยั่งยืนให้ประเทศ
"การใช้งบประมาณในส่วนนี้ได้ถูกออกแบบด้วยหลักเกณฑ์ที่เข้มงวด 8 หลัก เช่น การกระจายงบให้ถั่วถึง การกระตุ้นการจ้างงาน และไม่ใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษหากไม่จำเป็น พร้อมทั้งได้ตั้งคณะติดตามกำกับแผนการใช้เงินโดยตรงจากกรอบ 1.57 แสนล้านบาท โดยได้รับการสกรีนผ่านเกณฑ์แล้ว 1.15 แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้กว่า 79% ใช้กับโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ระบบไฟฟ้า น้ำและถนน ไปจนถึงการจ้างงาน เน้นให้ทันใช้จ่ายจริงภายในปีงบประมาณ เป็นการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ" นายพิชัย กล่าว
ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า การเจรจาของรัฐบาลไทย เราคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ว่าเราจะต้องแก้ไขปัญหาให้มีผลกระทบน้อยที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเปราะบางอย่างภาคการเกษตร ส่วนที่มีหลายคนที่กังวลว่าจะไม่ทันกรอบเวลานั้น ตนไม่ได้กลัวปัญหานี้ เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาก็ถือว่าเราเริ่มนับหนึ่ง ฉะนั้นคงจะไม่มีเหตุการณ์การเจรจาถูกยืดเยื้อ และใช้เวลานานเกินไปจนมีผลกระทบในเรื่องการปรับอัตราภาษี ตรงนี้คงไม่เห็น เพราะเราเร่งดำเนินการอยู่แล้ว และหากดูจากทีท่าของสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ ไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีข้อเสนอที่เขาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีการแสดงความมั่นใจมาว่ากระบวนการคงเดินหน้าไปได้เรียบร้อย โดยเมื่อเข้าสู่การเจรจาสิ่งที่กังวลว่าจะเกิดขึ้นก็จะเหมือนว่าได้รับการชะลอ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง

