ศาลตีตกทักษิณ ขอพิจารณาลับ ไต่สวน9ผู้คุมคุก

ศาลฎีกาเริ่มไต่สวนพยานคดีทักษิณชั้น 14 วันที่ 3 เรียกพัศดีเวร จนท.ราชทัณฑ์ 9 ปากขึ้นสอบ "หมอวรงค์" เผยศาลเข้ม ห้ามเผยรายละเอียด แต่แย้มฟังแล้วหนาว คาดรอบหน้าอาจห้ามจด “นพ.ตุลย์” มึนไต่สวนนักทรัพยากรบุคคล “วิญญัติ” เผยทักษิณไม่ได้ให้ร้องศาลพิจารณาลับ เป็นดุลพินิจทนายเอง

เมื่อวันอังคารที่ 8 ก.ค.2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการนัดไต่สวนครั้งที่ 3 โดยไต่สวนพยานทั้งหมด 9 คน

โดยช่วงเช้าไต่สวนพยาน 5 ปาก ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่พัศดีและเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องระหว่างวันที่ 22 ส.ค.2566-23 ส.ค.2566 ประกอบด้วย 1.นายสัญญา วงศ์หินกอง เจ้าหน้าที่พัศดีเวรประจำวัน 2.นายสมศักดิ์ บุดดีคำ เจ้าหน้าที่ทัณฑวิทยาชำนาญการประจำเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ วันเกิดเหตุ 3.นายจารุวัฒน์ เมืองไทย นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ วันเกิดเหตุควบคุมตัวนายทักษิณจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปส่งตัวที่ รพ.ตำรวจ 4.นายธีระศักดิ์ คงหอม หัวหน้างานตรวจค้นประจำเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หนึ่งในผู้ควบคุมตัวนายทักษิณไปส่ง รพ.ตำรวจ และ 5.นายเทวรุทธ สุนทร อดีตผู้อำนวยการทัณฑส่วนควบคุมผู้ต้องขังไปศาล  ในวันเกิดเหตุเป็นผู้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วนผู้ต้องขัง

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ ได้เเถลงต่อศาลกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้นำรายละเอียดคำเบิกความมาเผยเเพร่ โดยขอให้ศาลทวนมาตรการที่ได้ออก ศาลจึงได้กำชับขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่เผยแพร่รายละเอียดการเบิกความของพยาน มิเช่นนั้นอาจต้องออกมาตรการเพิ่ม

ภายหลังไต่สวนพยานในช่วงเช้า นพ.วรงค์ที่เข้าร่วมรับฟังการสอบพยานกล่าวว่า ศาลมีคำสั่งชัดเจนห้ามเผยแพร่รายละเอียดใดๆ จากการไต่สวน เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี

“ผมอยากพูดความในใจนิดหนึ่งครับ ฟังแล้วหนาวเลย ก็ขอให้สื่อไปพิจารณาเอาเอง” นพ.วรงค์กล่าว และว่า การไต่สวนพยานครั้งต่อไป ศาลอาจเข้มงวดมากขึ้น ถึงขั้นไม่อนุญาตให้จดบันทึกด้วยปากกาในห้องพิจารณาคดี เพื่อป้องกันการนำข้อมูลภายในออกไปเผยแพร่สู่สาธารณะ

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะอดีตแกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า การไต่สวนพยานผ่านไปแล้ว 3 ปาก โดย 2 ท่านแรกเป็นพัศดีเวร ซึ่งได้รับแจ้งจากพยาบาลเวรว่าสมควรส่งตัว เป็นโรคหัวใจ ก็เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนคนที่ 3 เป็นตำแหน่งที่แปลก คือตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคล ได้รับคำสั่งให้สแตนด์บาย จึงไม่เข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์พิเศษหรือไม่ เพราะเขาเป็นคนที่ไปติดตามรถพยาบาลถึง รพ.ตำรวจ ยืนยันเป็นการส่งตัวจากราชทัณฑ์ไปโรงพยาบาลตำรวจ เป็น 1 ใน 4 ที่ได้รับคำสั่งจากเรือนจำหรือราชทัณฑ์ให้มาผลัดเวรดูแลการควบคุมตัว

ต่อเวลา 13.30 น. ศาลไต่สวนพยานกลุ่มเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อีก 4 ปาก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมบริเวณหน้าห้องรักษาตัวของนายทักษิณ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ประกอบด้วย 1.นายนพรัตน์ ไกรแสวง นักทัณฑวิทยาชำนาญการ 2.นายเจนวิทย์ เรือนคำ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญการ 3.นายศิวพันธุ์ มูลกัน เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติการ และ 4.นายนิภัทร์ชล หินสุข เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน

ภายหลังไต่สวนเสร็จสิ้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ กล่าวว่า  กราบขอบคุณศาลที่ได้กำชับในสิ่งที่ได้ร้องขอไป 2 ครั้งแล้วไม่ให้มีการนำข้อเท็จจริงในการเบิกความหรือสาระสำคัญต่างๆ ออกไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ แม้บางคนจะไม่ได้เผยแพร่ความเบิกความ แต่นำไปสรุปและวิเคราะห์ตั้งประเด็นการซักถามของศาลถึงปฏิกิริยาของพยาน ซึ่งไม่ใช่หน้าที่  ทางศาลก็กรุณากำชับให้มีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ความจริงขอให้ศาลออกข้อกำหนดให้พิจารณาคดีลับ แต่ศาลเห็นว่ายังไม่มีเหตุให้พิจารณาลับ จึงยังคงให้การพิจารณาเป็นไปอย่างเปิดเผย ซึ่งภายหลังจากศาลออกคำสั่งแบบนี้ก็ต้องยอมรับ เชื่อว่าหลังจากนี้ถ้าการพิจารณาเสร็จสิ้นและมีคำสั่งของศาลออกมาชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงในคดีก็พร้อมที่จะพูดในภายหลัง แต่ระหว่างนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้

นายวิญญัติกล่าวอีกว่า ศาลนัดไต่สวนอีกครั้งวันที่ 15 ก.ค. และกำหนดพยานเอาไว้ 5-6 ปาก โดยจะเป็นกลุ่มผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และผู้บริหาร รพ.ราชทัณฑ์ หลังจากนั้นจะไต่สวนอีกในวันที่ 18 ก.ค.และ 25 ก.ค. ในส่วนของจำเลย หากศาลยังไม่มีหมายเรียกพยานอื่นเพิ่มเติม ก็จะขอใช้สิทธิ์ระบุพยานจำเลยที่เราประสงค์ไว้เข้ามาเบิกความในวันที่ 30 ก.ค. แต่ก็ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะมีดุลพินิจอย่างไร เราก็จะดูอีกว่าพยานจำเลยซ้ำกับพยานที่ศาลมีหมายเรียกมาหรือไม่ และถ้าคนไหนไม่ซ้ำ และเราเห็นว่ามีข้อเท็จจริงที่อยากให้ศาลทราบ ก็จะเตรียมมา ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่ามีทั้งหมดกี่ปาก แต่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเวลา 1 นัด

“เรื่องการแถลงปิดคดียังไม่ทราบว่าจะมีขึ้นหรือไม่ เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการพิจารณาคดีทั่วไป เป็นการไต่สวนที่ศาลเห็นว่ามีความปรากฏ  การจะให้แถลงปิดคดีหรือไม่ อยู่ที่ดุลพินิจของศาล แต่ถ้าอนุญาต ก็จะแถลงปิดคดี” นายวิญญัติกล่าว

เมื่อถามว่า ประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาออกมาให้สัมภาษณ์ว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง นายวิญญัติกล่าวว่า ไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ คดีนี้ศาลอยากทราบอะไรก็จะออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ส่วนใครจะพูดอะไรก็ขอให้ใช้ดุลพินิจว่าจะรับฟังหรือไม่ และไม่มีความกังวลในคดีนี้ เพราะนายทักษิณมีอาการป่วย และได้รับการปฏิบัติจากหน่วยงานราชการ กระบวนการได้รับสิทธิประโยชน์ในช่วงที่เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดก็ได้รับการปฏิบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

เมื่อถามว่า การร้องขอให้พิจารณาเป็นการลับ เป็นคำสั่งของนายทักษิณหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า นายทักษิณไม่ได้กังวลส่วนนี้ แต่เป็นหน้าที่ของตนเองที่ทำงานอยู่หน้างานอยู่แล้ว ซึ่งเป็นคนประเมินและดูบรรยากาศ และจะดูว่าฟีดแบ็กหรือมีผลอะไรตามมา เพราะเป็นคนหนึ่งที่ต้องช่วยศาลตรวจสอบด้วย จึงถือเป็นดุลยพินิจที่ศาลออกข้อกำหนดออกมา ซึ่งศาลก็กำชับเรื่องที่มีบุคคลไปโพสต์เฟซบุ๊กและออกรายการต่างๆ แล้วให้ข้อมูลขาดๆ เกินๆ ถ้าถึงเวลาเมื่อไหร่ก็จะใช้สิทธิ์ปกตนเอง ซึ่งตอนนี้ยังไม่ร่างคำฟ้องเพื่อฟ้องใคร เพราะยังอยู่ในการไต่สวนอยู่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ