มท.อ้วนโชว์เชือดสิงห์นํ้าเงิน

“ภูมิธรรม" ไม่รอ 3 เดือน โยก 2 อธิบดีสายสีน้ำเงินเข้ากรุ มท.ทันที หลังทำงานเพียง 5 วัน อ้างไม่สนองปราบยาเสพติด ขู่ยังมีลิสต์อีกเพียบ “จุลพันธ์” ปัดถอนร่างกาสิโนเหตุกลัวคว่ำในสภาฯ แค่เปลี่ยนโครงสร้าง ครม.ใหม่ "ปกรณ์วุฒิ" หวังสภาฯ รับทุกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เปิดช่องคุย ม.112 "นายกฯ อิ๊งค์” ยกธรรมะปลงอนิจจัง บอกลูกพรรคสู้คดีศาลเต็มที่ ทวงคืนความเป็นธรรม

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เวลา 09.15 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการพิจารณาโยกย้ายนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ไปเป็นผู้ตรวจราชการจริงหรือไม่ และเขามีความผิดอะไร ว่า รอให้ ครม.พิจารณาวันนี้ก่อน ส่วนกระแสข่าวทั้ง 2 ตำแหน่งดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เห็นลือกันไป มีทั้งปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ตนทำให้เห็นว่าสามารถทำงานได้ ที่บอกว่า 3 เดือนไม่ได้หมายความว่าให้ครบ 3 เดือน อะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานสามารถโยกย้ายได้ ซึ่งตนบอกแล้วว่า ตนเริ่มทำงานตั้งแต่วันแรก

เมื่อถามว่า 2 อธิบดีดังกล่าวที่ถูกโยกย้าย เพราะเป็นสายบุรีรัมย์ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับสายบุรีรัมย์ เกี่ยวกับงาน เมื่อถามต่อว่า งานไหนไม่ตอบโจทย์ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เดี๋ยวเอาให้ชัดเจนก่อนว่าเขาย้ายใคร และยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ตนบอกแล้วว่าตนมาทำงาน นับจากนี้เป็นต้นไปถ้าทำงานก็ไม่มีอะไร ถ้าไม่ทำงาน หรือไม่ทำอะไร โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด

“ซึ่งตอนนี้ก็มีลิสต์อยู่ ตรงไหนไม่ปฏิบัติตาม ไม่ว่าสีไหนทุกสี ถ้าตรงไหนเข้าไปถามแล้วไม่ทำมีปัญหาแน่นอน ซึ่งเวลาผมเข้าไปก็เข้าไปได้เลย ไม่ต้องมีพิธีการ ไม่มีหมายนัด ผมกินข้าวกล่องได้ จากนี้ตนจะไป ถ้าตรงไหนตนเข้าไปแล้วมีปัญหาก็จะดำเนินการ“

ผู้สื่อข่าวถามว่า อธิบดีกรมการปกครองเหลือเวลาอีก 2 เดือนก็จะเกษียณอายุราชการย้ายแบบนี้จะกระทบขวัญกำลังใจข้าราชการหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ทำลาย สิ่งที่ตนดำเนินการข้าราชการส่วนใหญ่ต้องรับรู้ ว่ามันเป็นปัญหาอย่างนี้จริงๆ

เมื่อถามย้ำว่า ข้าราชการที่ใกล้ชิดนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย จะถูกโยกย้ายด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ที่ย้ายไม่ใช่เพราะใกล้ชิดอดีต มท.1 ย้ายเพราะว่าผมต้องการที่จะทำงานในเรื่องยาเสพติด และอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งเอาประสิทธิภาพของงานเป็นหลัก

ส่วนนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จะถูกโยกย้ายด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะย้ายคนไหน ตนเข้ามาดูรายละเอียดของงาน และดูว่าตรงไหนมีอุปสรรคและปัญหา ก็จะดำเนินการ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปรับกำลังอยู่แล้ว ถ้าจิ้มแล้วตรงไหนมีปัญหาก็ดำเนินการ อันไหนดีก็ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่า สาเหตุที่ย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง เพราะเป็นสายของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนเคยไปแก้ปัญหาน้ำท่วมในภาคเหนือ อย่างเช่นไปเจอที่เชียงใหม่ก็เห็นการทำงานอยู่แล้ว ใครดีไม่ดีอย่างไรเดี๋ยวก็รู้ ซึ่งตอนนี้ตนเอ็กซเรย์ทั้งประเทศ ไม่ใช่เอ็กซเรย์เฉพาะตรงนั้นตรงนี้ ในลิสต์ของตนใครแอคทีฟหรือใครตีกอล์ฟตลอดมีอยู่ ตนเคยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ากลไกสำคัญ ที่ทำให้นโยบายต่างๆ ไม่ลงไป ส่วนหนึ่งถูกแช่แป้งจากฝ่ายนโยบาย ส่วนหนึ่งก็เกิดจากฝ่ายปฏิบัติ

ต่อมา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่าที่ประชุม ครม.มีมติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูงทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมา โดยเห็นชอบให้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครองไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง พร้อมให้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองแทน ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นชอบให้ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้ ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแทน             

อิ๊งค์ยกธรรมะปลงอนิจจัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เข้าร่วมประชุม ครม. โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการแต่งตั้งคณะทำงานเรื่องการชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยหรือยัง น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแต่ยิ้มให้สื่อมวลชน จากนั้นช่วงบ่าย น.ส.แพทองธารได้แชร์ข้อความธรรมะของแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผ่านสตอรี่อินสตาแกรม ข้อความว่า “ความเปลี่ยนแปลงเป็นอนิจจัง อยากอยู่เย็นเป็นสุข ต้องอยู่อย่างไม่ทุกข์กับความเปลี่ยนแปลง“

นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีข่าวว่า เรื่องใน ครม.ขอให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ตอบ แต่ว่าเรื่องที่อยู่ใน ครม.ไม่ควรที่จะมีใครเอามาพูด ซึ่งบางทีพูดมาแล้วนำมาพูดสั้นๆ มันผิด มันไม่ถูกต้องกับข้อเท็จจริง ตรงนี้ต้องขอตำหนิ 2 เรื่อง 1.คนที่เอาเรื่องในที่ประชุม ครม.มาพูด 2.การเผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กตน ซึ่งตั้งความเป็นส่วนตัวไว้ แต่ก็มีการนำมาลง ซึ่งตนตั้งใจเขียนให้เพื่อนในเฟซบุ๊กได้อ่านกัน คุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่เมื่อออกมาแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ขอร้องอย่าทำอีก ทำอย่างนี้ไม่ดีเลย

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการมองข้อกฎหมายคนละมุมกัน นายปกรณ์กล่าวว่า มันไม่คนละมุมหรอก จริงๆ มันอยู่ที่หลักการ มันเป็นอย่างไรมันก็เป็นอย่างนั้น ไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ควรจะเป็น หลักจริงๆ เวลาอธิบายควรจะอธิบายหลัก ไม่ใช่อธิบายผล แล้วมาบอกว่าอย่างนี้ก็ทำได้ อย่างนั้นก็ทำได้ ซึ่งมันไม่ใช่ แต่วิธีอธิบายกฎหมายคือ ที่มาที่ไปของมันเป็นอย่างไร แล้วมันจะส่งผลอะไร นั่นคือสิ่งที่ต้องอธิบาย แต่เราไม่ได้บอกว่าเป็นเช่นนี้แล้วจะหาเหตุผลอธิบาย ซึ่งมันไม่ใช่ ผิด อันนั้นไม่ถูกเลย

วันเดียวกัน โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังนำเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติถอน “ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.....” ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยในที่ประชุม ครม. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า กระทรวงการคลังได้เสนอขอถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาฯ เนื่องจากได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และมีการแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาคสังคม เห็นสมควรถอน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว    

นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยระบุว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งใจถอนร่างดังกล่าว แต่กลัวแพ้มติในสภาว่า ไม่ได้ห่วงเรื่องเสียงในสภา ได้มีการย้ำในที่ประชุมว่า ครม.ต้องไปทำงานที่สภา เพราะเสียงไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน แต่รัฐบาลต้องมั่นใจว่ามีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการถอนหรือเลื่อน ต้องใช้เสียงข้างมากทั้งสิ้น

โต้ถอนกาสิโนเหตุปรับ ครม.

ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีบางพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย จึงจำเป็นต้องถอนไปก่อนนั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยังไม่มีพรรคใดระบุว่าไม่เห็นด้วย แต่สาเหตุที่ถอน เพราะต้องการให้พิจารณาอีกครั้ง เพราะ ครม.เปลี่ยนหน้าเยอะจริงๆ เมื่อถามย้ำว่าจะไม่ใช่การยกเลิก ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ย้ำว่า ถอนครับ เราต้องใช้คำที่อยู่ในกฎหมาย 

เมื่อถามว่า นโยบายดังกล่าวนี้เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย แล้วเมื่อไรจะได้ทำ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เราอยู่กับความเป็นจริง นาทีนี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เรายอมรับและต้องยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ รัฐบาลก็จะมองถึงจังหวะเวลาที่มีความพร้อมและเหมาะสมต่อไป

นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทยมีมติไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....เพราะเป็นการถอนที่ไม่จริงใจ เพราะเกรงว่าจะแพ้ในการลงมติ เนื่องจากมี สส.ฝ่ายรัฐบาลมากกว่า 30 คน ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ที่จะอนุญาตให้มีกาสิโนในประเทศไทย ซึ่งจะซ่อนมาในรูปของสถานบันเทิงครบวงจร รัฐบาลไม่ได้มีความจริงใจที่จะยกเลิกการอนุญาตให้มีกาสิโนในประเทศไทย แต่กลัวแพ้การลงมติ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับรัฐบาล ไม่ยุบสภา ก็ต้องลาออก ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ ขอให้แถลงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่ารัฐบาลจะไม่เสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ที่มีกาสิโนเข้ามาให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอีก ถ้ารัฐบาลแถลงชัดเจนแบบนี้ พรรคภูมิใจไทยจะมีมติสนับสนุนให้ถอน แต่ถ้าถอนออกไปก่อน ยังไม่เลิก เพียงแต่รอจังหวะเวลา แล้วส่งเข้ามาอีก ก็เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐบาล ว่ายังมีนโยบายให้มีกาสิโนในประเทศไทย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะคัดค้านถึงที่สุด ถ้าถอนแบบนี้ เราไม่เห็นด้วยที่จะให้ถอน

ด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ร่างของพรรคประชาชนระบุไว้เลยว่า ให้นิรโทษกรรมคดี 112 ด้วย ซึ่งความเห็นของตนสามารถรับไปทุกร่างและไปพูดคุยในชั้นกรรมาธิการได้

เมื่อถามว่า วิปรัฐบาลมีมติไม่รับร่างพรรคประชาชนและภาคประชาชน นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตนได้อ่านมติของวิปรัฐบาลแล้ว ไม่มีมติคว่ำร่าง ของพรรคประชาชน แต่ไม่แน่ใจว่าตัวแทนของวิปที่ออกมาให้ข่าว คือรวมไทยสร้างชาติ ตนไม่ทราบเจตนาว่าเป็นอย่างไร และได้รับคำยืนยันจากพรรคอื่นๆ ว่า ยังไม่มีมติในเรื่องนี้ เพียงแต่มีมติรับหลักการของพรรครวมไทยสร้างชาติ และร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม ส่วนร่างอื่นๆ ไม่มีมติอะไร บางพรรคออกมาพูดเกินสิ่งที่รัฐบาลคุยกัน น่าจะต้องให้เกียรติกันมากกว่านี้ เพราะทำให้สังคมเข้าใจผิด ว่าผลที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เป็นการสร้างอำนาจต่อรองและกดดันทางพรรคใหญ่หรือไม่ 

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เวลา 15.00 น. มีการประชุม สส.พรรคประจำสัปดาห์ โดยมี น.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเข้าประชุมพรรคในครั้งนี้ด้วย โดยเพื่อนสมาชิกได้มอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายกฯ

จากนั้น นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุม สส.พรรคว่า นายกฯ ให้ความมั่นใจกับ สส.ในฐานะสมาชิกพรรคว่าเรายังเดินหน้าทำงานอย่างเข้มข้นต่อ นายกฯ ยังมีกำลังใจที่ดี ให้ความมั่นใจกับสมาชิกพรรคว่ามีเจตนาในการดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ และจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อคืนความชอบธรรมกลับมาให้เราสามารถดำเนินการ และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

ในระหว่างนี้ไม่ต้องมีความกังวล เพราะเรามีรองนายกฯ ที่รักษาการนายกฯ ในการดำเนินนโยบายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และให้คำมั่นกับเพื่อน สส.ทุกท่านว่าเวลานี้เป็นเวลาของการส่งมอบนโยบายของพรรคถึงมือพี่น้องประชาชน ด้วยความที่เราสามารถตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้แล้ว เป็นจังหวะที่ดีที่เราจะใช้กลไกในฝั่งบริหารทั้งหมด เพื่อผลักดันนโยบายที่ยังติดขัดอยู่ของพรรคเพื่อไทยให้ถึงมือพี่น้องประชาชนให้ได้ โดยเพื่อนสมาชิกยังเชื่อมั่นและมั่นใจว่านายกฯ จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ และสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด.