“กธ.-รทสช.” ประสานเสียง ไม่นิรโทษฯ คดี ม.112-ทุจริต “ไผ่” การันตีไม่มีเอาใครกลับบ้าน “ธนกร” โต้ “ปิยบุตร” ยุยงปลุกปั่น ด้าน “โรม” จี้จุด พท. โหวตสวนพรรคร่วมฯ อย่ายอมโดนขี่คอ “จตุพร” แนะใช้ 66/23 โมเดล
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรค กธ. ต่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมว่า ได้คุยกับ สส.ทุกคน ทุกพรรคการเมือง เราอยากให้เกิดการนิรโทษกรรม ซึ่งการจะทำให้สำเร็จต้องพูดคุยกันทุกพรรค โดยการเมืองนั้นเริ่มจากสีเหลือง สีแดง สีส้ม เราต้องแก้ไขตรงนี้ให้กับผู้ต้องหาทางการเมือง ทั้งนี้ จุดยืนของพรรค กธ.คือไม่นิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ผู้ต้องหาคดีทุจริต ผู้ต้องหาฆ่าคนตาย และคดีที่มีความรุนแรง ดังนั้น ขอให้ประชาชนสบายใจได้ และยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยให้ใครกลับมา ทั้งหมดทำเพื่อส่วนรวม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 5 ฉบับ พรรค กธ.จะรับฉบับใดบ้าง นายไผ่ตอบว่า ต้องคุยกัน แต่ส่วนตัวหากบอกในนามพรรคก็รับร่างของนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค กธ. ส่วนร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) คิดว่า ไม่น่ามีปัญหา ตนอยากให้รับร่างทุกฉบับแล้วมาคุยกันในกรรมาธิการ (กมธ.) น่าจะดีที่สุด
ส่วนกรณีไอลอว์ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะล้างความผิดให้กับกรณีทุจริตเลือกตั้งทั้ง สส.และ สว. นายไผ่ระบุว่า จากที่ตนได้ฟังมา เข้าใจว่าเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งหรือไม่ แต่หากเป็นการทุจริตเลือกตั้ง ยืนยันเราไม่เห็นด้วย แต่อยากให้รอดูก่อน เพราะนี่เพิ่งวาระแรก พอ กมธ.พูดคุยกันเสร็จแล้วถึงจะมาพูดกันได้ว่ารวมเรื่องใดบ้าง แต่รับประกันว่าครั้งนี้จะไม่มีหมกเม็ดเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน เราต้องช่วยทำให้บ้านเมืองสลายสีเสื้อ เพราะตอนนี้สีเริ่มสลายแล้ว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่พรรคประชาชน (ปชน.) ระบุว่าไม่ควรตั้งเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 เพราะจะทำให้ไม่เกิดความปรองดอง นายไผ่กล่าวว่า เรื่องของพรรค ปชน.ไม่เกี่ยวกับตน พูดตรงๆ ว่าเรื่องนี้อยู่สูงกว่าที่ตนจะพูด แต่หากย้อนกลับไปดู การอภัยโทษคดี มาตรา 112 มีมาตลอดอยู่แล้ว อย่าไปก้าวล่วงพระราชอำนาจ อย่าเอาเรื่องนี้มาจุดประเด็น เพราะเขาทำกันอยู่แล้ว
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับของพรรค รทสช.ว่า ขอยืนยันว่าร่างของพรรคเห็นควรให้มีการนิรโทษกรรมคดีการเมืองทั่วไปที่ไม่ก่อเหตุรุนแรง ย้อนหลังไปตั้งแต่มีการชุมนุมสร้างความขัดแย้งในสังคมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยไม่เลือกช่วยบางกลุ่มบางฝ่ายตามที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.กล่าวหา ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับร่างดังกล่าวได้เลย ได้ระบุชัดเจนถึงหลักการและเหตุผล โดยทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า สิ่งสำคัญของการจะนิรโทษกรรมต้องมีคณะกรรมการที่เป็นอิสระ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อเข้ามากลั่นกรองชี้ขาดคดีที่จะได้รับการนิรโทษกรรม
นายธนกรยังระบุว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าการที่นายรังสิมันต์กล่าวหาว่าเลือกปฏิบัตินั้น เป็นเพราะร่างของพรรค รทสช. รวมถึงทุกพรรคการเมืองที่เสนอต่อสภาไม่มีการรวมคดีมาตรา 112 ใช่หรือไม่ จึงทำให้พาล กล่าวหาพรรคอื่นที่เห็นต่างว่าเลือกปฏิบัติ ขอยืนยันชัดเจนว่าพรรค รทสช.ยึดหลักนิติรัฐนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ เนื่องจากเป็นคดีหมิ่นเบื้องสูงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นความมั่นคงของรัฐ ถือเป็นคดีร้ายแรง และไม่ใช่คดีการเมือง ไม่สามารถยอมความหรือนิรโทษกรรมได้ หากมีการยกโทษให้จะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้ผู้กระทำความผิดไม่ตระหนักถึงความสำคัญและอาจมีผู้ละเมิดกฎหมายมากขึ้น
“ขอฝากไปยังนายรังสิมันต์ ก่อนจะกล่าวหาผู้อื่นต้องคิดให้ดี รอบคอบ อย่าเป็นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ เมื่อไม่สบอารมณ์หรือได้ตามที่ต้องการก็พาลกล่าวหาเพื่อน ขอให้เปิดใจกว้างและมองบนหลักการรัฐธรรมนูญที่ถูกต้อง อย่าพยายามสร้างความสับสนให้กับสังคม เหมารวมทุกคดีเป็นคดีการเมือง แบบนั้นไม่ได้" นายธนกรระบุ
นายธนกรยังกล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในสภาว่า มีข้อรังเกียจประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพราะไม่มีใบอนุญาตนั้น นายปิยบุตรกำลังบิดเบือน ยุยงปลุกปั่นคนในสังคมให้มีความเข้าใจผิด สร้างความแตกแยกในสังคมมาตลอด เพราะใบอนุญาตที่แท้จริงคือมาจากประชาชนทั้งประเทศ และผู้แทนของประชาชนโดย สส.ผ่านระบบสภาฯ
ด้านนายรังสิมันต์กล่าวถึงจุดยืนของพรรคร่วมรัฐบาลว่า เรื่องพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล แต่พรรคเพื่อไทย (พท.) ต้องตอบให้ชัดว่า การที่พรรค พท.ไม่โหวตร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมของพรรค ปชน.และภาคประชาชนคืออะไร เมื่อคุณตัดสินใจอย่างไร คุณก็ต้องรับผลการกระทำ อย่าทำตัวเป็นเหยื่อก็แล้วกัน
เมื่อถามว่า พรรค พท.สามารถมีมติต่างจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ตอบว่า “ใช่ ไม่ได้หมายความว่าให้พรรคร่วมฯ มาขี่คอ หากจะบอกว่าพรรคร่วมฯ มีมติเช่นนี้ เสียงส่วนใหญ่เช่นนี้ แสดงว่าพรรค พท.ยอมให้พรรคร่วมฯ ขี่คอ”
วันเดียวกัน นายปิยบุตรโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งระบุว่า เหตุที่บรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองจำนวนมากตั้งข้อรังเกียจกับการนิรโทษกรรมในความผิดการแสดงออกทางการเมือง โดยรวมความผิดตามมาตรา 112 ไปด้วยนั้น ไม่มีเหตุผลอื่นใดหรอก นอกจาก ยังไม่มี "ใบอนุญาต" ให้ทำ จึงเกรงว่า หากทำลงไปแล้วจะถูกยึด "ใบอนุญาต" ที่ให้เป็นรัฐบาล หรือตัดโอกาสการได้ "ใบอนุญาต" ให้เป็นรัฐบาล ลองถ้ามีปาฏิหาริย์ มี "ใบอนุญาต" ให้นิรโทษกรรมขึ้นมาสิ ขี้คร้านจะกลับลำ 360 องศา จนคนดูงงไปตามๆ กัน
นายปิยบุตรระบุต่อไปว่า ปัญหาที่ควรขบคิดพิจารณาต่อไป ถ้าสัมพันธภาพทางอำนาจตามการเมืองความเป็นจริงนี้บอกเราว่า นิรโทษกรรมความผิดตามมาตรา 112 โดยพลการไม่ได้ ต้องมี "ใบอนุญาต" เสียก่อน บรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองได้พยายามหา "ใบอนุญาต" เพื่อนิรโทษกรรมคดี 112 นั้นแล้วหรือยัง? แล้วเหตุใดการตรากฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งเป็นอำนาจนิติบัญญัติของสภาผู้แทนราษฎร กลับต้องมี "ใบอนุญาต" เสียก่อน ตกลงแล้วสภาของผู้ที่รวมตัวกันแล้วอ้างเป็นผู้แทนของราษฎร เป็น "ผู้แทน" ของ "ใคร" กันแน่? นักการเมืองและพรรคการเมืองไทยในยุคนี้ ขี้ขลาดขี้กลัวกว่านักการเมืองและพรรคการเมืองไทยในอดีตมาก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งประธานวิปรัฐบาลบอกจะเอาร่างของพรรค รทสช.เป็นหลักว่า อย่าเพิ่งถลำไปมีความเห็นอื่นใดในตอนนี้ เพราะต้องรอให้เกิดเป็นจริงขึ้นก่อน อย่างไรก็ตาม ตนสนับสนุนการนิรโทษกรรมโดยเอาต้นแบบจากนโยบาย 66/23 ที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และคณะทำจนประสบความสำเร็จมาแล้วในยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ
มีความเคลื่อนไหวจากแฟนเพจ อานนท์ นำภา ของนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรม ปัจจุบันรับโทษจำคุกจากคดีทางการเมืองต่างๆ มากว่า 29 ปี เผยแพร่จดหมายอานนท์ที่เขียนขึ้นในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ฉบับวันที่ 7 ก.ค.68 ระบุเป็นภาษาไทยและอังกฤษถึงเหตุผลที่ไม่ลี้ภัยการเมือง ความตอนหนึ่งระบุว่า ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การพูดความจริงเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ การวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความปรารถนาดีที่จะทำให้สังคมตื่นรู้ เวลาไม่ได้อยู่ข้างเราเพียงอย่างเดียว แต่เวลายังทำหน้าที่พิสูจน์สิ่งที่เราต่อสู้ให้เห็นภาพเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนถึงความขัดแย้งและปัญหาในสังคมไทย
อย่างไรก็ตาม เวลาที่ยาวนาน ความยากลำบากและปัญหาสารพันที่เป็นปราการขวางกั้นการต่อสู้ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นเช่นกัน คดีมาตรา 112 ของผมหลายคดีถูกสั่งให้พิจารณาลับและไม่ให้เผยแพร่ บางคดีถึงขนาดหลีกเร้น พยายามหลบหน้าสาธารณชน ในการอ่านคำพิพากษาผมเฝ้าถามในใจทุกครั้งที่เผชิญภาวะเช่นนั้นว่า "ถ้ามั่นใจว่าคำพิพากษานั้นยุติธรรม แล้วท่านจะกลัวอะไร".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
'ไผ่ ลิกค์' ประกาศอัดฉีดนักมวยไทยน็อคเขมร รับ 1 แสน ชนะคะแนนรับ 5 หมื่น
นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม(กธ.)ในฐานะนายกสมาคมคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย โพสต์ประกาศผ่านเฟซบุ๊กเผยความพร้อมและความตั้งใจในการผลักดันวงการคิกบ็อกซิ่งไทยสู่ระดับนานาชาติ
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


