เขมรชั่วฆ่าผู้บริสุทธิ์ เปิดฉากยิงก่อนจรวดBM-21ตกใส่หมู่บ้าน-รพ.สังเวย11ศพ

ปะทะเดือด! 6 จุดชายแดนไทย-กัมพูชา "ทหารเขมร" เปิดฉากยิงใส่ฐานปฏิบัติการหมูป่า ทางทิศตะวันออกห่างปราสาทตาเมือน 200 เมตร ก่อนระดมยิง RPG ถล่มซ้ำ "ผบ.ทบ." สั่งใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถตอบโต้ พร้อมเปิดปฏิบัติการยุทธบดินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 ตกใส่หมู่บ้าน-โรงพยาบาล-ปั๊มน้ำมัน-ร้านสะดวกซื้อ ทำ ปชช.บาดเจ็บเสียชีวิต "ทอ."  ส่งเครื่องบิน F-16 ทิ้งบอมบ์ 2 รอบ ทำลาย บก.พล.น้อยส่วนสนับสนุนที่ 8-9 ทหารกัมพูชาพังยับ  "ภูมิธรรม" แจงยังไม่ใช่สงคราม แค่เหตุปะทะ  กร้าวเลิกคุยกัมพูชา รอจริงใจก่อนค่อยว่ากัน เผยยอดผู้เสียชีวิต 11 ราย เป็นพลเรือน 10 ราย  ทหาร 1 นาย บาดเจ็บ 28 ราย เป็นพลเรือน 24  คน ทหาร 4 นาย "รมว.กต." พบ "ยูเอ็น" แจงเหตุการณ์ "นายกฯ อิ๊งค์" ประณามเขมร ขอคนไทยสามัคคี ลั่นหนุนกองทัพเต็มที่ "ทักษิณ" ซัด "ฮุน เซน" สั่งการเอง "อังเคิลฮุน-ลูก" ประสานเสียงโต้ไทยยิงก่อน

ตั้งแต่เวลา 07.35 น. วันที่ 24 ก.ค.2568  หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือน ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สุรินทร์ รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน

จากนั้นฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือ รวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์

กระทั่งเวลา 08.20 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการหมูป่า ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าบัญชาการรบด้วยตนเอง รวมทั้ง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ลงพื้นที่แนวหน้าและเข้าร่วมบัญชาการรบ พร้อมประกาศให้ใช้แผน “จักรพงษ์ภูวนาถ”

เวลา 09.20 น. มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุนในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์           

เวลา 10.00 น. มีการปะทะเพิ่มเติมเป็น 6 จุดคือ ที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย  ช่องบก เขาพระวิหาร (ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอานม้า และช่องจอม

เวลา 11.54 น. ทหารกัมพูชาโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในออกจาก รพ.ตามกระบวนการอพยพ ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่เขตสีเขียวซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยแล้ว

นอกจากนี้ ทหารกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 ตกใส่กลางหมู่บ้านในอำเภอกาบเชิง จนมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย นายอำเภอกาบเชิง ได้อพยพชาวบ้านออกไปอยู่ตามศูนย์พักพิง รวมทั้งทหารกัมพูชายังได้ยิงกระสุน BM-21 ตกใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันมีผู้เสียชีวิต 7 คน  โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากชายแดน 30 กิโลเมตร

พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ปิด 5 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย 1.จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก (โรงเกลือ) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 2.จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (หนองเอียน-สตึงบท) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 3.จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว 4.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ 5.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งได้ปิดลง 100%

ส่วน พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. ได้สั่งปิดด่านชายแดน  3 ด่าน ประกอบด้วย บ้านแหลม, บ้านผักกาด และหาดเล็ก รวมถึงจุดผ่อนปรนการค้า 3 แห่ง ประกอบด้วย บ้านซับตารี, บ้านสวนส้ม, บ้านบึงชนัง ปิด 100%

ปะทะเดือดทั้งทางบก-อากาศ

กองทัพบกแถลงการณ์ประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่บ้านโจรกหมู่ 2 ตำบลด่าน ที่มีลูกปืนลงที่บ้านนายสุธีร์ บุญแต่ง มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย คือ 1.นายบัณฑิต อุ่นจิต 2.นายอภิสิทธิ์ บุญแต่ง 3.ด.ช. โขง

เวลา 11.00 น. เครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศ จำนวน 6 ลำ ถูกส่งไปสนับสนุนการสู้รบภาคพื้นของทางกองทัพบก ในการปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ใช้อาวุธประจำเครื่องบินที่มีความแม่นยำสูง โจมตีเป้าหมายที่ตั้งอาวุธหนักทหารกัมพูชาที่ บก.พล.น้อย ส่วนสนับสนุนที่ 8 และกองพลน้อย ส่วนสนับสนุนที่ 9 ซึ่งเป็นผู้ใช้อาวุธปืนใหญ่โจมตีบ้านเรือนคนไทย และเป็นส่วนที่ใช้กำลังพลในการวางกับระเบิดทหารไทย

จากนั้น เวลา 11.40 น. ในแนวสู้รบต่างจังหวัดพระวิหารกับจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายไทยได้ทำลายกระเช้าและบันไดทางขึ้นภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งมีละเมิดเอ็มโอยู 43 มาก่อนหน้านี้

เวลา 12.29 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเหตุทหารกัมพูชายิงกระสุนจรวด BM-21 จากฝ่ายกัมพูชา ตกใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พบผู้เสียชีวิต 7 ราย โดยทั้ง 7 รายเสียชีวิตที่บริเวณฟุตปาธหน้าร้านสะดวกซื้อ 1 ราย และที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ 2 ราย เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ และที่บริเวณจุดชื้อสินค้า 3 ราย โดยจำนวน 3 ศพที่พบมีลักษณะคล้ายกับแม่ลูกกำลังกอดกัน เบื้องต้นคาดว่าไม่ได้ถูกแรงระเบิดโดยตรง แต่คาดว่าถูกไฟคลอก สำลักควัน ส่วนที่หน้าปากทางออกปั๊มน้ำมันพบเพิ่ม 1 ศพ

พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก   สรุปพื้นที่ได้รับความเสียหายว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ 1.พื้นที่บริเวณปั๊ม ปตท.บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 10 ราย 2.พื้นที่บ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย (1 รายเป็นเด็กชายอายุ 8 ปี) และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ส่งต่อ รพ.กาบเชิง 3.พื้นที่บ้านกุดเชียงมุน, บ้านจันลา, บ้านโพนทอง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย

4.พื้นที่บ้านขี้เหล็ก ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 5.พื้นที่หมู่ 16 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย 6.พื้นที่บ้านหนองแรด ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 7.พื้นที่บ้านนายบุญล่วม ทองวิเศษ หมู่ 9 ต.โดมประดิษฐ์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย

ซัดเขมรผิดกฎสากลโจมตี ปชช.

พล.อ.พนา ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้สั่งเปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” Operation “Yuttha Bodin” ทั้งทางบกและอากาศ

เวลา 15.00 น. กองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ไทยตอบโต้การโจมตีของกัมพูชา ระบุว่า ช่องบก ทั้ง 2 ฝ่ายตรึงกำลัง, ช่องอานม้า F16 ทิ้งไข่ที่ตั้งกำลังกัมพูชา, พื้นที่ซำแต อ.กันทรลักษ์ ใช้รถถังเข้าตีเพื่อยึดพื้นที่, จุดตรวจการณ์ภูผี ตรงข้ามปราสาทโดนตวล ใช้ F-16 ช่องตาเฒ่า, จุดตรวจการณ์เขาสัตตาโสม ทำลายรถถังกัมพูชาได้จำนวน 2 คัน, เขาพระวิหาร วัดแก้วฯ ใช้รถถังระดมยิง ส่งทหารราบเข้ายึดภูมะเขือ ปัจจุบันสามารถทำลายกระเช้าส่งกำลังได้บางส่วน, ช่องจอม โจมตีกันไปมา, พื้นที่ปราสาทตาควาย กัมพูชาวางกำลัง ฝ่ายไทยเข้าตีระลอกที่ 2, พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ไทยวางกำลัง กัมพูชาพยายามเข้าตี

เวลา 17.00 น. กองทัพอากาศเปิดปฏิบัติการส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชาในจุดสำคัญทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า ตามปฏิบัติการยุทธบดินทร์

ที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลา 17.30 น.  พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงข่าวสรุปสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาว่า  กองทัพบกดำเนินการภายใต้ความชอบธรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่สามารถใช้กำลังได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 โดยสามารถใช้กำลังป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธก่อนจากฝ่ายกัมพูชา ในลักษณะเพื่อป้องกันตัวเอง โดยจะทำลายเฉพาะเป้าหมายทางทหาร (military objective) เท่านั้น

 “เหตุของการปฏิบัติการทางทหารต่อกันในครั้งนี้ มีเหตุมาจากผู้นำฝ่ายกัมพูชาอาจต้องให้ระดับฝ่ายบริหารของกัมพูชาและไทยได้เจรจากัน ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการหาแนวทางสันติวิธี เริ่มจากการแก้ที่ต้นเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม มั่นใจว่าประชาชนทั้งสองประเทศไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาขัดแย้งกัน หรือสมควรต้องมาได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์โดยไม่จำเป็น” พล.ต.วินธัยกล่าว

ถามว่ากัมพูชาโจมตีเป้าหมายพลเรือน โฆษก ทบ.กล่าวว่า การใช้อาวุธและปฏิบัติการทางทหารตามกติกา ต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด และเป็นเป้าหมายทหารเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกัมพูชา เพราะผิดกฎกติกาสากล เมื่อเกิดเหตุเราก็ต้องดูแลอย่างดีที่สุด การปฏิบัติทางฝ่ายทหารและฝ่ายปกครอง ช่วยกันแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเราไม่อยากให้เกิดขึ้น

โฆษก ทบ.กล่าวถึงการส่งเครื่องบิน F-16 โจมตีกัมพูชา 2 รอบว่า เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการการใช้อาวุธสนับสนุนระยะไกลโดยใช้อากาศยาน ถือว่ามีความแม่นยำและไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายที่นอกเหนือจากแผนที่วางไว้  ส่วนจะมีผลต่อฝ่ายกัมพูชายอย่างไรก็ต้องติดตาม แต่สิ่งที่ใช้เป็นไปตามเหตุผลและความจำเป็น และอยู่ในกรอบการปฏิบัติต่อเป้าหมายทางทหาร

"การสูญเสียของฝ่ายกัมพูชา ผมไม่ได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการ และยังประเมินไม่ได้ว่าการเปิดปฏิบัติการครั้งนี้ต้องใช้เวลากี่วัน แต่เชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง แต่ปรารถนาอยากให้จบลงรวดเร็วและสั้นที่สุด การปะทะจาก 6 พื้นที่ในตอนเช้าปฏิบัติการสำเร็จตรงเป้าไม่ได้ผิดไปจากคาดการณ์ไว้ ซึ่งการปฏิบัติต้องอยู่ในกรอบกติกาสากล ไม่เกินกว่าเหตุ" โฆษก ทบ.กล่าว

ภูมิธรรมลั่นจริงใจก่อนค่อยคุย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์  รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาว่า ถ้าถึงขั้นนี้ก็คงไม่คุยกันแล้ว ขอย้อนไปก่อนหน้านี้ เราพยายามเชิญชวนให้มาคุยทวิภาคี เพื่อแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยในกระบวนการที่เรามีอยู่ สิ่งที่ตนยื่นให้เขาเสมอคือทั้งสองฝ่ายต้องเคลื่อนย้ายกำลังพลออกจากชายแดน เพราะถ้ายังอยู่อาจมีเหตุการณ์ที่กระทบกระทั่งกันได้

"ผมมองสองอย่าง ผู้บังคับบัญชาไม่จริงใจ ไม่ดำเนินการสอบสวนความเป็นจริง หรืออีกอย่างคือ รัฐบาลไม่จริงใจ ดังนั้นจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ได้หารือกับกองทัพและตกลงใจว่า มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในการดำเนินการต่อไป เป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 มาตรา 39" พล.อ.ณัฐพลกล่าว

เวลา 14.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นัดพิเศษ ใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

นายภูมิธรรมแถลงว่า จากเหตุปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และเนื่องจากมีเรื่องสำคัญหลายเรื่อง จึงได้มีการเสนอให้เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษด้วย โดยเชิญเลขาฯ ครม.มาร่วมประชุม ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 8 วรรคสอง ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2548 เนื่องจากหลายเรื่องต้องใช้มติ ครม.

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ประเด็นแรก สถานการณ์ปะทะกันเกิดขึ้น เท่าที่ได้รับรายงานจากหน่วยทหารที่เกี่ยวข้อง เป็นการยิงเข้ามาจากทางกัมพูชาก่อน และได้เกิดเหตุประปราย จนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยมีการใช้อาวุธในระดับต่างๆ กัน สิ่งสำคัญคือการยิงของกัมพูชาใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทย โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งยิงเข้ามาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพลเรือน จนทำให้มีพลเรือนของเราเสียชีวิต ล่าสุดคือมีผู้เสียชีวิต 11 ราย เป็นพลเรือน 10 ราย และทหาร 1 นาย มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 28 ราย เป็นพลเรือน 24 ราย เป็นทหาร 4 นาย

"ขอประณามว่ากัมพูชามีการใช้อาวุธหนักที่รุนแรงและไม่มีเป้าหมาย และไม่ได้จำกัดเฉพาะการต่อสู้ โดยการยิงเข้ามานั้นมีบางลูกมาลงที่ปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้อ บางส่วนยิงลงมาที่กลางโรงพยาบาล บางส่วนห่างจากโรงพยาบาลเพียง 3 กิโลเมตร เราจึงขอประณาม เพราะเป็นการใช้กำลังที่ไม่ได้ยึดในเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งต้องคำนึงและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด" นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การประกาศสงคราม เป็นเพียงการปะทะกัน เรายังยืนยันในหลักการว่าต้องใช้สันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง ต้องพยายามพูดคุยกันเพื่อแก้ปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นลักษณะของการยั่วยุจากทางฝ่ายกัมพูชาตลอด และเราป้องกันตัวเอง รวมถึงป้องกันอธิปไตยของประเทศ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ และเรายอมไม่ได้ที่จะมีลักษณะการเข้ามาบุกรุกและละเมิดอธิปไตยของเรา วันนี้เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการปกป้องตัวเอง และดูแลอธิปไตยของประเทศ

ประเด็นที่ 2 ขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ซึ่งขณะนี้ควบคุมอยู่ในพื้นที่เหล่านี้อยู่ แต่เราก็มีความระมัดระวังป้องกันชายแดนอย่างเต็มที่ โดยให้กระทรวงมหาดไทยอพยพคนออกจากพื้นที่ให้ไกลกว่า 50 กิโลเมตร อยู่ในระยะที่ปลอดภัย ทั้งนี้ เราได้สั่งการอพยพประชาชนมีการดำเนินการในแต่ละพื้นที่ซึ่งมีแผนดำเนินการรออยู่แล้ว

สำหรับมาตรการต่างประเทศได้ดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 23 ก.ค. ด้วยการลดระดับความสัมพันธ์ เรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับ และส่งทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นระดับรุนแรงที่สุดทางการทูต

ถามว่า จะต้องมีการพูดคุยกันระหว่างสองประเทศหรือไม่ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลายกว่านี้ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้ต้องให้เรื่องยุติก่อน เพราะเราไม่ได้เป็นผู้เริ่ม ถ้าแสดงความจริงใจต่อกันก็สามารถคุยกันได้ แต่ขณะนี้เรายังรู้สึกว่าทางฝ่ายเขายั่วยุและริเริ่ม ฉะนั้นเราต้องดำเนินการตามครรลองที่มันเกิดขึ้น เมื่อถามถึงเรื่องงบฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบ ทางจังหวัดสามารถเบิกจ่ายได้เลยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า มีมาตรการไว้อยู่แล้วในส่วนของกองทุนต่างๆ ที่มีอยู่

ซักว่ากัมพูชายื่นหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) แล้ว ทางประเทศไทยจะมีการดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ อยู่นครนิวยอร์ก ได้พูดคุยประสานกับเลขาธิการยูเอ็นเอสซีแล้ว เราได้พบและพูดคุยกับตัวจริง และกระทรวงการต่างประเทศดำเนินมาตรการต่างๆ และเล่าสถานการณ์ต่างๆ ให้ฟังได้มีการชี้แจงเรียบร้อยแล้ว โดยเรายืนยันหลักการที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของประเทศ และการบุกเข้ามาในประเทศไทย เราปกป้องตัวเราเอง เรายืนยันอย่างหนักแน่น และยืนบนหลักของกระทรวงการต่างประเทศที่พูดมาและรัฐบาลได้แสดงออกไปชัดเจน

ถามว่า ทางกัมพูชายังมีการยั่วยุ หากอยากให้สถานการณ์สงบโดยเร็วมีวิธีการอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า วิธีการพูดไม่ได้ แต่เขาต้องยุติความรุนแรง และสิ่งที่สำคัญ ตนคิดว่าต้องระมัดระวังเรื่องข่าวลือ

อิ๊งค์-แม้วประณาม'ฮุน เซน'โต้

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แชร์ข้อความพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสตอรีส่วนตัวบนอินสตาแกรม นอกจากนี้ยังได้แชร์ข้อความข่าวที่ระบุถึงพรรคประชาชน (ปชน.) ข้อความว่า “น่าละอาย-ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง พรรคประชาชนถึงรัฐบาลกัมพูชา หนุน กต. ตอบโต้เข้มข้น ขอนานาชาติกดดัน"

น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ถึงเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาว่า สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพได้ทำร่วมกันมาตลอดคือการดูแลพี่น้องประชาชน และรักษาไว้ถึงสันติภาพ ความสงบสุข เป็นจุดยืนที่รัฐบาลยืนยันมาตลอด และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในที่สุดฝั่งกัมพูชาก็เริ่มยิงมาก่อน แต่กลับพูดว่าฝั่งไทยก่อน

"เราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ไม่มีเครื่องมือใดสำคัญเท่าความสามัคคีของคนในชาติ เพราะฉะนั้นวันนี้สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพพยายาม คือไม่อยากให้พี่น้องประชาชนต้องเสียชีวิตต้องบาดเจ็บ เรารักคนไทยของเรา เรารักประเทศชาติของเรา เราไม่อยากให้มีใครได้รับผลกระทบและความเจ็บปวด แต่ไม่ทราบว่าทางเขาคิดอย่างไรกับประชาชนของตัวเอง เราคิดแบบนี้กับประชาชนของเรา รัฐบาลและกองทัพทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่" น.ส.แพทองธารกล่าว

ถามว่า ที่ผ่านมารัฐบาลใช้ความพยายามเจรจาแบบสันติวิธี MOU 43 และ 44 การเจรจาเจบีซี ถึงเวลาที่ควรพิจารณายกเลิกหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขนาดนี้ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจา ทางกองทัพพยายามอย่างมาก

เมื่อถามว่า ขณะนี้กัมพูชายิงเข้ามาใกล้พื้นที่ จะบอกกับประชาคมโลกหรือไม่ว่าเป็นการกระทำที่ผิดยุทธวิธี น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราต้องประณามอย่างแน่นอน ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องไม่รู้อีโหน่อีเหน่ และไม่ใช่ทหารด้วยกัน ที่มีอาวุธ ยิงมาแล้วชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ ตนไม่ต้องพูดอะไรมาก ทั่วโลกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็พร้อมประณามเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ให้สัมภาษณ์ช่วงหนึ่ง น.ส.แพทองธารมีน้ำเสียงสั่นเครืออย่างชัดเจน

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า วันนี้ฮุน เซน ได้บัญชาการการยิงเข้ามาในเขตไทยแต่เช้า โดยเป็นฝ่ายยิงก่อนหลังจากที่วางกับดักระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งถือว่าได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและจริยธรรมของการอยู่ร่วมกันฉันเพื่อนบ้านที่ดี จนมีทหารไทยได้รับบาดเจ็บขาขาดถึง 2 คน รวมถึงประชาชนได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่งไทยเราได้ใช้ความอดทน อดกลั้น เดินตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและการทำหน้าที่เพื่อนบ้านที่ดีครบถ้วนแล้วต่อไปนี้ทหารไทยสามารถตอบโต้ตามแผนยุทธการ และกระทรวงการต่างประเทศสามารถกำหนดมาตรการต่างๆได้ด้วยความชอบธรรม

ด้านสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า การรุกรานครั้งนี้ กองทัพไทยประกาศว่าจะปิดปราสาทตาเมือนธมในวันนี้ ซึ่งได้รับคำสั่งเมื่อวานนี้ ทหารไทยได้เริ่มโจมตีกองทัพกัมพูชา กองทัพกัมพูชาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้ตอบโต้

เช่นเดียวกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า กองทัพไทยได้เริ่มการโจมตีใส่ฐานที่มั่นของกองทัพกัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตากระบือ ในจังหวัดอุดรมีชัย และได้ขยายการโจมตีไปถึงพื้นที่มุมเปรี๊ยะ กัมพูชาแสดงจุดยืนเสมอมาว่าต้องการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี แต่ในกรณีนี้ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องใช้กำลังอาวุธเพื่อตอบโต้การรุกรานจากฝั่งไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.