สภาโต้กันวุ่น ก่อนเสนอนับองค์ประชุม เกินครึ่งแค่ 2 เสียง โหวตเลือก “ไชยา พรหมา” นั่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เจ้าตัวพร้อมทำหน้าที่ วางตัวเป็นกลางสร้างความเชื่อมั่นอย่างเที่ยงธรรม ญาติวีรชนพฤษภา'35 ยื่น กมธ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ต้องยึดหลักการที่สภาลงมติวาระหนึ่ง จะแปรญัตติ "ม.112" ที่ไม่ได้รับความเห็นชอบไม่ได้ ป้องกันซ้ำรอยนิรโทษสุดซอย "ณัฐวุฒิ" จ่อเพิ่มในบัญชีแนบท้ายเป็น 25 ฐานความผิด วางกรอบเสร็จใน 2 เดือน
ที่รัฐสภา วันที่ 7 สิงหาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายวัชรพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติเปลี่ยนระเบียบวาระการประชุม โดยนำเรื่องการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ขึ้นมาพิจารณา
ทำให้นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ขอตรวจสอบความพร้อมของฝ่ายรัฐบาลว่ามีความพร้อมที่จะเลือกรองประธานสภาฯ จริงๆ
ขณะที่นายวัชรพลกล่าวว่า กระบวนการในการเลือกรองประธานสภาฯ หากไม่มีผู้ใดเห็นเป็นอย่างอื่น ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาทีก็จบ
ทำให้นายกรวีร์กล่าวว่า ถ้าฝ่ายรัฐบาลบอกว่าองค์ประชุมครบพร้อม ตนก็ต้องเสนอนับองค์ประชุม เพราะถ้าองค์ประชุมครบก็เดินหน้าไปตามระเบียบวาระ และพวกตนก็เสนอญัตติด่วนด้วย วาจาหลังจากที่มีการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นตนขอเสนอนับองค์ประชุม
แต่ถูก น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นแจ้งว่า ผู้รับรองไม่ครบ ไม่ถึง 5 คน ทำให้นายกรวีร์ต้องขอนับองค์ประชุมและขอผู้รับรองถึง 3 ครั้ง จึงผู้มีรับรองครบ
หลังจากมีการโต้เถียงกัน นายฉลาดได้ให้ที่ประชุมได้ดำเนินการตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ ซึ่งต้องมีตัวแทนจากพรรคการเมืองเป็นกรรมการ แต่พรรคประชาชน โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ชี้แจงว่า เรื่องนี้เราไม่ได้คุยกันมาก่อน ฉะนั้นพรรคขอไม่ส่งตัวแทนเข้าเป็นกรรมการนับคะแนน จากนั้นเริ่มนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อเรียงตามตัวอักษร
ต่อมาเวลา 15.15 น. หลังนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อเรียงตามตัวอักษร โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ผลปรากฏว่ามีองค์ประชุม 248 เสียง ซึ่งเกินมา 2 เสียง ถือว่าครบองค์ประชุม
ทำให้เข้าสู่วาระการพิจารณาเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส. สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย โดยไม่มีผู้เสนอแข่ง ทำให้นายไชยาได้เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1
จากนั้นนายไชยาแสดงวิสัยทัศน์ว่า จะใช้ความรู้และประสบการณ์ตลอดชีวิตเพื่อสภาแห่งนี้ สถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกสำคัญไม่แพ้ฝ่ายบริหาร ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์การเมืองที่มีความแตกต่างตามยุคสมัย ฝ่ายนิติบัญญัติคือที่พึ่งของประชาชนที่จะต้องรับใช้ประชาชนอย่างยาวนาน ตนอยากเห็นสภาแห่งนี้เป็นการร่วมมือร่วมใจของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน อยากฝากฝ่ายค้านและรัฐบาล อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน จะไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง พร้อมจับมือทุกฝ่ายทำงานให้สถาบันแห่งนี้เป็นที่พึ่งของประชาชน
“ยืนยันว่า แม้จะมาจากพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อผมทำหน้าที่เป็นประธาน สิ่งที่จะต้องเตือนสติคือการวางตัวเป็นกลาง สร้างความเชื่อมั่นอย่างเที่ยงธรรม ขอให้เปิดโอกาสในการทำงานสร้างสถาบันนิติบัญญัติให้มั่นคงและเข้มแข็ง” นายไชยากล่าว
จากนั้น วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม สั่งปิดการประชุมเวลา 15.20 น.
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯ เข้ายื่นข้อเสนอต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นตัวแทนรับ
โดยมีข้อเสนอดังนี้ 1.คณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้มีการศึกษาเรื่องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองไว้อย่างรอบคอบแล้ว สามารถนำมาใช้ได้เลย เพื่อไม่ให้การพิจารณาแปรญัตติต้องเสียเวลาอีก 2.ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขฯ ที่สภาได้ลงมติรับหลักการในวาระที่หนึ่งไปแล้วนั้น กมธ.ต้องพิจารณาแปรญัตติยึดหลักการที่สภาลงมติรับหลักการในวาระหนึ่ง หากแปรญัตตินอกเหนือหลักการ จะขัดกับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติ ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ทำให้กระบวนการตรา พ.ร.บ.ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะซ้ำรอยร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย
3.สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาในวาระแรก จึงไม่สามารถพิจารณาแปรญัตติเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการได้ จะขัดกับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ.ตามข้อ 2 และไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทั้งนี้ มาตรา 112 ถือเป็นเรื่องของพระราชอำนาจ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงควรใช้ช่องทางอื่น เช่น คณะกรรมการกลั่นกรอง การถวายฎีกา หรือขอพระราชทานอภัยโทษ 4.ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์สงครามกับประเทศกัมพูชา และสงครามการค้า คนในชาติจะต้องมีความเป็นปึกแผ่นเป็นอันหนึ่งเดียวกัน จึงขอวิงวอน กมธ.เร่งพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
ต่อมากลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน พร้อมด้วยทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ เข้ายื่นหนังสือต่อ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธาน กมธ.เป็นตัวแทนรับ
โดย น.ส.พูนสุขกล่าวว่า เนื่องจากเราเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับอาจจะไม่ครอบคลุมเพียงพอ จึงมายื่นข้อเสนอ 4 เรื่อง ดังนี้ 1.ระยะเวลาการนิรโทษกรรม ขอเสนอให้ครอบคลุมตั้งแต่ พ.ศ.2548-2568 หรือจนกว่าจะมีการบังคับใช้ พ.ร.บ. 2.ในส่วนฐานความผิด เมื่อพิจารณาจากบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ.ที่มีเพียง 12 ข้อ หรือถือเป็น 20 ฐานความผิด ซึ่งทำให้อาจตกหล่นบางฐานความผิดได้ 3.คดีเยาวชน ตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นมา มีเยาวชนผู้ถูกดำเนินคดี 286 ราย ซึ่งควรจะได้รับการนิรโทษกรรมไปด้วยในครั้งนี้ 4.คณะกรรมการควรจะมีองค์ประกอบของทางภาคการเมืองและภาคประชาชนเข้าไปด้วย
ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวว่า กมธ.มีความเห็นร่วมกันเป็นมติของที่ประชุมไปแล้ว คือกรอบเวลาเริ่มต้นปี 48 จนถึงวันที่กฎหมายประกาศใช้ ส่วนเรื่องฐานความผิดในบัญชีแนบท้ายนั้น ยังไม่ครอบคลุม และตกหล่นเป็นจำนวนมาก กมธ.มีหลักคิดตรงกันว่าจะต้องเพิ่มจาก 12 ฐานความผิดในขณะนี้ จากการอ้างอิงรายงานผลการศึกษาของ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีการระบุไว้ 25 ฐานความผิด
นายณัฐวุฒิยืนยันว่า เราตั้งใจว่าจะทำเรื่องนี้ให้คืบหน้า และแล้วเสร็จในชั้น กมธ.โดยเร็ว จากที่วางกรอบไว้ว่าจะอยู่ในเวลา 2 เดือนบวกลบ เราจะทำให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เราจะทำให้เป็นเครื่องมือของการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยให้ได้มากที่สุด ทำให้สังคมนี้พร้อมที่จะเปิดโอกาสให้คนแต่ละกลุ่มได้ตั้งหลักตั้งต้น และเดินหน้าชีวิตในฐานะผู้บริสุทธิ์ต่อไป
"กมธ.มีความเห็นตรงกันว่าเราจะเดินเร็วและทำเรื่องนี้ ถ้ากลับเข้าสู่สภาในวาระ 2 ภายในสมัยประชุมนี้ให้ทันให้ได้ ดังนั้นเวลาในชั้น กมธ.ประมาณ 2 เดือน จะต้องดำเนินการให้เสร็จ และเพิ่มเวลาประชุม ส่วนเรื่องมาตรา 112 การลงมติในวาระแรกมีความชัดเจนในตัวเนื้อหาสาระ คิดว่าในชั้น กมธ. สามารถพูดคุยเพื่อหาทางออกในกรณีนี้ได้ ยังอยู่ในวิสัยที่ทำได้ และไม่ได้กลายเป็นความขัดแย้งใหม่ เพราะเป็นการพูดคุยด้วยความจริง ด้วยเหตุผลและเมตตาธรรม" นายณัฐวุฒิกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


