"ภูมิธรรม" โต้ "ภูมิใจไทย" ยัน "ดีเอสไอ" เดินหน้าคดีบริษัท "รมว.อว." รุกที่สาธารณะตามกระบวนการกฎหมาย อ้าง "คดีฮั้ว สว.-เขากระโดง" เป็นเรื่องใหญ่ ต้องสางให้ชัดเจน เหตุสาธารณชนสนใจ "ทนายอั๋น" ร้องดีเอสไอตรวจสอบโฉนดที่ดินเขากระโดง 999 แปลง หลังพบพิรุธออกในยุค "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" เป็น รมว.มท. หลัง ป.ป.ช.ชี้มูล "ชัย ชิดชอบ" สนับสนุน จนท.รัฐออกโฉนดโดยมิชอบ "แก้วสรร" ยก กม.ปกครองค้านเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ชี้ชาวบ้านสุจริตใช้สิทธิปกป้องได้หากถูก "กรมที่ดิน-รฟท." ละเมิด
ที่กระทรวงมหาดไทย วันที่ 14 สิงหาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เรียกร้องให้นายภูมิธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ ติดตามตรวจสอบคดีบริษัทครอบครัว น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเรื่องสอบสวนเป็นคดีพิเศษ การขุดบ่อน้ำรุกที่สาธารณะ จ.อุบลราชธานี หลังเอาแต่เร่งรัดตรวจสอบคดีที่ดินเขากระโดงและฮั้ว สว.ว่า คิดว่าดีเอสไอคงทำทุกเรื่อง แต่ยอมรับว่า เรื่องฮั้ว สว.เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเป็นจริงตามนั้นถือเป็นการทำลายระบอบกฎเกณฑ์ ระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด สามารถมองได้เป็นเรื่องที่สาธารณชนให้ความสนใจ
"ขณะที่เรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องที่สำคัญ และเป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ตัดสินไปแล้ว ในเรื่องที่ดินประมาณ 5 พันกว่าไร่ที่คั่งค้างมานาน และเรื่องนี้ก็ช้ามาเป็น 10 ปีแล้ว จะบอกว่าเร่งรีบไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องสางให้เกิดความชัดเจน"
เมื่อถามว่า มีการอ้างว่า 6 ปีแล้ว แต่ดีเอสไอยังไม่สั่งฟ้องคดีของ น.ส.สุดาวรรณ นายภูมิธรรมย้อนถามว่า "เอา 6 ปีมาเปรียบเทียบกว่า 10 กว่าปี ต้องดูความใหญ่นะครับ แต่ไม่เป็นไร มีสิทธิ์ที่จะถามได้ แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คนทั้งประเทศเขาสนใจเรื่องเขากระโดงมากกว่า ส่วนเรื่องอื่นก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย และเรื่องเขากระโดงขอให้เกิดความชัดเจน ถ้าคิดว่ามีปัญหาก็ทำให้ชัดเจน"
เมื่อถามว่า การเพิกถอนที่ดินเขากระโดงต้องรอให้อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เข้ามาเซ็น หรือให้คนรักษาการทำก่อนได้หรือไม่ หลังประกาศจะเพิกถอนตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอบหลายครั้งแล้ว รอให้มีการโปรดเกล้าฯ อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เข้ามา จะทำหน้าที่ทันที
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในการออกโฉนดที่ดินจำนวน 1,280 แปลง ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ตามโครงการเร่งรัดออกโฉนดที่ดินในปีงบประมาณ 2555 ในยุคของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีต รมว.มหาดไทย ว่ามีการออกโฉนดทับซ้อนในพื้นที่การรถไฟเขากระโดงหรือไม่ และ/หรือจำนวนเนื้อที่เท่าใด โดยมี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้แทนรับเรื่อง
นายภัทรพงศ์เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกลุ่มคน 3 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับที่ดินเขากระโดงออกมาชี้แจง ประกอบด้วย 1.กลุ่มทนายความฝ่ายกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีนายทิวา การกระสัง รวมไปถึงกลุ่มสองพ่อลูกที่ทำงานให้กับตระกูลใหญ่ใน จ.บุรีรัมย์ 2.กลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์ในศูนย์กีฬา (Sport) ในพื้นที่เขากระโดง 3.กลุ่มพี่น้องประชาชน จำนวน 995 ราย ที่มีการถือครองที่ดิน 999 แปลง ตนจึงมาขอให้ดีเอสไอตรวจสอบข้อเท็จจริงนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะประเด็นของชาวบ้าน 995 ราย ว่าโฉนดที่ดินที่ครอบครองอยู่นั้น เป็นการออกโฉนดช่วงใดไม่แน่ใจว่าปี พ.ศ.2515, 2517 หรือ 2519 และมีการแบ่งแยกการออกโฉนดดั้งเดิมอย่างไร
เขากล่าวว่า สมมุติหากเป็นการออกโฉนดที่ดินในช่วงปี พ.ศ.2554 หรือ พ.ศ.2555 ภายใต้โครงการเร่งรัดออกโฉนดที่ดินในปีงบประมาณ 2555 โดยที่มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทยในสมัยนั้น และมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีนายโสภณ ซารัมย์ เป็น รมว.คมนาคม ทั้งนี้ที่ตนต้องเอ่ยชื่อทั้ง 3 รายนี้ เนื่องจากเมื่อ 15 ปีที่แล้วมันมีวลีเด็ดที่ว่า “มันจบแล้วครับนาย” จากนั้นก็มีการตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
"ก่อนหน้านั้นได้มีคำวินิจฉัยของสำนักงาน ป.ป.ช. วันที่ 12 ก.ย.2554 ซึ่งเป็นเวลาก่อนหนึ่งเดือนที่ ป.ป.ช.วินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเขากระโดงเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการชี้มูลนายชัย ชิดชอบ ว่ามีการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐในการออกโฉนดที่ดินเขากระโดง เช่นนี้ก็แสดงว่าที่ดินดังกล่าวมันชัดเจนว่าเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งถ้าหากโครงการของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ออกโฉนดมาทีหลัง โดยเฉพาะบริเวณไข่แดงเขากระโดง มันคือการมิชอบด้วยกฎหมาย สุ่มเสี่ยงว่าจะมีความผิดหรือไม่"
นายภัทรพงศ์กล่าวอีกว่า ทราบว่าในช่วงสัปดาห์หน้า ดีเอสไอจะมีการลงพื้นที่ไปยัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อเข้าพบส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประสานเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับสารระบบที่ดินพื้นที่พิพาทเขากระโดง รวมไปถึงรายชื่อผู้ครอบครองโฉนดที่ดินทั้งหมด หากดีเอสไอได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง แล้วพบว่ามีการทุจริตการออกโฉนดที่ดินในโครงการดังกล่าวจริง ก็ขอให้ดีเอสไอได้ใช้หนังสือข้อมูลของตนเองในวันนี้ เป็นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษในโอกาสต่อไป
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระด้านกฎหมาย และอดีตกรรมการปฏิรูปกฎหมาย แสดงความเห็นต่อกรณีกระทรวงมหาดไทยเตรียมสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ ว่า กรมที่ดินไม่มีอำนาจเพิกถอนในภาพรวมได้ เนื่องจากคำตัดสินของศาลฎีกามีผลผูกพันเฉพาะ 35 รายที่เป็นคู่ความในคดีแพ่งระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับประชาชนเท่านั้น ก่อนที่กรมที่ดินจะดำเนินการใดๆ ต้องเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ทั้งแผนที่ เอกสาร และหลักฐานที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ เพราะขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ และต้องพิสูจน์ตามขั้นตอนกฎหมาย ให้ผู้ถือครองที่ดินประมาณ 900 ราย ได้โต้แย้งว่าไม่ใช่ที่ดินของการรถไฟฯ
นายแก้วสรรกล่าวว่า สิทธิของชาวบ้านที่ได้มาโดยสุจริตภาครัฐไม่เคยให้ความสำคัญ หน่วยงานต่างๆ มักดำเนินการในลักษณะของ “ขุนนาง” ที่ไม่คุ้มครองสิทธิประชาชน เพราะ “ไม่เห็นหัวชาวบ้าน” หากกรมที่ดินยังไม่ดำเนินการใดๆ ก็ให้ปล่อยเป็นเพียงการข่มขู่ไปก่อน แต่หากมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดของชาวบ้านที่ได้มาโดยสุจริตจริง ประชาชนสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 51 และ 52 เพื่อคุ้มครองสิทธิของตนได้ โดยเฉพาะเมื่อหน่วยงานรัฐไม่สามารถแสดงเหตุจำเป็นในการใช้ที่ดินได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังอาจมีสิทธิได้รับการเยียวยาความเสียหายทั้งในรูปแบบตัวเงินหรือรูปแบบอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
"ที่ผ่านมา การรถไฟฯ ไม่เคยหวงแหนที่ดิน ปล่อยให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง แล้วเหตุใดจึงเพิ่งมาหวงกันตอนนี้ ทั้งที่ยังไม่สามารถชี้แจงได้ว่าจะนำที่ดินไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด นอกจากอ้างว่าเป็นพื้นที่ของตนเองหากประชาชนได้สิทธิมาโดยสุจริต และการรถไฟฯ ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนในการใช้ที่ดิน กรมที่ดินจะเพิกถอนเอกสารสิทธิไม่ได้ เพราะไม่เพียงเป็นการละเมิดสิทธิชาวบ้าน ยังบั่นทอนหลักกฎหมาย และทำลายความเชื่อมั่นต่อระบบเอกสารสิทธิที่ดินในประเทศไทย” นายแก้วสรรกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


