"อิ๊งค์" ยิ้มแย้มเข้าสภา บอก 21 ส.ค. นัดไต่สวนคดีคลิปเสียงตรงวันเกิดพอดี เปิดคำชี้แจงศาล รธน. ดิ้นสุดฤทธิ์! แก้ต่างถ้อยคำขายชาติ “อยากได้อะไรบอก เดี๋ยวจัดให้” แค่เทคนิคเจรจายุติสถานการณ์ตึงเครียด ส่วนท่อน “แม่ทัพภาค 2 ฝั่งตรงข้าม" อ้างฮุน เซนไม่พอใจ ใช้ลิ้นทูตสกัดขัดแย้งลุกลาม ไม่กระทบกองทัพ ยันยึดผลประโยชน์ชาติปัดเอื้อตัวเอง-ครอบครัว พท.ปัดระส่ำไร้แผนสำรองรับอุบัติเหตุการเมือง
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าสภาผู้แทนราษฎรด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อร่วมรับฟังการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 เป็นวันที่สอง โดยมีรัฐมนตรีและ สส.ของพรรคเพื่อไทยมารอต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 21 ส.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะเดินทางไปด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “วันที่ 21 ส.ค.วันเกิดพอดี” เมื่อถามย้ำว่า จะให้ความมั่นใจกับประชาชนและ สส.ของพรรคได้หรือไม่ว่าจะอยู่จนวินาทีสุดท้าย น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินขึ้นไปภายในอาคารรัฐสภา
ต่อมาเวลา 15.37 น. น.ส.แพทองธารได้เดินทางออกจากสภา โดยให้รถไปรับที่ชั้นใต้ดิน ไม่ได้ออกทางประตูด้านหน้าอาคารที่เป็นจุดสื่อมวลชนดักรอสัมภาษณ์
ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค. เพื่อชี้ขาดสถานะนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร กรณีสมาชิกวุฒิสภายื่นคำร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯ จากปมคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน แห่งกัมพูชา ข้อกล่าวหาหลักคือขาดความซื่อสัตย์สุจริต และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ก่อนตัดสินในวันที่ 21 ส.ค. ศาลได้นัดไต่สวนพยานบุคคล 2 ปาก คือ น.ส.แพทองธาร และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาตินั้น
มีรายงานว่า ก่อนหน้าที่ น.ส.แพทองธารได้ชี้แจงศาลตอนหนึ่งว่า “การกระทำของข้าพเจ้าตามข้อกล่าวหาของผู้ร้องจึงไม่เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2564 แต่อย่างใด อีกทั้งการกระทำของข้าพเจ้าก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในความสุจริตและเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งของข้าพเจ้าแต่ประการใด”
แต่มีข้อสังเกตว่า นายกฯ ได้ขออนุญาตให้ไต่สวนพยานบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน 5 คน ได้แก่ 1.นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้ทำงานร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ และยังเป็นบุคคลที่ทราบถึงเจตนาอันแท้จริงของข้าพเจ้าในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน 2.นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้สั่งการฝ่ายปกครองด้านชายแดน 3.พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ ข้าราชการบำนาญ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกัมพูชา ทำงานด้านปฏิบัติในกัมพูชามาตั้งแต่ยศร้อยโท และทำงานอยู่กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาตั้งแต่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการรบพิเศษอย่างต่อเนื่อง 4.พล.ท.พุฒิพงษ์ ชีพสมุทร รองเจ้ากรมพระธรรมนูญทหาร ในฐานะผู้ชำนาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของทหารและเรื่องอำนาจอธิปไตยของประเทศ 5.นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ อดีตทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และรัสเซีย ในฐานะผู้ชำนาญด้านการต่างประเทศ และสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงวิธีปฏิบัติทางการทูตในการเจรจาแบบไม่เป็นทางการ
รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยกเลิกคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ผู้ถูกร้องสามารถปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ไปพลางจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ใช้พยานบุคคล 1 ปาก คือ เลขาธิการ สมช.และ น.ส.แพทองธาร รวมถึงปัดตกคำขอให้ยกเลิกคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
'อิ๊งค์' แก้ต่างศาลสุดฤทธิ์
นอกจากนี้ น.ส.แพทองธารได้ทำคำชี้แจงบางส่วน โดยอ้างถ้อยคำว่า “อยากได้อะไรดีให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้” ข้าพเจ้ามีแต่เพียงเจตนาที่ต้องการให้คู่เจรจาได้เสนอเงื่อนไขหรือความต้องการออกมาก่อน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการเจรจาเชิงผลประโยชน์ โดยการใช้เทคนิคสำคัญคือการตั้งคำถามเพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริง ในลักษณะไม่โจมตีจุดยืนของคู่เจรจา แต่มุ่งทำความเข้าใจความต้องการที่อยู่เบื้องหลังมากขึ้น เพื่อจะได้นำมาพิจารณาเจรจาต่อรองเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การยุติความตึงเครียดที่เกิดขึ้น
โดยข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนาที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขที่เสนอมาทุกกรณีแต่อย่างใด ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อสมเด็จฮุน เซน ได้เสนอให้ฝ่ายไทยต้องยอมเปิดด่านก่อน แล้วฝ่ายกัมพูชาจะเปิดด่านหลังจากนั้นภายใน 5 ชั่วโมง ข้าพเจ้าก็เสนอกลับไปว่าให้เปิดด่านพร้อมกัน ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ไม่ได้ตอบรับหรือยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว และข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้มีการตอบรับในเงื่อนไขดังกล่าวของสมเด็จฮุน เซน เช่นเดียวกัน เนื่องจากข้อเสนอใดๆ จากฝ่ายกัมพูชาก็ตาม ข้าพเจ้าจะต้องนำเงื่อนไขดังกล่าวไปพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงของไทยก่อน เพื่อร่วมกันพิจารณาและตัดสินใจ
ส่วนถ้อยคำที่กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) ว่าเป็น “ฝั่งตรงข้าม” นั้น ดังที่ข้าพเจ้าได้ชี้แจงข้างต้นว่า นายฮวด คนสนิทของสมเด็จฮุน เซน พยายามอธิบายมูลเหตุของการที่สมเด็จฮุน เซน สั่งการให้มีการปิดด่านชายแดนของฝ่ายกัมพูชา เนื่องมาจากความไม่พอใจของสมเด็จฮุน เซน ที่มีต่อแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นการเฉพาะเจาะจง
ข้าพเจ้าจึงจำต้องใช้เทคนิคการเจรจาที่แบ่งแยกปัญหาออกจากตัวบุคคล ไม่ได้เป็นการตำหนิติเตียนในทางลบ หรือแสดงให้เห็นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลไทยแต่อย่างใด แต่เป็นการอธิบายสถานการณ์ต่อฝ่ายกัมพูชาในเชิงสร้างความเข้าใจว่า ฝ่ายบริหารของไทยมีเจตนาที่จะรักษาสันติ และไม่ได้เป็นการโอนอ่อนหรือเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากแต่เป็นการดำเนินนโยบายโดยอาศัยหลักทางการทูตเพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศ และป้องกันความขัดแย้งที่อาจลุกลาม
อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดความเข้าใจผิดขึ้น ข้าพเจ้าก็ได้มีการชี้แจงและกล่าวคำขอโทษต่อแม่ทัพภาคที่ 2 แล้ว และแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันต่อสาธารณชนว่าไม่ติดใจคลิปเสียงของข้าพเจ้า และไม่ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างนายกฯ กับแม่ทัพภาคที่ 2 และไม่ได้มีผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพ
"ดังจะเห็นได้จากบทสนทนาว่า ไม่มีข้อความตอนใดที่ข้าพเจ้าเรียกร้องเอาผลประโยชน์ให้ตกเป็นของตนเองหรือครอบครัวแต่อย่างหนึ่งอย่างใด หรือได้ถือเอาประโยชน์ส่วนตนเหนือกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ หรือได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ" น.ส.แพทองธารระบุ
ในตอนท้ายยังระบุด้วยว่า ผู้ร่วมสนทนา คือ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งไม่ได้มีสถานะตามกฎหมายภายในของประเทศตน หรือภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศที่จะสามารถกระทำการอันก่อให้เกิดผลผูกพันทางนิติสัมพันธ์ระหว่างรัฐได้
พท.ปัดระส่ำไร้แผนสำรอง
ทางด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวถึงแผนรับมือของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกฯ กับสมเด็จฮุน เซน ว่า เชื่อมั่นในความตั้งใจจริงของ น.ส.แพทองธาร แสดงให้ศาลได้เห็นและพิจารณาว่าเรื่องนี้เราตั้งใจอย่างไร และหากดูในเนื้อหาทั้งหมด ไม่ได้มีเจตนาที่จะนำไปสู่สิ่งนั้น ที่ผ่านมาการที่บอกว่าจะมีปัญหาที่ทำลายความมั่นคง ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ทุกคนกังวลใจ เพราะถ้าไปดูในคลิปเสียงจริงๆ เขาต่อรองขอให้เราเปิดด่านหลังเขา 5 ชั่วโมง ไทยเราก็ยืนยันบอกว่าทำไม่ได้ หลายเรื่องนายกฯ เล่าให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพฟัง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีแผนสำรองอย่างไร หากนายกฯ เกิดอุบัติเหตุการเมือง หรือลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายภูมิธรรมย้ำคำเดิมว่า วันนี้เราแสดงความจริงใจ ตั้งใจจริงของนายกฯ ให้ประชาชนเข้าใจ ถ้าอะไรเกิดขึ้นก็มีกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ไม่ต้องเตรียมอะไร
ส่วนสภาพจิตใจของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีระส่ำบ้างหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้ทุกคนเข้มแข็ง เรารู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากทั้งหมดที่เป็นอยู่ บางเรื่องเป็นเรื่องที่เราไม่อาจควบคุมหรือกำหนดได้ เรามีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือทำความจริงให้กระจ่าง และแสดงความจริงใจ ความตั้งใจที่เราจะแก้ปัญหาให้กับประชาชนเป็นสำคัญ
เมื่อถามว่า นายกฯ จะไม่ลาออกก่อนวันที่ 29 ส.ค.ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่เคยมีการคุยเรื่องนี้
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทยมองเรื่องนี้กัน 2 มุม สส.ส่วนใหญ่อยากให้มีคำวินิจฉัยออกมาเร็วๆ จะได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ อีกฝั่งรอวันที่ 29 ส.ค. แต่ยืนยันพวกเราไม่ตกใจ โดยมี สส.หลายคนขึ้นไปพบนายกฯ ที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ความจริงเราต้องไปให้กำลังใจท่าน แต่กลับเป็นท่านมาให้กำลังใจพวกเราที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ ตนไม่ได้ขึ้นไปพบ แต่ทุกคนที่ขึ้นไปพบบอกว่านายกฯ ยิ้มแย้มแจ่มใสและให้กำลังใจพวกเรา จึงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เชื่อมั่นว่านายกฯ จะผ่านพ้นไปได้ และกลับมาทำงานการเมืองได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามพรรคไม่คิดถึงแผนสำรอง เพราะไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ และหากเกิดนายกฯ คนที่ 3 ขึ้น ก็เป็นพรรคเพื่อไทยอยู่ดี ซึ่งคาดว่าไม่เป็นเช่นนั้น ทุกคนกำลังใจดี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


