
จ่อปิดดีลตั้งรัฐบาลใหม่ "อนุทิน" นั่งนายกฯ เสียงสนับสนุน 283 เสียง รอเลือดจากเพื่อไทยไหลเพิ่มเติม "กล้าธรรม" ออกแถลงการณ์ย้ายข้างเรียบร้อย ส่วน "หัวหน้าเท้ง" ยังไว้เชิงรอ 1 ก.ย.เคาะอีกที เผยช่วงสองสามวันนี้จะมีการลงนาม MOU สนับสนุนการโหวตนายกฯ และเปิดสภาเลือกนายกฯ 3 ก.ย.นี้ "ธนาธร" ยอมรับ "ทักษิณ" ขอคุย แต่แนะให้ไปคุยกับหัวหน้าพรรคส้ม เผยตอนนี้ข้อเสนอของภูมิใจไทยอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจที่สนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ทุกอย่างนิ่งแล้ว รอเพียงการลงนามข้อตกลงและเงื่อนไขร่วมกันกับพรรคประชาชนเป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยรับหลักการแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รอทางพรรคประชาชนนัดวันที่จะลงนามร่วมกันว่าจะเป็นเมื่อใด ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงสัปดาห์หน้า ส่วนจะได้โหวตนายกฯ ในวันที่ 3 หรือ 4 กันยายนนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะบรรจุระเบียบวาระ
ส่วนเสียงที่สนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ ขณะนี้กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ นิ่งแล้ว ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 68 เสียง เนื่องจากตัด น.ส.ประภา เฮงไพบูลย์ สส.กาฬสินธุ์, พรรคประชาชน 143 เสียง, พรรคกล้าธรรม 25 เสียง, พรรคพลังประชารัฐ 18 เสียง, กลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น 16 เสียง, พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง, พรรคเล็ก 4 เสียง, พรรคประชาธิปัตย์ 2 เสียงคือ นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา และนายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง รวม 283 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงดึกวันที่ 29 ส.ค. หลังนายอนุทินแถลงจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจที่พรรคภูมิใจไทยร่วมกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายศักดิ์ดา วิเชียรศรี สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย, นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์
ในเวลาต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค และนายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรค ได้เดินทางมาพูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย พร้อมสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ
ล่าสุด เวลา 15.55 น. วันที่ 30 ส.ค. พรรคกล้าธรรมได้ออกแถลงการณ์ว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรมจะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่างๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก
ยึดถือ 3 สถาบันหลัก
พรรคกล้าธรรมได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ
1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ 3 สถาบันหลัก ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ดังนั้น หากมีการเสนอแก้กฎหมายในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายฉบับต่างๆ จะต้องไม่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นศูนย์รวมใจของคนไทยอย่างเด็ดขาด โดยต้องดำรงคงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์
2.การยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรกว่า 30 ล้านคนในประเทศ ด้วยการปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรเหนือผลประโยชน์ของกลุ่มทุน
โดยพรรคภูมิใจไทยยอมรับเงื่อนไขของพรรคกล้าธรรม และขอให้ร่วมมือกันในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ภายใต้กติกาของระบอบรัฐสภา
พรรคกล้าธรรมขอเรียนว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก โดยไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์การเมือง ทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะสุญญากาศ ขาดทิศทางการพัฒนาและนโยบายที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องได้ ณ วันนี้ ประเทศไทยจำเป็นต้องมีกลไกของฝ่ายบริหารที่ต้องเรียกคืน และสร้างความเชื่อมั่นจากนานาประเทศอย่างเร่งด่วน
พรรคกล้าธรรม พร้อมยืนอยู่เคียงข้างประชาชนคนไทยในช่วงวิกฤตของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในครั้งนี้ โดยยึดระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการแสข่าวการดีลพรรคประชาชนให้ยกมือสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ให้แลกตำแหน่งรัฐมนตรี 8 เก้าอี้ว่า ยืนยันว่าไม่มีดีล ยืนยันว่าวัตถุประสงค์ของพรรคประชาชนคือต้องการใช้ 143 เสียง เพื่อผ่าทางตันทางการเมืองให้กับประเทศโดยที่เราไม่ร่วมรัฐบาล เราปฏิเสธไม่รับการเจรจาใต้โต๊ะ หรือหลังบ้านใดๆ ทั้งสิ้น หากไม่ได้ส่งกรรมการพรรคของพรรคเข้ามาพูดคุยกับตนหรือผู้บริหารพรรคเพื่อแสดงเจตจำนงหรือรับข้อเสนอ
“สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตถึงจะมีการเจรจาบนโต๊ะ แต่ยังมีพรรคการเมืองบางพรรคที่ล้มดีล ฉีกเอ็มโอยูที่ทำไว้ต่อประชาชน ในครั้งนี้ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ขอไม่รับข้อเสนอใดๆ ที่ไม่มีการแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจน" นายณัฐพงษ์กล่าว
รอตัดสินใจ 1 ก.ย.
ส่วนตอนนี้ยังไม่มีการเลือกว่าโหวตให้ใครใช่หรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาชนยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ต้องใช้กระบวนการตัดสินใจจากกรรมการบริหารพรรคและ สส. ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. ช่วงบ่าย ทีโออาร์ที่เราเปิดออกไปเป็นข้อเสนอที่ทุกพรรคที่ไม่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ และจำเป็นต้องใช้เสียงของพรรคประชาชน ก็จำเป็นต้องยอมรับตามข้อเสนอของเรา
เมื่อถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยได้มาเจรจาแล้วหรือไม่ เขาตอบว่า การให้ข่าวหรือการบอกว่าไปแอบเจรจากับใครลับหลังโดยที่ไม่เจรจากับตนกับผู้บริหารพรรคโดยตรง ไม่รับข้อเสนออย่างเป็นทางการใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือการฟังข่าวอย่างเป็นทางการ สถานการณ์ตอนนี้ตนเชื่อว่ามีการปล่อยข่าวโคมลอยเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการจัดตั้งรัฐบาล
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ประเมินว่าใครจริงใจหรือไม่จริงใจ อยากให้ประเมินจากเสียงในสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบันและทีโออาร์ ขณะนี้ทุกพรรคคงมีโอกาสเท่ากันๆ เราไม่มีธงล่วงหน้า ไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคใดทุกคนมีโอกาสเท่ากันตราบใดที่แสดงเจตจำนงชัดเจน
ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์กล่าวถึงกรอบเงื่อนไขการยุบสภา 4 เดือนว่า มีการพูดคุยกันในพรรคแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอเรื่องการทำประชามติ เพื่อการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ว่าจะต้องทำประชามติกี่ครั้ง และเห็นว่ากรอบ 4 เดือนหลังจากที่แถลงนโยบายต่อสภา จะเริ่มเห็นความชัดเจนว่าการทำประชามติ พร้อมการทำเลือกตั้งจะเป็นคำถามแบบใด ถือเป็นกรอบเวลาที่ได้กำหนดไว้แล้ว ไม่มีช้าไปกว่านี้ หลังจากมีข้อเสนอนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขยายให้เป็นยุบสภาเป็น 6 เดือน เชื่อว่าเป็นกรอบที่ทำทันและเหมาะสมในการทำประชามติ
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวลือว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพูดคุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า ไม่ทราบในรายละเอียด ย้ำว่าพรรคประชาชนจะรับพิจารณาเฉพาะพรรคการเมืองที่มาพูดคุยด้วยตัวเองเท่านั้น
หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวว่า จากสมการทางการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน การเลือกทางใดทางหนึ่งนั้น พรรคประชาชนยังไม่ได้ตัดสินใจ โดยจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรคในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ ช่วงบ่าย และพรรคจะตัดสินใจ พร้อมย้ำถึงการตัดสินใจที่หนักแน่น และจะใช้ทุกเสียงที่จะกำกับทิศทางประเทศให้เดินไปในทิศทางที่ดีที่สุด ภายใต้เงื่อนไขที่ได้เสนอ ที่เป็นไปได้และมีความจำเป็น
ช่วงท้ายนายณัฐพงษ์ยังเปิดเผยว่า ในช่วงสองสามวันนี้จะมีการลงนาม MOU สนับสนุนการโหวตนายกรัฐมนตรีกับพรรคการเมืองที่ได้ ตอบรับข้อเสนอพรรคประชาชน และเชื่อว่าจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันพุธที่ 3 ก.ย.นี้
'ธนาธร' รับคุย 'ทักษิณ'
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการจัดตั้งรัฐบาล โดยยอมรับว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ส.ค. ตนได้เจอกับนายทักษิณต่อหน้า และได้พูดคุยกับทักษิณ หลังจากที่ได้รับการติดต่อมาเพื่อขอคุยตั้งแต่เมื่อวาน (29 ส.ค.) ซึ่งนายทักษิณได้มาปรึกษาหารือต่อกรณีที่พรรคประชาชนจะยกมือสนับสนุนให้นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่
ซึ่งได้ตอบไปว่า พรรคประชาชนมีจุดยืนเรื่องนี้อย่างชัดเจน และพรรคประชาชนได้แถลงจุดยืนเรื่องนี้มา 2 เดือนแล้ว ในเรื่องของทีโออาร์ หรือเงื่อนไขของการยกมือสนับสนุนผู้ใดผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเงื่อนไขคือยุบสภาภายใน 4 เดือน และจัดทำประชามติเพื่อแก้ไขและธรรมนูญให้เสร็จ นี่เป็นสิ่งที่ตนได้บอกกับนายทักษิณไป
เมื่อถามว่า กังวลว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า พรรคประชาชนมีเงื่อนไขที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยจะยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้หรือไม่ หากพรรคเพื่อไทยยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้ ก็ไม่ต้องมาคุยกับตน ไปคุยกับหัวหน้าพรรคได้เลย ซึ่งหัวหน้าพรรคได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่ายังไม่ได้มีการติดต่อหรือนัดหมายจากทางพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการมาที่พรรคประชาชน
นายธนาธรยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งอาจจะทำให้มีการคุยกันในตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจได้มากกว่านั้น นายธนาธรกล่าวว่า นายสุริยะเป็นอา และตนกับนายพงศ์กวินเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ด้วยความเคารพทั้งสองท่านเป็นญาติกัน แต่เรื่องปัญหาของบ้านเมืองไม่ได้ใช้จุดนี้มาคุยกัน และยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อพูดคุยจากทั้งสองคน
ส่วนพรรคประชาชนยังไม่ปิดประตูเลือกนายชัยเกษมใช่หรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาชนได้ตอบชัดเจนแล้ว
ส่วนพรรคประชาชนจะเลือกพรรคไหนนั้น ในมุมมองของนายธนาธรนั้นตนเข้าใจว่า เหตุผลที่พรรคประชาชนยื่นทีโออาร์ มีเงื่อนไขขึ้นมาไม่ได้อยากมีอำนาจหรืออยากเป็นรัฐบาล และพรรคประชาชนยังเป็นฝ่ายค้านเช่นเดิม แต่สิ่งที่พรรคประชาชนต้องการคือการพาประเทศไปข้างหน้า เพราะด้วยสภาในปัจจุบันไม่มีกลุ่มการเมืองไหนที่มีความชอบธรรม และมีศักยภาพภาพเพียงพอที่จะพาประเทศไปข้างหน้า ไม่มีใครที่จะมีความสามารถในการแก้ปัญหาของประเทศได้ ทั้งการแก้ปัญหายาเสพติด และการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงปัญหาทางการเมือง ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการคืนอำนาจให้พรรคประชาชนด้วยการยุบสภา ทำให้พรรคประชาชนมีเงื่อนไขแค่ 2 ข้อ ตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะหน้า และสิ่งที่ต้องการคือสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ เพื่อพาประเทศไปข้างหน้า นั่นคือโจทย์ใหญ่ของสังคม
ข้อเสนอ ภท.อยู่บนโต๊ะแล้ว
ส่วน 4 เดือนเป็นระยะเวลาการทำประชามติพอหรือไม่นั้น นายธนาธรเชื่อว่า พรรคประชาชนได้คำนวณมาแล้วว่าเพียงพอในการทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า ไม่ว่าจะเลือกทางไหนพรรคประชาชนอาจจะเจ็บทั้งคู่นั้น เพราะผู้สนับสนุนไม่ได้อยากได้ทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย นายธนาธรยืนยันหนักแน่นว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน ไม่มีกลุ่มไหนรวมเสียงข้างมากและจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นต้องสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่าสถานการณ์เช่นนี้ การคืนอำนาจให้ประชาขนเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
ส่วนจะเลือกใครก็ต้องดูว่า พรรคไหนมีโอกาสทำสิ่งต่างๆ ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน พรรคประชาชนพร้อมรับฟังข้อเสนอ
ส่วนความกังวลหรือไม่เรื่องการจะถูกฉีก MOU นั้น นายธนาธรกล่าวว่า ต้องให้ประชาชนตัดสิน หากพรรคไหนรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนไปแล้วไม่ทำตาม ก็ขอให้ประชาชนตัดสิน
ส่วนจะคุยกับพรรคภูมิใจไทยเพิ่มเติมหรือไม่ ให้ไปถามหัวหน้าพรรคประชาชน เพราะตอนนี้ข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทยอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เขาถาม ปชน.แล้วหรือยัง พรรค ปชน.ยังไม่ได้บอกว่าจะจับมือกับ ภท. เพียงแต่เสนอเงื่อนไขออกมา และยังไม่ปิดเงื่อนไข ตนมองว่า ปชน.จะรอจนครบถ้วนทั้งหมดก่อนตัดสินใจ และมองว่าหากต้องตัดสินใจระหว่างพรรค พท.กับพรรค ภท.ใครมีความเหมาะสมมากที่สุด การที่ประกาศ 280 เสียง โดยมีเสียงของพรรค ปชน. ทั้งที่พรรค ปชน.ยังไม่ประกาศอย่างชัดเจน อันนี้ถือว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อ
"วันนี้ผมชื่อว่าพรรคประชาชนยังต้องใช้เหตุใช้ผลอย่างเต็มที่ อีกทั้งข้อเสนอที่พรรคประชาชนเสนอมานั้น สำหรับพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีอะไรที่ขัดข้องหมองใจ ทั้งเรื่องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการทำประชามติ เป็นเรื่องที่ผมเคยเป็นประธานผลักดันเรื่องนี้มา ผมจึงมองว่าพรรคประชาชนคุยกับพรรคเพื่อไทยง่ายกว่าพรรคภูมิใจไทย ลองถามพรรคประชาชน"
นายภูมิธรรมอ้างว่า วันที่ 29 สิงหาคม น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ก็พูดแล้วว่าอยากให้ลืมอดีตให้เอาเรื่องนี้ ร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งพรรค พท.ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรค พท.ได้พูดคุยกับพรรค ปชน.บ้างแล้วหรือยัง นายภูมิธรรมตอบว่า ตอนนี้เริ่มมีการติดต่อกันบ้างแล้ว
'อ้วน' เพ้ออำนาจยังเต็มมือ
ถามว่า การพูดคุยจะง่ายหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เหมือนแยกทางกันไม่ลงรอยเท่าไหร่ เขาตอบว่า วันนี้ปัญหาเรื่องประเทศชาติเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แล้วถามว่าการไม่ลงรอยกันนั้นแล้วพรรค ปชน.ลงรอยกับพรรค ภท.หรือ แล้วเรื่องเขากระโดงวันนี้พรรคภูมิใจไทยพูดได้ทุกเรื่องเพราะมีเรื่องที่ตัวเองต้องจัดการ เป็นเรื่องที่เขาห่วงใยเสียมากด้วย ทั้งเรื่องเขากระโดง เรื่องฮั้ว สว. ถามว่าพรรค ปชน.ยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้หรือ
ซักว่าพรรค ภท.ตั้งโต๊ะแถลงข่าวประกาศพร้อมเป็นนายกฯ แล้ว แต่ในส่วนของพรรค พท.ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมเสียง นายภูมิธรรมแย้งว่า ไม่ใช่ เข้าใจผิดแล้ว พรรค ภท.พยายามประกาศตัวเองเพื่อดึงคนอื่น แต่เราเป็นรัฐบาล ตอนนี้มีอำนาจเต็ม ไม่ว่าจะโยกย้ายข้าราชการ จ่ายงบฉุกเฉินเราทำได้หมด รวมถึงการยุบสภา เพราะฉะนั้น ภท.ประกาศบนความว่างเปล่ามันตั้งได้หรือ อันนี้ต้องให้หัวหน้าพรรค ภท.นั่งคิดมากๆ ก่อนว่าพูดอะไรออกมา ถ้าเลื่อนลอยความเชื่อถือของคุณจะมีหรือไม่ พรรค พท.ได้รับการมอบหมายให้ดึงคนเข้ามาให้มากขึ้น และพรรคร่วมฯ พูดกันจับมือกันชัดเจนแล้ว ฉะนั้นตนว่าพรรค ภท.ฝันกลางวันหรือไม่
เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมยังร่วมรัฐบาลอยู่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้เหมือนกับการล้างแล้วไปคุยกันใหม่ ตนเห็นว่าคนที่พรรค ภท.บอกว่าจะไปร่วมด้วยก็ยังไม่มีใครตัดสินใจ ในส่วนของพรรค พท.และพรรคร่วมฯ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ก็มีการจับมือกันให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้วันเวลาเมื่อไหร่ที่จะยื่นให้สภาพิจารณา
ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ว่า เพิ่งด่วนสรุปว่าทางฝั่งภูมิใจไทยมีตัวเลขจำนวนดังกล่าว เพราะทางพรรคประชาชนก็ยังไม่ได้ตอบรับ แล้วทึกทักเอาเองว่าเอาไปรวมแล้ว จริงๆ พรรคประชาชนยังไม่ได้ตอบรับอย่างเป็นทางการ พรรคกล้าธรรมก็ยังไม่ได้ตอบรับ เพราะฉะนั้นตัวเลขนี้ยังสรุปไม่ได้
ถามว่า จะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ก็อยู่ในบัญชีของพรรคเพื่อไทย และเหลืออยู่คนเดียว โดยที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้นก็น่าจะเป็นไปตามนั้น เมื่อถามว่ามีโอกาสจะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคอื่นหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เป็นการพูดคุยกันระหว่างพรรคร่วมฯ ที่สามารถรวบรวมเสียงได้
นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการรวบรวมเสียงรัฐบาลว่า ทีมพรรคเพื่อไทยดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่า การที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ไปพูดคุยกับนายธนาธร ในฐานะนามสกุลเดียวกันจะทำให้การพูดคุยง่ายขึ้น และสามารถเอนเอียงมาทางพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายพงศ์กวินกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คิดว่าคงจะคุยกันได้ง่ายกว่า
อยู่ฝั่งนี้ 100 เปอร์เซ็นต์
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง 3 ข้อเสนอของพรรค ปชน. ว่าทางพรรคเพื่อไทยคุยกันแล้วก็ยินดี แต่ สส.หลายคนก็แสดงความคิดเห็นแตกต่างกันพอสมควร แต่จะลองดู เพราะยังมีเวลาในการพูดคุย
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับพรรคประชาชนบ้างแล้วหรือยัง นายสรวงศ์กล่าวว่า ใครมีความสนิทสนมกับใครก็พูดคุยกัน เป็นการพูดคุยหลังบ้านว่าทำตามข้อเสนอได้หรือไม่ และเราไม่ได้รับปากแบบชุ่ยๆ เพราะถ้ารับปากแล้วทำไม่ได้มันเสีย ไม่ใช่สิ่งที่เสนอมาเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องรู้ว่าทำได้แค่ไหน อย่างเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ขอให้ไปย้อนดูว่าพรรคไหนเป็นคนที่ขัดขวาง ดังนั้นเราต้องพิจารณา ไม่ใช่ว่าอยากเป็นจนรับปากแล้วมันเป็นไปไม่ได้ 4 เดือนไม่เสร็จอาจจะต่อรองเป็น 6 เดือน
เมื่อถามว่า จะต้องเดินทางไปเจรจากับพรรคประชาชนเป็นทางการหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า มีการพูดคุยหลังบ้าน หากวันไหนเรียบร้อยเบ็ดเสร็จ หรือเป็นไปตามที่พูดคุยกันไว้ ก็จะมีการไปเทียบเชิญขออย่างเป็นทางการ แต่ย้ำว่าทุกอย่างที่เราตัดสินใจไปต้องเป็นไปได้
ขณะที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนว่าถูกพรรคภูมิใจไทยทาบทามไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ รวมถึงกระแสข่าว สส.พรรคประชาธิปัตย์ 4 คนไปสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยแล้ว โดยเปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ในเวลา 15.00 น.
นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงจุดยืนในการร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ยังหนึ่งเดียว อยู่ฝั่งนี้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า “พูดไปหมดแล้วเมื่อวาน”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายวราวุธให้สัมภาษณ์ว่า "ให้รอฟังข่าว"
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยไม่มีเปลี่ยนแปลง และให้พรรคเพื่อไทยเดินสายเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะรวบรวมเสียงได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
พร้อมหน้า นายกฯหนู โพสต์ภาพพาครอบครัวกินห่านพะโล้ในวันพ่อแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พาพ่อ แม่เมีย น้อง หลาน ไปกินห่านพะโล้เนื่องในวันพ่อ #ฉั่วคิมเฮง

