"ภูมิธรรม" เซ็นคำสั่งให้ "ศบ.ทก." ทำงานต่อเนื่อง แก้ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา "มทภ.2" ไม่ยืนยัน “พล.อ.สรัย ดึ๊ก” เสียชีวิตหรือไม่ แต่ไม่ปรากฏตัวเดือนกว่าแล้ว "ฮุน เซน" จ่อเยือนเวียดนามรอบสามของปี
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 เซ็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 275/2568 เรื่อง จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดย รมช.กลาโหม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ และมีกรรมการรวมทั้งสิ้น 27 คน
ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ อาทิ ติดตาม ตรวจสอบ วิเคราะห์ กลั่นกรอง และประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการที่จำเป็นเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป บูรณาการการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ให้มีความเป็นเอกภาพ และเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาต่อสาธารณชน
ดำเนินการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมายในการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คำนึงถึงความมุ่งหมายที่จะแก้ไขความตึงเครียดและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนกับประเทศกัมพูชาให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างเช่นมิตรประเทศที่ใฝ่สันติจะพึงปฏิบัติต่อกันบนหลักการทวิภาคี อย่างเท่าเทียม และด้วยสันติวิธี เคารพซึ่งกันและกัน ในเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค บูรณภาพแห่งดินแดน และเอกลักษณ์ของทั้งสองประเทศ และโดยปราศจากการแทรกแซงของประเทศที่สามหรือองค์กรระหว่างประเทศทั้งปวง
ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ มาชี้แจงข้อเท็จจริง ส่งเอกสารหลักฐาน หรือดำเนินการตามที่ ศบ.ทก.กำหนด ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับผิดชอบงานธุรการและวิชาการของ ศบ.ทก. ให้การจัดโครงสร้าง การติดต่อสื่อสาร การรายงาน และการติดตามประเมินผลการของ ศบ.ทก. เป็นไปตามที่ผู้อำนวยการศูนย์กำหนด เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ให้ผู้อำนวยการศูนย์รายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบ และมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 30 ส.ค.2568
วันเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนี้ สถานการณ์โดยรวม กองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
ส่วนการดูแลผู้อพยพ อำนวยความสะดวกประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน 5 ศูนย์ ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี 1 ศูนย์ 78 คน และในพื้นที่ จ.สุรินทร์ 4 ศูนย์ 510 คน ปัจจุบันมียอด 588 คน ทั้งนี้ ทางฝ่ายปกครองได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเข้าดูแลพื้นที่บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่กระแสข่าวว่า พล.ท.สรัย ดึ๊ก รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ในฐานะผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เสียชีวิตแล้วว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเสียชีวิตแล้วจริงหรือไม่ เพราะยังไม่มีรายงานเข้ามาว่าเสียชีวิต แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ท.สรัย ดึ๊ก ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนนานกว่าเดือนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าว พล.อ.สรัย ดึ๊ก เสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันรัฐบาลกัมพูชาไม่มีการตอบโต้ใดๆ ต่อการนำเสนอข่าวของสื่อฝ่ายไทย สำหรับ พล.อ.สรัย ดึ๊ก ถือเป็นคนใกล้ชิดสมเด็จฮุน เซน ทั้งนี้ ยังเป็นตัวแทนฝ่ายกัมพูชาหารือกับ พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เจรจาคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก เป็นที่มาของการปิดกลบคูเลตและปรับลดกำลังจากพื้นที่ไปอยู่จุดเดิม เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวกัมพูชารายงานว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) จะเดินทางเยือนกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 1-2 ก.ย.68 เพื่อเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีการปฏิวัติเดือนสิงหาคม และวันชาติเวียดนาม โดยการเยือนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของฮุน เซน ต่อเวียดนามนับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งคณะผู้แทนระดับสูงจากกัมพูชาจะเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเป็นทางการ และหารือกับผู้นำระดับสูงของเวียดนาม อาทิ นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม, นายทราน แถ่ง มัน ประธานรัฐสภา และนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิญ จิญ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


