ตรึงVAT7%/ลุยคนละครึ่ง2.0

ทิ้งทวน! ครม.ไฟเขียวต่ออายุมาตรการตรึงภาษี VAT 7% อีก 1 ปี ถึง 30 ก.ย.69 ช่วยเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจประเทศเดินหน้าต่อ "ว่าที่ รมช.คลัง" ปักธงคืนชีพคนละครึ่งเวอร์ชัน 2.0 ปลุกกำลังซื้อประชาชน ลดภาระค่าครองชีพ “ผอ.สำนักงบฯ” ยันงบกระตุ้น ศก.มีพอ  ดึงงบปี 68 วงเงิน 2.5 หมื่นล้าน ทำคนละครึ่งได้

เมื่อวันที่ 9 กันยายน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% มาอยู่ที่ 7% ออกไปอีก 1 ปี โดยมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.2568-30 ก.ย.2569 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.2568

 “เราดูจังหวะเวลาแล้วค่อนข้างเร่งรัด โดยจะต่อมาตรการลดภาษี VAT จาก 10% มาอยู่ที่ 7% ต่ออีก 1 ปี เพราะหากรอรัฐบาลใหม่ อาจมีช่วงรอยต่อที่อาจจะมีปัญหาทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มจะดีดขึ้นไปอยู่ที่ 10% ก็เลยพิจารณาและดูแล้วว่าอยู่ในกรอบอำนาจที่ดำเนินการได้ เพื่อให้ศักยภาพของประเทศ โดยเฉพาะการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังดำเนินการต่อ จึงมีมติคง VAT ที่ 7% ตามเดิมอีก 1 ปี” นายจุลพันธ์ระบุ

สำหรับสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น  รมช.การคลังระบุว่า ขอให้รอรัฐบาลใหม่ ซึ่งรอให้กระบวนการฟอร์มรัฐบาลใหม่เรียบร้อย และรอการแถลงนโยบาย หลังจากนั้นถึงจะสามารถคอมเมนต์ หรือให้ข้อคิดเห็น รวมถึงเสนอแนะนโยบายที่รัฐบาลใหม่จะดำเนินการได้ แต่ในเวลานี้ยังไม่สามารถแสดงความเห็นได้

ส่วนอีกเรื่องที่เข้า ครม.คือ เรื่องรายงานของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000  บาท ที่รัฐบาลได้ทำไป ซึ่งผลลัพธ์เป็นผลบวกที่ดี  และเป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังและกรอบของงบประมาณ

วันเดียวกัน นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับโครงการคนละครึ่งว่า "คนละครึ่ง อาจถึงเวลาที่ต้องกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้จะกลับมาในเวอร์ชัน "คนละครึ่ง 2.0" ให้ประชาชนซื้อขายแบบกระตือรือร้นมากขึ้น รายละเอียดของเวอร์ชันใหม่มีโอกาสแล้วจะมาเล่าให้ฟัง ทั้งนี้ หลายคนยังจำได้ โครงการคนละครึ่งที่รัฐบาลเคยทำในช่วงวิกฤตโควิด เป็นหนึ่งในมาตรการที่ประชาชนรู้สึกได้จริงว่าช่วยลดภาระค่าครองชีพ และยังทำให้ร้านค้าเล็กๆ ท้องถิ่นมีรายได้หมุนเวียนมากขึ้น

โดยหลักการง่ายๆ รัฐช่วยจ่าย 50%  ประชาชนจ่ายอีก 50% ไม่เพียงช่วยแบ่งเบาภาระ แต่ยังทำให้เงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจทันที ขณะเดียวกันผลลัพธ์ในครั้งนั้นชัดเจนมาก ประชาชนกว่า 20-28 ล้านคนเข้าร่วม เงินสะพัดในระบบกว่า 2 แสนล้านบาท ร้านค้ารายย่อยและหาบเร่แผงลอยได้ลูกค้ากลับมา วันนี้ค่าครองชีพยังสูง เศรษฐกิจฐานรากยังเหนื่อย การพิจารณานำโครงการคนละครึ่งกลับมา อาจเป็นอีกหนึ่งทางออกระยะสั้นที่จะช่วยทั้งผู้ซื้อและผู้ชายไปพร้อมกัน แน่นอนว่าไม่ใช่คำตอบถาวร แต่ในช่วงที่ประชาชนกำลังรับภาระหนัก การมีมาตรการที่สัมผัสได้จริง อาจเป็นพลังใจและแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เศรษฐกิจเดินต่อ”

นายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวถึงความพร้อมการดำเนินนโยบายตามรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจว่า พร้อม ยืนยันว่างบประมาณมีพอ

เมื่อถามว่า หากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 ประกาศใช้ จะสามารถดำเนินการได้เลยหรือไม่ นายอนันต์กล่าวว่า ใช่ รวมถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนงบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 68 จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท ที่เหลือจาก 1.57 แสนล้านบาท จะสามารถนำมาดำเนินโครงการคนละครึ่งได้หรือไม่นั้น นายอนันต์กล่าวว่า ต้องดูว่าจะใช้ทันสิ้นปีงบประมาณ 68 หรือไม่ ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ หากสามารถดำเนินการทัน ต้องทำเลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.