ลาก‘ทักษิณ’ฟันซํ้า มีเอี่ยวชั้น14‘ปปช.’เช็กบิลยกแก๊ง/จ่อตั้งนช.ผู้ช่วยจนท.คุก

"ทักษิณ" นอกคุกคืนแรก "หลับสนิท-ไม่เครียด" ราชทัณฑ์ประเคนบัดดี้คอยดูแลใกล้ชิด จ่อแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยในเรือนจำ ครอบครัวชินวัตรเงียบยังไม่มีกำหนดเยี่ยม จับตาราชทัณฑ์ปล่อยขังนอกเรือนจำ “อ้วน” น้ำตาจะไหลเห็นนายใหญ่ใส่ชุดนักโทษ ชูเหนือหัววีรบุรุษประชาธิปไตย หนาวยกแผง “ป.ป.ช.” ง้างดาบเช็กบิลระนาว “นักการเมือง-จนท.รัฐ-เอกชน” ร่วมขบวนการเอื้อประโยชน์เทวดาชั้น 14  “คปท.” ตอกหมุดคุกยาวร้องเอาผิดนายใหญ่ตัวการสร้างเรื่องป่วยทิพย์

เมื่อวันพุธ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานภายในกรมราชทัณฑ์ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดยอาการนอนห้องกักโรคคืนแรกสามารถนอนหลับได้ ปรับตัวได้เป็นอย่างดี ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ ส่วนการรับประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ครบ ยังไม่ได้มีการร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษ

ส่วนกรณีที่เป็นผู้ต้องขังคดีรายสำคัญเช่นนี้  การเข้าไปคุมขังภายในเรือนจำจะต้องได้รับการดูแลความปลอดภัยอย่างสูงสุด โดยเฉพาะการมอบหมายให้ผู้ต้องขังที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยพนักงานเรือนจำฯ คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือ

"อีกทั้งหากมองเรื่องทางการเมือง ก็จะต้องระวังในส่วนของคนที่ไม่ได้ชอบด้วย เพราะทราบว่ามีผู้ต้องขังคดีทางการเมืองอยู่จำนวนหนึ่ง มีทั้งกลุ่มพรรคพวกเดียวกัน และคนละกลุ่มการเมืองกัน นอกจากนี้ เมื่อนายทักษิณครบกำหนดการกักโรคโควิด ก็จะต้องได้รับการพิจารณาจำแนกแยกแดน ซึ่งแดนขังที่มีความเป็นไปได้ อาทิ แดน 6 แดนแรกรับ/ผู้ต้องขังป่วย/ผู้ต้องขังชรา คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 50 ปี หรือแดน 7 แดนการศึกษาและพัฒนาจิตใจ" รายงานข่าวระบุ 

ในส่วนของโครงการพักการลงโทษนั้น ด้วยความที่นายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี ซึ่งตามหลักการจะต้องจำคุกมาแล้ว 1 ใน 2 จึงจะเข้าโครงการพักโทษได้ ดังนั้น ในกรณีของนายทักษิณคือ 6 เดือน เมื่อรับโทษมาแล้ว 6 เดือน ก็จะได้พักโทษกลับไปคุมประพฤติที่บ้านตามขั้นตอน แต่อย่างไรแล้วด้วยความที่นายทักษิณอายุ 76 ปี ก็มีสิทธิที่จะเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีเหตุพิเศษได้

แต่ที่น่าสนใจคือ ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ หรือระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566  โดยกรณีของนายทักษิณ หากเราดูคุณสมบัติที่มีโทษจำคุกตามคำสั่งศาลศาลฎีกาฯ บังคับโทษ 1 ปี ก็ถือว่าเข้าเกณฑ์ แต่ด้วยตอนนี้ระเบียบดังกล่าวยังติดขัดปัญหาเรื่องการจัดสรรจัดหากำไล EM และยังไม่ได้มีการนำร่องใช้กับเรือนจำใด ผู้ต้องขังใด เพราะตอนนี้มีจำนวนผู้ต้องขังทั่วประเทศที่เข้าข่ายได้รับการพิจารณาให้ไปคุมขังนอกเรือนจำหลักหมื่นราย ซึ่งผู้มีสิทธิรายชื่อเหล่านั้นก็จะต้องถูกนำเสนอไปยังชั้นของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นประธานพิจารณา

รายงานข่าวภายในกรมราชทัณฑ์ระบุว่า แม้นายทักษิณจะเหลือโทษจำคุก 1 ปี แต่ระหว่างที่คุมขังอยู่นั้น หากมีพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป ก็ถือว่ามีสิทธิได้รับเกณฑ์พิจารณาเช่นเดียวกัน ซึ่งการเข้าเรือนจำครั้งแรก นายทักษิณจะได้รับการจัดลำดับชั้นเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางก่อน และในทุกๆ 6 เดือน เรือนจำก็จะมีการปรับเลื่อนชั้นผู้ต้องขัง

นอกจากนี้ นายทักษิณถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ทางเรือนจำอาจจะมีการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยในงานด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลืองานในเรือนจำได้

มีรายงานว่า นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ เดินทางมาที่เรือนจำ โดยระบุว่า วันนี้ยังไม่ได้เข้าเยี่ยม เพราะอยู่ในช่วงกักโรค และจะมาติดต่อในวันที่ 15 ก.ย.นี้

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ทางครอบครัวชินวัตรไม่ได้ฝากอะไรกับทางทีมทนายมาเป็นพิเศษ

ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า  ในสายตาตนนายทักษิณเป็นนักสู้คนหนึ่ง และเมื่อเห็นภาพนายทักษิณสวมชุดคอกลมสีฟ้า และดูเหมือนจะกล้อนผมด้วยก็สะเทือนใจ การที่ท่านตัดสินใจกลับมา ถือว่าท่านเป็นคนที่รับผิดชอบต่อตัวท่านเอง และประชาชนที่เคารพนับถือท่าน ในสายตาตนนายทักษิณเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตยคนหนึ่ง

ป.ป.ช.ง้างดาบต่อ

วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการ 12 ราย เอื้อประโยชน์ นายทักษิณเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่า คำสั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ย. เป็นคำสั่งแบบย่อ ต้องมาดูรายละเอียดฉบับเต็มว่าศาลว่าอย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่ดูเอกสารที่ออกมาเผยแพร่ศาลยังไม่ได้ระบุตัวบุคคลว่าเป็นนาย ก. นาย ข. เพียงแต่เป็นการกล่าวถึงในบางตำแหน่งเท่านั้น เช่นพยาบาลหรือพัศดีเวร (เจ้าหน้าที่เรือนจำที่ปฏิบัติหน้าที่ในเวรประจำวัน)

ขั้นตอนของ ป.ป.ช.ตอนนี้อยู่ระหว่างการขอคัดคำสั่งศาลฉบับเต็มมาดู ที่สำคัญตัวพยานที่เบิกความในชั้นศาล 31 ปาก ต้องมาดูว่าเป็นพยานที่ ป.ป.ช.เคยเรียกมาสอบปากคำแล้วหรือยัง หากเรียกมาแล้วต้องดูว่าคำให้การต่อศาลนั้นตรงกับให้กับกรรมการ ป.ป.ช.หรือไม่ รวมถึงพยานหลักฐานเอกสารที่ขั้นตอนขณะนี้คือรายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบเบื้องต้นก่อน โดย ป.ป.ช.จะต้องไปขอดูบันทึกถ้อยคำพยาน ซึ่งจะต้องไปขอคัดเอกสารมาประกอบแนวทางอีกครั้ง ระยะเวลาในการขอคัดคำสั่งศาลฉบับเต็ม เท่าที่ประสานเห็นว่าน่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-7 วัน            

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งศาลระบุว่านายทักษิณอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ในส่วนของ ป.ป.ช.จะมีการขยายผลไปในส่วนนี้หรือไม่ นายภูเทพกล่าวว่า ป.ป.ช.ต้องดูทั้งหมด เพราะเดิมการตั้งไต่สวนเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด แต่เมื่อมีประเด็นที่ศาลบอกว่านายทักษิณได้ประโยชน์จากการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็ต้องมาดูว่าประโยชน์ที่ว่าใครอะไร และที่สำคัญ ประโยชน์ที่ว่าไปสัมพันธ์กับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เพราะเดิมประเด็นการไต่สวนมีประเด็นที่ว่าการนำนักโทษไปรักษาตัวข้างนอกเรือนจำ มีการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนกฎหมายราชทัณฑ์และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และการนำตัวนักโทษไปรักษาที่โรงพยาบาลมีการกระทำข้ามขั้นตอนระเบียบว่าด้วยการส่งตัวผู้ป่วยหรือไม่        

 “เพราะฉะนั้นความจริงอยู่ในกรอบอำนาจ ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการได้อยู่แล้ว เพราะคำว่าผู้ถูกกล่าวหาของ ป.ป.ช. จะรวมถึงตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน คือเอกชน ซึ่งเอกชนในทีนี้ต้องไปดูว่านอกจากที่ปรากฏในคำสั่งศาลแล้วจะมีเอกชนคนไหนด้วยหรือไม่ หากเอกชนมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะมีความผิดในลักษณะสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือการสนับสนุนตามมาตรา 157 แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านอกจากจำนวนข้าราชการที่ ป.ป.ช.ตั้งไต่สวนแล้ว จะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีกหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกก็ได้ หรือมีเอกชนเพิ่มเติมอีกก็มีความเป็นไปได้” นายภูเทพกล่าว

เมื่อถามว่า การไต่สวนของ ป.ป.ช. จะรวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ด้วยหรือไม่ นายภูเทพกล่าวว่า เดิมทีการตั้งไต่สวนเป็นเฉพาะข้าราชการ ยังไม่มีนักการเมืองเกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามหากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของตัวพยานที่ไปเบิกความกับศาล และที่ ป.ป.ช.สอบพยานไว้แล้ว

"หากมีความเชื่อมโยงไปถึงใคร กรรมการ ป.ป.ช.ก็สามารถตั้งไต่สวนเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือเอกชน ทั้งนี้ สำหรับข้าราชการที่ ป.ป.ช.ตั้งไต่สวนไปก่อนหน้านี้ มีกว่า 10 ราย มีในส่วนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ข้าราชการตำรวจที่มีตำแหน่งอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ โดยเป็นทั้งผู้บริหารสูงสุดของทั้งสองหน่วยงานดังกล่าว" รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ระบุ

เมื่อถามว่า ป.ป.ช.มีข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานไหนอีกหรือไม่ นายภูเทพกล่าวว่า มี แต่ไม่ขอเปิดเผย ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ขอข้อมูลไปกับหลายหน่วยงาน เมื่อถามอีกว่าได้ประมาณการเวลาหรือไม่ หากได้เอกสารจากศาลมาครบเรียบร้อยแล้ว  นายภูเทพกล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุเวลาได้ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่

คปท.จัดก๊อก 2

นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการกฎหมายอิสระ อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 และเป็นหนึ่งในทีมฝ่ายกฎหมายร่วมกับนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เปิดเผยว่า คดีความของนายทักษิณยังไม่จบ แม้จะมีการบังคับโทษส่งตัวนายทักษิณเข้าเรือนจำไปแล้วเมื่อ 9 ก.ย. โดยเจ้าหน้าที่รัฐคนใดมีความผิดเรื่องอะไร ป.ป.ช.ก็ดำเนินคดี แล้วนายทักษิณก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วยในฐานะตัวการ หรือผู้ใช้ ผู้สนับสนุน ตามความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ 12 คน โดยต้องมีคนไปร้องเพิ่มต่อ ป.ป.ช.ให้เอาผิดนายทักษิณ ที่ทาง คปท.คงไปร้องเพิ่มต่อ ป.ป.ช.ในเร็วๆ นี้ให้เอาผิดนายทักษิณเพิ่มด้วย จากที่เคยตั้งอนุกรรมการไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐไว้เดิม 12 คน โดยในช่วงที่นายทักษิณอยู่ รพ.ตำรวจ อย่างน้อยเอกสารต่างๆ ที่เป็นเอกสารที่เป็นเท็จเพื่อให้มีการช่วยเหลือมากกว่าหนึ่งครั้ง อาจจะเป็นความผิดลักษณะหนึ่งกรรมแต่ต่างวาระกัน ที่อาจแตกออกไปหลายการกระทำในความผิดฐานเดียวกัน

ทั้งนี้ อาจทำผิดประมวลกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 4-5 ข้อหา แต่มีการกระทำอาจเป็นสิบครั้งก็ได้ ก็อาจเป็นสิบกระทงก็ได้ จากคำสั่งของศาลฎีกาฯ จะมีผลกระทบต่อคดีของนายทักษิณในอนาคตอีกเยอะ ซึ่งคดีอื่นๆ หากตามมาอาจทำให้นายทักษิณใช้สิทธิ์การได้รับการลดโทษอีกไม่ได้ โดยได้พิจารณาดูแล้ว ต่ำๆ อาจจะโดนอีก 6-8 ปี อันนี้ขั้นต่ำ แต่ถ้ารวมทุกการกระทำอาจจะถึง 40 ปี

"กรณีที่เคยยื่นถวายฎีกาฯ เพื่อขอรับพระราชทานอภัยโทษ ก็เป็นฎีกาเท็จ ที่อาจจะผิดมาตรา 112 ได้ ก็ต้องมีคนไปดำเนินการ ที่รัฐบาลอาจทูลเกล้าฯ ได้ว่ามีการถวายฎีกาอันเป็นเท็จ ก็อยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัยว่าจะเพิกถอนหรือไม่ จะทรงเพิกถอนเหมือนที่เคยทรงเพิกถอนเรื่องการตั้งสมณศักดิ์ที่เคยทรงทำมาแล้วหรือไม่" นายคมสันระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ