“นายกฯ หนู” การันตีไม่เปิดด่านแน่ กลัวคนไทยกระทืบ ยกอำนาจทหารตัดสินใจได้เต็มที่ รัฐบาลขอเดินหน้าการทูต สั่งเร่งเยียวยา ปชช.ชายแดน จ่อถกบัวแก้วบินร่วม “UNGA” ก่อนแถลงนโยบายทำได้หรือไม่ มวลชน 200 ชีวิตตบเท้าให้กำลังใจทหาร ทวงคืน 17 จุดที่ถูกรุกล้ำ "ฮุน เซน" ซัดไทยแพร่ข่าวปลอม ทบ.โต้กลับทันที ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องหยุดบิดเบือนความจริง
ที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงเรื่องการปิดด่านและการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ได้ทำความเข้าใจกับการทหารแล้วว่า เมื่อตนได้เข้ารับตำแหน่งฝ่ายบริหารประเทศเมื่อไหร่ จะให้ทหารได้ตัดสินใจเต็มที่ รัฐบาลที่กำลังเข้ามาจะให้การสนับสนุน เคารพการตัดสินใจของฝ่ายการทหาร ส่วนรัฐบาลจะทำเรื่องการทูตและเงื่อนไขที่ต้องเจรจาต่างๆ ซึ่งต้องมีความชัดเจนว่าเราไม่ยอมรับเงื่อนไข แต่เขาต้องยอมรับเงื่อนไขเราเท่านั้น จึงจะดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปได้
"ผมอยากให้มีความชัดเจนในตรงนี้ เพราะที่ผ่านมามีการคาดคะเนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้นำต่างประเทศโทร.มาล็อบบี้ผม ไม่มีใครมาล็อบบี้ผมได้หรอกครับ ผมต้องทำให้กับคนไทยประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีการต่อรองใดๆ จนกว่าเขาจะรับเงื่อนไขที่เราตั้งไว้” นายอนุทินระบุ
เมื่อถามถึงการจัดการของรัฐบาล เนื่องจากยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องการทหารขอให้ทหารตัดสินใจ อยากปักธงไทยตรงไหน ขอให้ไปปักให้คนไทยได้ชื่นใจในที่ที่เป็นของคนไทย ขอให้ทหารนำแผ่นดินทุกตารางนิ้วที่เขารุกล้ำกลับมาเป็นของคนไทย ตนสนับสนุนเต็มที่ ส่วนบริเวณพื้นที่หนองหญ้าแก้ว หนองจาน จ.สระแก้ว ที่ยังคงมีเหตุก่อกวนใช้โล่มนุษย์ของกัมพูชานั้น ก่อนคุยอะไรกันสิ่งเหล่านี้ต้องถอนตัวออกไปให้หมดเสียก่อน จะไม่มีการเจรจาในระหว่างที่มีการกดดัน มีการติดอาวุธ มีโล่มนุษย์ ด่านชายแดนจะปิดต่อไป นอกจากนี้อาจจะเพิ่มมาตรการควบคุมหากทำได้
ต่อมานายอนุทินได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมจังหวัดศรีสะเกษเขต 5 ให้กับผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ที่สำนักงานเทศบาลตำบลโพธิ์กระสังข์ โดยถามชาวบ้านว่ามีใครอยากให้เปิดด่านยกมือ ก่อนจะพูดแซวว่า “อุ๊ยตายแบบนี้ใครจะให้เปิดเล่า” เพราะชาวบ้านไม่มีใครยกมือเลย ก่อนบอกต่อว่า "ขนาดชาวขุนหาญ ชาวภูสิงห์ ยังบอกให้ปิดด่าน แล้วชาวไทยทั้งประเทศก็บอกให้ปิดด่าน สุนัขตัวไหนจะกล้าเปิด อย่าว่าแต่สุนัขไม่กล้าเปิดเลย หนูยิ่งไม่กล้าเปิดใหญ่เลย ผมคนไทย ผมนายกฯ ของพวกท่าน ไม่ใช่นายกฯ ของเพื่อนบ้าน ไม่ใช่นายกฯ กัมพูชา"
จากนั้นนายอนุทินกล่าวระหว่างหาเสียงที่อาคารอเนกประสงค์ของที่ว่าการอำเภอภูสิงห์ ตอนหนึ่งว่า ตอนนี้ปัญหาที่หนักคือปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อถึงขนาดนี้ จึงขอย้ำว่าจะไม่เปิดด่าน ก่อนหน้านี้ไปที่อำเภอขุนหาญ ชาวบ้านก็บอกไม่ให้เปิดด่าน มาอำเภอภูสิงห์ชาวอำเภอภูสิงห์ก็ไม่ให้เปิดด่านเหมือนกัน ทั้งขุนหาญ ทั้งภูสิงห์ ทั้งจังหวัดศรีสะเกษและคนไทยทั้งประเทศก็ไม่อยากให้เปิดด่าน ก่อนย้ำถามว่าตนเป็นใคร ตนเป็นนายกฯ จะกล้าเปิดด่านหรือไม่ ตนกลัวพี่น้องประชาชนมากที่สุด กลัวจะโดนกระทืบ กลัวพี่น้องคนไทยมากกว่าคนกัมพูชา เพราะฉะนั้นเรื่องเปิดด่านไม่มีอย่างแน่นอน ขออย่าไปฟังใครพูด
สั่งเร่งเยียวยาชายแดน
นายอนุทินกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องเงินเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เป็นหน้าที่ของตน ส่วนที่ค้างมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วยังส่งไปไม่ถึง เมื่อเริ่มปฏิบัติหน้าที่ ได้เร่งและสั่งการไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้กำกับดูแลสำนักงบประมาณให้เร่งประสานงานกับฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย และจังหวัด ให้เยียวยาให้ครบทั้งหมด รายครัวเรือน รวมถึงปั๊มน้ำมันและสถานที่อื่นตามกฎหมาย ส่วนกรณีทหารใช้เงินตัวเองซื้ออาหารนั้น ถ้าเป็นปัญหาเช่นนั้นจริงขอให้บอกมา ทหารอดไม่ได้
เมื่อถามถึงการเดินทางไปประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ 26 ก.ย. นายอนุทินกล่าวว่า จะมีการหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งต้องเช็กระเบียบว่าถ้ายังไม่แถลงนโยบายของรัฐบาลไปปฏิบัติหน้าที่ต่างประเทศได้หรือไม่ แต่จริงๆ ควรจะไป ซึ่งประเทศกัมพูชาร้องเรียนไว้เยอะ ไทยต้องถือโอกาสชี้แจงให้เข้าใจว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำ
ทางด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกัมพูชายื่นหนังสือประท้วงต่อรัฐบาลไทย เกี่ยวกับเจตนาที่จะใช้กฎหมายภายในประเทศของไทยกับพลเมืองกัมพูชาในหมู่บ้านโจกเจย และหมู่บ้านไปรจัน ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ซึ่งละเมิดพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ (มาตรา 2 (3) และ 2 (4)) และละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ขัดต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ว่าฝ่ายไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศกับบุคคลที่อยู่ในเขตดินแดนของไทย ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศยอมรับ และขอยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเขตของพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน แต่อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐ
ส่วนเรื่องพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ ในมาตรา 2 (3) นั้น ในความเป็นจริงกลับพบว่าฝ่ายกัมพูชามักจะเป็นผู้ละเมิด อย่างกรณีการปลุกปั่น จัดฉาก ใช้ประชาชนมาเป็นผู้สร้างสถานการณ์ความรุนแรง
สำหรับมาตรา 2 (4) ฝ่ายกัมพูชาอีกเช่นกันที่เป็นผู้ละเมิด อย่างกรณีการรุกรานรุกล้ำอธิปไตยไทย ด้วยการนำกำลังทหารพร้อมอาวุธมาวางกำลังในดินแดนอธิปไตยไทย และการแอบลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ในดินแดนอธิปไตยไทย แม้ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงแล้วก็ตาม รวมทั้งฝ่ายกัมพูชาอีกเช่นกันที่เป็นผู้ละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ด้วยการละเลย ไม่จริงใจ ปล่อยให้มีการก่อสร้างอาคาร สถานที่ บ้านเรือนชุมชน ทั้งในเขตพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ และในเขตพื้นที่อธิปไตยของไทย ฝ่ายไทยได้ทำการประท้วงตามข้อกำหนด MOU 2000 จำนวนกว่า 500 ครั้ง ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไขมากว่า 20 ปี
โฆษกกองทัพบกกล่าวด้วยว่า ฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นผู้สนับสนุนและดำเนินการแบบไม่เปิดเผย เพื่อให้มีกิจกรรมการชุมนุมของประชาชนในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว และมีการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยในเขตอธิปไตยของไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงขอยืนยันว่าฝ่ายไทยมีเจตนาที่จะแก้ไขปัญหาชายแดนโดยสันติวิธี โดยจะไม่ใช้กำลังรุกรานใคร การดำเนินการในสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นนั้น อยู่ภายใต้กรอบกติกาสากลและกฎหมายไทย เพื่อรักษาอธิปไตย และปกป้องตนเองจากการคุกคามของฝ่ายกัมพูชา
ที่กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 535 บ้านชำราก ต.ชำราก อ.เมืองฯ จ.ตราด เมื่อเวลา 09.30 น. กลุ่มรักชาติ จากจังหวัดตราด จันทบุรี ชาวบ้านตำบลชำราก พร้อมด้วยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวตราด สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า สมาคมกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด รวมกว่า 200 คน เดินทางมาให้กำลังใจทหารพราน มอบสิ่งของ เครื่องดื่ม อาหารแห้ง และร่วมทำกระสอบทรายช่วยทำบังเกอร์ให้กับทหาร จากนั้นทั้งหมดได้ร่วมกันถือธงชาติ ถือป้ายที่มีข้อความว่า “ทวงคืน แผ่นดินไทย 17 จุด”, “17 จุด เป็นของไทย ไม่ใช่ของเขมร” พร้อมร้องเพลงชาติไทย เมื่อเสร็จกิจกรรมแล้ว ทหารพรานกล่าวขอบคุณ พร้อมประกาศว่าจะรักษาดินแดนไทยไม่ให้เสียแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
เขมรประชิดบ้านหนองจาน
ส่วนความเคลื่อนไหวที่บริเวณบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบว่ากลุ่มเขมรรวมตัวปักหลักอยู่บริเวณหลักเขตแดน 46 หลังเดินทางมาด้วยรถยนต์แล้วจอดไว้บนถนนสาย 58 จำนวนหลายคัน ก่อนเดินเข้ามาร่วมกันชุมนุมอยู่ตรงบริเวณเพิงพักหลังคาสีน้ำเงิน ซึ่งมีทหารกัมพูชายืนอยู่ในกลุ่มดังกล่าวอีกด้วย จากการประเมินของหน่วยความมั่นคง มีประมาณ 200 คน ซึ่งบางคนถือไม้และสวมหมวกกันน็อกด้วย
วันเดียวกัน เฟซบุ๊กของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของสำนักเลขาธิการกิจการพรมแดนกัมพูชา (SSBA) ประณามไทยเผยแพร่ข่าวปลอม อ้างกัมพูชายอมรับเส้นเขตแดนเปรยจัน โดยมีการเผยแพร่รายละเอียดของแถลงการณ์ดังกล่าว ความว่า เมื่อเร็วๆ นี้ SSBA พบข้อมูลที่ถูกเผยแพร่บนเพจเฟซบุ๊กชื่อ "Royal Thai Army: Update" เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2025 ซึ่งโพสต์ภาพแผนผังที่แสดงภูมิประเทศและตำแหน่งที่แน่นอนของหลักเขตแดน โพสต์ดังกล่าวก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความสับสน โดยระบุว่า นายเลย์ เซียนกลี ผู้นำของ SSBA ได้ลงนามและยอมรับเส้นเขตแดนในพื้นที่เปรยจันระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43 อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า “จากการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวพบว่าเป็นข้อมูลจากเอกสารบันทึกผลการสำรวจร่วมไทย-กัมพูชา ในการค้นหาสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 เอกสารลงนามโดย พ.อ.ชาคร บุญภักดี ผู้อำนวยการกองแผนและโครงการ กรมแผนที่ทหาร (ฝ่ายไทย) และนายลาย เซียงลี ผู้อำนวยการกองเทคนิคและการสำรวจฯ (ฝ่ายกัมพูชา) โดยบันทึกฉบับนี้จัดทำขึ้น ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พ.ศ.2560 เป็นเอกสารที่บันทึกขั้นตอนการค้นหาที่ตั้งที่ถูกต้องของหลักเขตแดนในภูมิประเทศ
โดยเนื้อหาหลักๆ จะเป็นเพียงการนำพิกัดหลักเขตแดนที่ได้ในเอกสาร ไปทำภาพจำลองเส้นเขตแดนบนแผนที่แบบไม่เป็นทางการ ไม่ใช่เรื่องบิดเบือนอะไรอย่างที่กล่าวหา อีกทั้งข้อมูลในเพจไม่ได้ยืนยันเป็นเส้นเขตแดน เพราะในระบบที่เป็นทางการ เรื่องเส้นเขตแดนนั้นจะอยู่ในกลไกของคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา (JBC) แต่สิ่งสำคัญที่ได้จากการดำเนินการสำรวจหลักเขตในอดีตที่กล่าวมานั้น เป็นสิ่งที่แสดงได้อย่างชัดเจนว่าฝ่ายไทยได้ยึดหลักการทำงานตามกรอบของ JBC และข้อตกลง MOU 2000 เสมอมา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
พร้อมหน้า นายกฯหนู โพสต์ภาพพาครอบครัวกินห่านพะโล้ในวันพ่อแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พาพ่อ แม่เมีย น้อง หลาน ไปกินห่านพะโล้เนื่องในวันพ่อ #ฉั่วคิมเฮง


