"คปท.-กองทัพธรรม" จี้อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดี ม.112 ของ "ทักษิณ" ลั่นจะติดตามเร่งรัดให้อัยการมีความรัดกุมกว่านี้ เตือนไม่อุทธรณ์อาจเข้าข่ายผิด ม.157 โฆษก อสส.เผยขยายเวลาอุทธรณ์ถึง 22 ต.ค. "เอม-ปอ" เข้าเยี่ยมพ่อแม้ววันที่ 3 เผยห่วงสุขภาพ “ทนายวิญญัติ” ยันเรือนจำไม่มีการส่งตัวไปรักษา รพ.ราชทัณฑ์ ย้ำป่วยจริง ปวดระบบกระดูก แย้มเตรียมทำข้อมูลเอกสารเรื่องสุขภาพที่เคยสงวนไว้ส่งเพิ่มเติมให้เรือนจำ
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถนนแจ้งวัฒนะ วันที่ 22 กันยายน เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และกองทัพธรรม ประมาณ 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือขอให้อัยการสูงสุดพิจารณายื่นอุทธรณ์คดี มาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมาติดตามคดีที่นายทักษิณตกเป็นจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเรื่องนี้ศาลพิพากษายกฟ้องนายทักษิณทั้ง 2 ข้อหา โดยในช่วงหนึ่งของคำพิพากษา ศาลให้ความเห็นว่าทางอัยการนำสืบไม่สมภาระในการพิสูจน์ ทำให้ทั้งนักวิชาการและคนไทยมีข้อสงสัย และมีคำถามว่าในฐานะที่อัยการเป็นโจทก์ ได้มีการดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงเรื่องคลิปวิดีโอ ว่ามีการพิสูจน์ครบถ้วนและได้นำคลิปจริงมายื่นต่อศาลหรือไม่ หรือคลิปมีการตัดต่อหรือไม่ และเกรงว่าในศาลชั้นต้นอัยการอาจจะทำให้สำนวนในคดีนี้อ่อน ท้ายสุดแล้วอยากให้คดีไปถึงที่สุดถึงศาลฎีกา ไม่ควรตัดตอนเฉพาะศาลชั้นต้นเท่านั้น
เมื่อถามว่า ทางอัยการมีการขยายระยะเวลาไปเป็นวันที่ 22 ต.ค. 2568 หากครบกำหนดแล้วยังไม่มีการยื่นอุทธรณ์จะมีการติดตามอย่างไรหรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า เราติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 ต.ค. 2568 ก็จะมีการติดตามเร่งรัดให้อัยการส่งสำนวนที่มีความรัดกุมมากกว่านี้ ซึ่งถ้าหากอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์อาจจะเข้าข่ายความผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
"อัยการอาจจะกลายเป็นจำเลยเอง เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และอัยการเองเป็นทนายแผ่นดิน ต้องทำหน้าที่ปกป้องพระเกียรติภูมิให้ถึงที่สุด การไม่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ปกป้องพระเกียรติภูมิของพระมหากษัตริย์ให้ถึงที่สุด เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงต้องต่อสู้คดีถึงที่สุด ไม่ควรจบลงที่ศาลชั้นต้น ควรให้เรื่องไปถึงศาลฎีกาเพื่อให้สิ้นกระแสความ"
ถามว่า ขณะนี้นายทักษิณเองก็ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว นายพิชิตระบุว่า เป็นคนละส่วนเป็นคนละคดีกัน ในคดีที่ถูกจำคุกเป็นคดีทุจริต และศาลสั่งให้กลับไปจำคุกเนื่องจากไม่ได้มีการจำคุกจริง เนื่องจากตัวนายทักษิณไปอยู่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจระหว่างบังคับคำพิพากษา ซึ่งผลจากคดีนั้นทำให้นายทักษิณอาจจะโดนคดีใน ป.ป.ช. เนื่องจากสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่มีการกระทำความผิด ซึ่งคดีมาตรา 112 ก็เป็นอีกคดีหนึ่งที่จะต้องมีการยื่นอุทธรณ์
ด้านนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นผู้รับมอบหนังสือ เปิดเผยว่า อัยการได้ยื่นหนังสือขยายระยะเวลาไปเป็นวันที่ 22 ต.ค.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเอกสารที่กลุ่ม คปท. และกองทัพธรรมนำมายื่นให้ในวันนี้ จะนำเรียนต่ออัยการสูงสุดพิจารณาต่อไป
ที่เรือนจำกลางคลองเปรม เวลา 10.30 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมด้วยทีมงาน ได้เข้ามายังบริเวณอาคารศูนย์บริการงานเยี่ยมญาติผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อประสานทำเรื่องขอเยี่ยมในส่วนของครอบครัวนายทักษิณ
ต่อมาเวลา 10.55 น. น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ หรือปอ สามี ได้มาเยี่ยมนายทักษิณ ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันที่ 3 ที่ครอบครัวมาเข้าเยี่ยม หลังจากที่ศาลฎีกาฯ ได้คุมขังตามคำพิพากษาของศาลที่ให้บังคับโทษจำคุก 1 ปี โดยทันทีที่มาถึง กลุ่มคนเสื้อแดงที่รออยู่ก็ได้พูดให้กำลังใจครอบครัวชินวัตร ซึ่ง น.ส.พินทองทาได้กล่าวสวัสดีทักทายก่อนเดินเข้าไปด้านในเรือนจำ
หลังจากนั้นเวลา 12.00 น. น.ส.พินทองทาและนายปิฎก พร้อมด้วยนายวิญญัติ ได้เข้าเยี่ยมนายทักษิณภายในแดนพยาบาล ภายหลังเยี่ยมเสร็จสิ้นจึงได้เดินทางออกมาด้านหน้าเรือนจำ โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยืนรอให้กำลังใจส่งเสียง "คุณเอมสู้ๆ เป็นกำลังใจให้" ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.พินทองทาถึงอาการป่วยของนายทักษิณ เจ้าตัวระบุสั้นๆ ว่า "เป็นห่วงอาการคุณพ่อ กำลังใจสำคัญ" ก่อนขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับออกไป
ด้านนายวิญญัติกล่าวว่า เรามีความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของท่าน เพราะท่านมีโรคประจำตัวอย่างที่สังคมทั่วไปรับทราบอยู่แล้ว ทีนี้โรคประจำตัวของท่านก็เรียกได้ว่า เราอยู่ในระหว่างการที่จะควบคุมหรือการดูแลเอาใจใส่ ซึ่งหมายถึงเจ้าหน้าที่ด้านในและตัวท่านเอง ทราบว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ได้มีการนัดเพื่อจะพบกับนักจิตวิทยาและแพทย์ที่จะตรวจ แต่ก็มีการเลื่อนขยับมา จึงทราบว่าวันนี้น่าจะมีแพทย์ได้เข้ามาตรวจร่างกาย และการตรวจร่างกายของท่าน เนื่องจากท่านมีเสียงบ่นว่ายังปวดเรื่องของระบบกระดูก กระดูกต้นคอและไขสันหลัง ซึ่งเป็นอาการโรคที่มีก่อนเข้าเรือนจำแล้ว ส่วนการเอกซเรย์หรือการตรวจ ก็เป็นการตรวจทั่วไปของผู้ต้องขัง ซึ่งมีการตรวจมาแล้วก่อนหน้านั้น คือการเอกซเรย์ปอด เพราะท่านก็เคยมีปัญหาเกี่ยวกับอาการทางปอดต่อเนื่องมาจากอาการโควิด-19 ส่วนเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว น่าจะวันเสาร์ที่ 20 ก.ย. มีข่าวว่าท่านถูกส่งตัวไปที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อันนี้ไม่เป็นความจริง ท่านยังอยู่ในเรือนจำตลอดเวลา
"ยังมีอาการป่วยอยู่ เพราะบางคนอาจจะชอบใช้ว่าวิกฤตหรือไม่ ไม่พูดดีกว่า เพราะการพูดไปก็มีคนเอาไปต่อความยาวสาวความยืด หรือวิจารณ์กันไปในทางที่ทำให้เกิดความสับสน"
เมื่อถามถึงอาการที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา นายวิญญัติกล่าวย้ำว่า อย่างที่บอกว่าข่าวก็คือข่าว ข่าวมีทั้งจริงและไม่จริง หรือบิดเบือน แต่ก็ยืนยันว่าท่านไม่ได้ออกไปข้างนอก ส่วนที่มีอาการเจ็บป่วย ท่านก็เหมือนร้องขอไปแล้ว วันนี้เป็นวันทำการแพทย์ก็สามารถเข้ามาตรวจได้ ท่านก็ปวดมาตั้งแต่ก่อนเข้าเรือนจำ แต่ท่านเป็นคนอดทน บางคนอาจเห็นว่าไม่เห็นป่วยเลย ไม่แสดงอาการ ซึ่งท่านได้ร้องขออย่างไรนั้น ตนไม่ขอลงรายละเอียด เพราะการร้องขอเป็นเรื่องของท่านกับเจ้าหน้าที่ เราไม่ได้สอบถามขนาดนั้น แต่ยืนยันว่าท่านป่วย
ต่อข้อถามว่า ทนายความต้องพิจารณาอะไรเพิ่มเติมในเรื่องของการเจ็บป่วย ว่าถ้าตรวจแล้วจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนใดต่อไปนั้น นายวิญญัติกล่าวว่า ขั้นตอนคือเราจะต้องมีฐานข้อมูลให้แก่แพทย์และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเชื่อว่าเดิมเขามีอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าถังข้อมูลเดิมบางอย่างเป็นเอกสารที่ทางเราสงวนไว้ ก็อาจจะมีเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อยืนยันว่าผลการตรวจหรือการเป็นโรคของท่าน ข้อมูลเดิมๆ ผลการตรวจไม่ว่าจะเป็นผลการตรวจทางเครื่องมือแพทย์อะไรต่างๆ มีอย่างไรบ้าง เราก็ต้องเสนอเข้าไป ส่วนกระบวนการปฏิบัติต่อไปต้องดูเป็นขั้นเป็นตอน ต้องดูว่าหน้างานเป็นอย่างไร เพราะเราไปก้าวล่วงความเห็นแพทย์ไม่ได้ จึงเชื่อว่าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องขังหรือนักโทษก็อยากอยู่ใกล้หมออยู่แล้ว แต่ก็อยู่ภายใต้ระเบียบของเรือนจำ
ส่วนกรณีที่มีคนไปร้องอุทธรณ์เรื่องมาตรา 112 นายวิญญัติกล่าวว่า อยู่ในกระบวนการ ใครจะร้องอะไรก็เป็นสิทธิ์ของท่าน คนที่ร้องก็เป็นฝ่ายตรงข้ามหรือเป็นคนที่ไม่ปรารถนาดี กระบวนการใช้สิทธิ์อะไรฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐเขามีการดูไว้อยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไร ส่วนตนในฐานะทนายความจะทำอย่างไรต่อไปก็มีวิธีการขั้นตอนอยู่แล้ว
ถามถึงอาการอื่นๆ ของนายทักษิณเป็นอย่างไร มีเครียดหรือวิตกกังวลหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า หลังจากที่ท่านได้รับการเยี่ยมญาติครอบครัว ทั้งลูกสาว ลูกเขย ท่านก็มีความรู้สึกดี มีความสุขขึ้น ใบหน้ายิ้มแย้มที่ได้รู้ว่ามีพี่น้องประชาชนที่มีการส่งกำลังใจ ส่งความรักความคิดถึงไปหาท่าน ท่านก็ดี ท่านก็ฝากขอบคุณมาเช่นเดิม
ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุที่ไม่ได้ไปเยี่ยมนายทักษิณที่เรือนจำคลองเปรม น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เนื่องจากวันนี้ติดงาน แต่มีกำหนดการจะเข้าเยี่ยมในวันที่ 25 ก.ย.นี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


