“นายกฯ หนู” ย้ำนโยบายรัฐบาลปกน้ำเงินเสร็จ 100% แล้ว หวังได้แถลงต่อรัฐสภา 29-30 ก.ย. เพื่อเริ่มนับหนึ่งก่อนยุบสภาใน 120 วัน “พิพัฒน์” บอกให้รอฟังเรื่องรถไฟฟ้าจะระบุชัดไปทางไหน “ธรรมนัส” โวโครงการควิกวินดันยางพารา กก. 100 บาท ดึงนักท่องเที่ยวกลับ ภูมิใจไทยคึกเปิดตัวผู้สมัคร สส.สงขลา แย้มหลังยุบสภาจะมี สส.ไหลเข้า “กล้าธรรม” ประกาศส่งชิง 400 เขต ส่วน “ปชน.” รับแคนดิเดตนายกฯ อาจมากกว่า 1 คน “เพื่อไทย” ยังไม่ตื่นถล่มพรรคส้มต่อเนื่อง หวังเข็น “อุ๊งอิ๊ง” หาเสียงเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ
เมื่อวันอังคารที่ 23 กันยายน 2568 บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ได้ขนโต๊ะรับแขกของทำเนียบฯ ที่นำไปเก็บไว้ที่บ้านพิษณุโลกเข้าห้องทำงานของนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 4 ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งห้องทำงานของรองนายกฯ และ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ส่วนใหญ่จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ก่อนนายกฯ จะนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งหลังจากนั้นจะประชุม ครม.นัดแรกทันที
ขณะที่ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เดินทางเข้ามาดูห้องทำงานตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเดิมเป็นห้องทำงานนายพิชิต ชื่นบาน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน โดยก่อนนายนภินทรเดินทางมาถึง ทีมงานได้นำของส่วนตัว รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปยังห้องทำงานด้วย
ส่วนนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกระแสข่าวอดีต รมต.รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการตรวจโอนเงินหลายล้านบาทไปยัง สส.ภาคใต้ ซึ่งมีการส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ ว่า ไม่ทราบว่าหมายถึงใคร ชีวิตปกติไม่ได้ร่ำรวย ใช้เงินอย่างมีเหตุมีผล และไม่เคยถูกหน่วยงานไหนตรวจสอบหรือเรียกไปชี้แจง ขอให้สบายใจ
เมื่อถามว่า กระแสข่าวออกมาขณะจะมีการแถลงนโยบาย จะทำให้ลดความเชื่อมั่นหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า สส.ทุกคน รัฐมนตรีทุกคน ที่ผ่านมาก็โดนตรวจสอบ การที่นายกฯ เสนอแต่งตั้งผ่านกระบวนการตรวจสอบทุกหน่วยงานอย่างเข้มข้น ฉะนั้นเมื่อผ่านมาแล้วทุกคนก็เป็นผู้บริสุทธิ์
สำหรับความคืบหน้าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ร่างนโยบายของรัฐบาลที่เตรียมแถลงต่อรัฐสภาเสร็จเป็นที่เรียบร้อย 100% ปกน้ำเงิน ส่วนจะแถลงในวันที่ 29-30 ก.ย.หรือไม่นั้น กำลังประสานงานกับประธานรัฐสภา
“ยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะวันที่หนึ่งของการทำงานคือนับจากวันแถลงนโยบายเสร็จสิ้น เพื่อที่รัฐบาลจะได้ทำงานอย่างเต็มที่”
เมื่อถามว่า ในวันที่ 24 ก.ย. ภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ ที่จะมีการประชุม ครม. จะนำร่างนโยบายเข้าสู่การพิจารณาด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องให้ที่ประชุมรับทราบ จากนั้นจะนำร่างส่งให้สมาชิกรัฐสภาศึกษาเพื่อที่จะอภิปรายได้ ซึ่งเหมือนการแถลงนโยบายทุกครั้งที่ผ่านมา โดยใช้เวลา 2 วัน ส่วนเรื่องระยะเวลาเป็นเรื่องที่วิป 3 ฝ่ายจะหารือและทำข้อตกลงกัน
เมื่อถามว่า พรรคประชาชน (ปชน.) อยากให้ไทม์ไลน์เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในร่างแถลงนโยบายรัฐบาลจะกำหนดไว้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องรัฐธรรมนูญอยู่ในข้อตกลง MOA อยู่แล้ว ก็เป็นไปตามนั้น
ถามย้ำว่า แสดงว่าบรรจุเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญในร่างแถลงนโยบายใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีอยู่ด้วย มีอยู่แล้ว ซึ่งในการประชุมพรรคภูมิใจไทย (ภท.) วันนี้ก็จะพูดคุยเรื่องนี้ด้วย ส่วนที่พรรค ปชน.ไม่ค่อยเห็นด้วยกับโมเดลการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ของพรรค ภท.นั้นก็เป็นไปตามระบบ
สำหรับบรรยากาศที่พรรค ภท. นายอนุทินเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อประชุม สส.และกรรมการบริหารของพรรค ขณะเดียวกันบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลก็เดินทางเข้าร่วมด้วย โดยคาดว่าจะประชุมหารือกันเกี่ยวกับร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หลังจากพรรค ภท.ได้ยกร่างเสร็จแล้ว เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ปรับแก้ไขครั้งสุดท้ายก่อนแถลงในวันที่ 29-30 ก.ย.
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวสั้นๆ ว่า มาพูดคุยงานกันเฉยๆ สำหรับ ทส.จะเสนออะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขอให้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ ให้เรียบร้อยก่อนค่อยมาพูดคุยกันทีหลัง
ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าวถึงความพร้อมในการเตรียมร่างแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่านโยบายของ คค.แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ นโยบายควิกวินระยะเร่งด่วน 4 เดือน และนโยบายต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ ส่วนนโยบายด้านการเดินทางนั้น ขอให้รอนายอนุทินแถลงนโยบายก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเรื่องทางด่วนหรือรถไฟฟ้า และรถเมล์ จะมีนโยบายทั้งหมด
ให้ลุ้นนโยบายรถไฟฟ้า
“อยู่ในระหว่างการพูดคุยว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ แม้ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องจะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว แต่ต้องดูว่าราคาตั๋วร่วมต้องราคาเท่าไหร่ ต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อให้ตกผลึกและดีที่สุด” นายพิพัฒน์กล่าวตอบเรื่องนโยบายหาเสียงรถไฟฟ้าตลอดวัน 40 บาทที่พรรค ภท.เคยหาเสียงไว้
เพื่อการเดินทางของประชาชนในกรุงเทพมหานคร รวมถึงค่าผ่านทางทางด่วน เราก็จะมีนโยบายออกมา
นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า ทุกคนจะได้เห็นภาพนโยบายอะไรที่ทำได้หรือไม่ได้ รวมถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลที่แล้ว ตรงนี้จะมีคำอธิบาย อะไรที่เป็นประโยชน์กับคนไทย พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมที่จะทำ เราจะไม่คิดว่าเป็นนโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง เราต้องเอานโยบายต่างๆ ที่คิดว่าดีที่สุด และทำให้คนไทยมีความสุขที่สุด สามารถช่วยในเรื่องของค่าครองชีพเราจะทำในส่วนนั้น
นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่คาดว่าจะมากำกับดูแลสำนักงบประมาณ กล่าวถึงการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท จะอนุมัติก่อนสิ้นปีงบฯ 30 ก.ย. เพื่อมาดำเนินโครงการคนละครึ่งทันหรือไม่ ว่าต้องรอหลัง ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณฯ และรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาให้เรียบร้อย และเริ่มทำงานได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มรูปแบบ เราก็จะมาพิจารณาดูกันว่าจะมีช่องทางไหนที่สามารถทำได้หรือไม่ แต่ถึงอย่างไรต้องรอให้ ครม.มีความสมบูรณ์ก่อน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงคำแถลงนโยบายในส่วนกระทรวงที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) รับผิดชอบว่า ระยะเวลาของรัฐบาลที่เป็นระยะสั้น เราคงต้องทำโครงการควิกวินที่เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจ ยางพารา กิโลกรัมละ 100 บาท ก็ต้องกลับมาทำให้ได้ รวมทั้งข้าว มัน และสินค้าทุกประเภท ซึ่งในวันศุกร์ที่ 26 ก.ย.นี้ จะไปหารือกับทูตจีนในเรื่องการประสานภาคการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยน้อยมาก ถือเป็นภาระที่พรรค กธ.จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม
“สิ่งสำคัญที่ต้องทำ และถือเป็นหน้าตาของเราคือการจัดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่จะจัดขึ้นภายในปลายปีนี้ ขณะนี้ยังไม่เป็นรูปธรรม ดังนั้นวันที่ 24 ก.ย.นี้จะเรียกประชุมนายกสมาคมกีฬาทุกประเภท เพื่อมอบนโยบายและถามความต้องการในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ที่เราเป็นเจ้าภาพ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวหายไป ทั้งประเทศจีน ฝั่งยุโรป และเอเชีย สิ่งสำคัญคือ การดึงนักท่องเที่ยวกลับมาให้ได้ นี่คืองานที่ท้าทายในกรอบระยะเวลา 4 เดือนจะต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน”
เมื่อถามว่า การอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านในวันแถลงนโยบายรัฐบาล อาจจะมีการอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรีด้วยนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลต้องรับทราบและยอมรับให้ได้คือ การเป็นรัฐบาล เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายค้านอยากพูดอะไรเขาก็พูด เรามีหน้าที่ชี้แจงให้ครบ อย่าไปแสดงปฏิกิริยาต่อต้าน เขาถามอะไรมาก็ตอบให้ตรงคำถาม อยู่ในการเมืองมาตั้งแต่ปี 2562 ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 ปีซ้อน รวมทั้ง สว.อีก 4 ครั้ง และการตั้งกระทู้ถามในเรื่องสาระสำคัญ เราก็พร้อมตอบในสิ่งที่ตอบให้เกิดความกระจ่าง อย่าไปคิดมาก การเมือง
ลั่นเป็นลมใต้ปีก
เมื่อถามถึงกระแสของรัฐบาลว่าจะอยู่เกิน 4 เดือน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นเรื่องที่นายกฯ เซ็น MOA กับพรรคประชาชนไว้ เป็นเรื่องนายกฯ ต้องแก้ปัญหา ส่วนเราในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล พรรค กธ.จะทำในสิ่งที่ตนเองรับผิดชอบให้ดีที่สุด พร้อมเป็นลมใต้ปีกของนายกฯ ให้ทำหน้าที่สมบูรณ์แบบเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองและพี่น้องประชาชนในกรอบเวลาที่จำกัด
ขณะเดียวกัน ที่พรรค กธ. กลุ่มเครือข่ายคนลุ่มน้ำมูล (คนม.) ได้เดินทางมาแสดงความยินดีกับ ร.อ.ธรรมนัสในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายคนลุ่มน้ำมูล พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์กลาง เพื่อเชื่อมโยงการทำงานและแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องของประชาชนร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานราชการ โดย ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า หลังจากที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อสภาแล้วจะเริ่มทำงาน และยืนยันว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนจะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังในยุคที่เข้ามารับตำแหน่ง และยังมีแผนลงพื้นที่ภาคอีสานต่อเนื่อง เพื่อรับฟังปัญหาและเร่งแก้ไขให้กับทุกคนโดยเร็วที่สุด
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรค ภท. แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า ที่ประชุมพรรคหารือถึงการเตรียมความพร้อมของ สส.ในวันแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งในวันที่ 24 ก.ย. พรรคจะประสานไปยังประธานรัฐสภา วิปฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เพื่อกำหนดกรอบการประชุมในเรื่องของวันแถลงนโยบาย และไม่เกินวันพุธหรือพฤหัสบดีนี้ น่าจะมีความชัดเจนเรื่องของวันแถลงนโยบาย
ส่วนนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า ตอนนี้พรรคยังไม่มีการกำหนดธีม โดยจะเริ่มจากเนื้อหาสาระก่อนค่อยคิดธีมทีหลัง เพราะหากคิดก่อนจะเป็นการจำกัดกรอบเนื้อหาสาระมากเกินไป
“เรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีมีแน่ๆ คือการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีบางคนว่าอาจทำหน้าที่โปร่งใส น่าไว้วางใจหรือไม่ และเวลา 4 เดือนที่เหลือมีอะไรที่รัฐบาลต้องเร่งทำ ซึ่งผู้อภิปรายขณะนี้มีประมาณเกือบ 20 คนแล้ว หลักๆ คงจะเป็นนายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, น.ส.สิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค, นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหัวหน้าพรรค และอีก สส.หลายคน”
เมื่อถามว่า ต้องเตรียมองครักษ์ไว้หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทย (พท.) อาจอภิปรายโจมตีพรรคประชาชน นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ไม่อยากให้เสียเวลาสภาแถลงนโยบายของรัฐบาล ควรอภิปรายนโยบายของรัฐบาล การจะมาโจมตีพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินดีกว่าว่าพรรคบางพรรคกำลังทำงานตรวจสอบรัฐบาล หรือกำลังทำงานโจมตีพรรคอื่น
ส่วนนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงหลังประชุมในเรื่องนี้ว่า พรรค พท.มั่นใจและเตรียมความพร้อม ซึ่งมีทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ของพวกเรา ได้มีการเตรียมการทำงานอย่างชัดเจนหลายกลุ่ม เช่น ทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และที่เกี่ยวข้องกับสังคม จะดูในทุกนโยบายของรัฐบาลว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากน้อยเพียงใด
แก้วแตกหมดแล้ว
วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยนายอนุทินกล่าวถึงพรรค พท.ออกไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ดูเหมือนเป็นฝ่ายแค้น และเปรียบเสมือนเป็นรักร้าวว่า ไม่ใช่รักร้าวหรอก มันแตกหมดแล้ว
ถามย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าแสดงว่าไม่สามารถจับมือพรรค พท.ได้แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็เป็นการเมือง หากเขาแรงมาเราก็แรงกลับ มันก็ไม่จบ ต้องการแข่งขันทางการเมือง ต้องแข่งกันทำความดี แข่งกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ตนสู้เต็มที่ แต่จะไม่ใช้กฎหมายหรือกลไกของรัฐที่รับผิดชอบมาป้ายสีคนอื่นเหมือนรัฐบาลชุดที่แล้วทำ
“เราขอไม่พูดถึงเรื่องการเมืองในอนาคต เพราะยิ่งพูดก็จะยิ่งเกิดความสับสน ทุกวันนี้ตนทำทุกอย่าง มีเวลา 4 เดือน ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับพรรคประชาชน ก็ต้องปฏิบัติตามทั้ง 5 ข้อ ยุบสภาแน่ 120 วัน หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา”
ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า มีความโกรธแค้นอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง นายอนุทินย้ำว่า "พ่อผมสอนมาโกรธร้อยครั้ง ไม่เท่าอภัยครั้งเดียว โกรธร้อยครั้งก็นอนไม่หลับทุกคืน อภัยครั้งเดียวไม่ถือสาครั้งเดียว อย่างกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มีความสัมพันธ์และความผูกพันที่ดี ซึ่งท่านเป็นหัวหน้าพรรค พท. เราไม่ได้มีอะไรกัน คนอื่นจะมีอะไรไม่ตอบโต้ ย้ำว่า ลืม ลืม ลืม ปล่อยวาง"
นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ปัญหาเขากระโดงไม่คืบหน้า เพราะมีนายอนุทินคุมมหาดไทย โดยนายอนุทินหัวเราะก่อนถามกลับว่า “แกยังพูดแบบนี้อยู่หรือ แต่ก็ไม่เป็นไร เอาที่ท่านสบายใจ”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาแก้ต่างเรื่องที่ดินเขากระโดง จะถูกมองว่าเป็นการปกป้องพรรค ภท.หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยออกมาแถลงแล้วว่าสิ่งที่นายภูมิธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย แถลงข่าวไม่ตรงกับผลการประชุม เพราะฉะนั้นต้องไปถามท่าน ไม่ใช่มาถามตน โดยกรมที่ดินแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่เกี่ยวกับตนเลย เพราะยังไม่ได้เข้าไปบริหารกระทรวงหรือรัฐบาลเลย
ซัดอยากเป็นฮีโร่หน้าจอ
“เราไม่ได้กลัว เพราะบอกไว้อยู่แล้วว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากเขาดำเนินการตามกฎหมายได้เขาคงดำเนินการไปแล้ว แต่ออกมา 3 เดือนแล้วไม่เห็นทำอะไรเลย ได้แต่พูด พอตัวเองทำไม่ได้ก็มาโทษคนอื่น มาโทษหาว่าผมเข้ามาแล้วทุกอย่างจะหยุด เรื่องยาเสพติดไปจับโน่นไปจับนี่ ก็เดินตามผม ทีมผมทั้งนั้นที่ตั้งมา อยากเป็นฮีโร่ทางหน้าจอเท่านั้น กล้าไปเหมือนผมหรือเปล่า ลงพื้นที่ชายแดนแบบผมเคยไปหรือไม่ ไปจับยาเสพติด แถลงข่าวอยู่เสี่ยงกระสุนเสี่ยงลูกปืน เคยทำเหมือนผมไหมล่ะ ปากก็เอาแต่พูดไปเรื่องวาทกรรม” นายอนุทินกล่าว
ด้านนายพิพัฒน์ กล่าวถึงกรณีนายสมยศ พลายด้วง หรือโกถึก สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และกลุ่มนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต สส.สงขลา พรรค ปชป. จะยังร่วมงานกับพรรค ภท.หรือไม่ หลังมีข่าวว่าพรรค ปชป.จะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งว่า ขณะนี้ยังอยู่ด้วยกันในความเป็นเพื่อน เพราะท่านยังเป็นสมาชิกและเป็น สส.พรรค ปชป. การจะมาร่วมกันจริงๆ คงเป็นการเลือกตั้งต่อไป หลังจากนายอนุทินยุบสภาใน 4 เดือน
“หลังจากนี้จะค่อยๆ เปิดตัวให้ทราบ แต่ขณะนี้ทุกคนมีสังกัด ซึ่งยังไม่ได้ยุบสภา จึงยังมาภูมิใจไทยไม่ได้ และคงมาร่วมงานการเมืองหลังยุบสภา รวมถึงการเลือกตั้ง และจะมีการเปิดตัวผู้สมัคร 14 จังหวัดภาคใต้ ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยโดยนายอนุทินพร้อมกัน”
ต่อมานายพิพัฒน์ได้เปิดตัวนายฆอซาลี ดุสะเหม๊าะ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นคนในพื้นที่และทำธุรกิจไก่อบโอ่ง เป็นผู้สมัคร สส.สงขลา เขต 8 อ.จะนะ-เทพา
ขณะเดียวกัน นายสายัณห์ ยุติธรรม อดีต สส.นครศรีธรรมราช ประกาศตัดใจกลับบ้านเก่า พรรค ปชป. หลังถูกเบียดเก้าอี้จากแกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่เลือกดึงนางอวยพรศรี เชาวลิต สส.ประชาธิปัตย์ และภรรยานายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา เข้ามาแทนที่
ด้านนายธนกรกล่าวถึงท่าทีกลุ่ม 16 สส.ที่จะมาร่วมกับพรรค ภท.ว่า ต้องให้เกียรติหัวหน้ากลุ่มคือนายสุชาติ เพราะเรามาเป็นกลุ่ม จำนวน 16 คน มีความเหนียวแน่นอยู่ร่วมกันมายาวนาน ก่อนคิดว่าหากอยู่ตรงไหนและทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ก็ต้องอยู่ตรงนั้น ทั้งนี้ต้องหารือกับนายสุชาติก่อน
กล้าธรรมยันส่งชิง 400 เขต
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค กธ. เปิดตัวนายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่เพิ่งลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นสมาชิกพรรค กธ.อย่างเป็นทางการ โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า นายหิมาลัยยังไม่มีตำแหน่งอะไร แต่จะดูแลทั้งพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคใต้ และภาคอีสานบางส่วน
“พรรคกล้าธรรมเป็นพรรคที่มีสมาชิกพรรคมากที่สุด และมีความพร้อมในการส่งตัวผู้สมัครทั้ง 400 เขต ทุกจังหวัด ส่วนจะส่งอะไรอย่างไรเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาประชุมกันอีกครั้ง” ร.อ.ธรรมนัสระบุ
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ปชน. กล่าวถึงกระแสแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคมี 3 คนว่า นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรค ปชน. ชี้แจงแล้วว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว พรรคยังไม่ได้มีข้อสรุป แต่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ได้พูดไปแล้ว เราอาจส่งแคนดิเดตนายกฯ เกินกว่า 1 รายชื่อ แต่เราย้ำว่าจะให้ความชัดเจนกับประชาชนว่าใครคือแคนดิเดตนายกฯ คนหลักของเรา ซึ่งชัดเจนคือหัวหน้าพรรค สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1
ขณะที่นายดนุพรกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ในวันที่ 28 ก.ย.ว่า พรรคมีแผนให้ น.ส.แพทองธาร หัวหน้าพรรคลงพื้นที่หาเสียง โดยอยู่ระหว่างการพูดคุยกันถึงการวางแผนปราศรัยที่ไหนบ้าง เวลาไหนบ้าง ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอยู่ และพรรค พท.เต็มที่ เตรียมพร้อมที่จะเสนอตัวนำ สส.ที่เป็นทายาทอดีต สส.ที่เสียชีวิตกลับเข้าสภาให้ได้ในการเลือกตั้งวันที่ 28 ก.ย.นี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรค พท. กล่าวว่า เสียดายแทนพรรคประชาชน เพราะเขาอยากเป็นรัฐบาล อยากแสดงฝีมือ เพราะถูกกล่าวหามาตลอด ครั้งนี้เป็นครั้งที่เขามีโอกาสเป็นรัฐบาล อยากจะเป็นกระทรวงแรงงานก็ได้ กระทรวงมหาดไทยก็ได้ หรือกระทรวงการคลังก็ได้ เห็นมีการพูดและอภิปรายไว้เยอะ แต่ทำไมมีโอกาสแล้วถึงไม่ทำ นี่เป็นปัญหาที่เสียดายมาก ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร และไม่รู้ว่าโอกาสข้างหน้าจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ แต่ถ้ามีโอกาสแล้วทำไมไม่ทำ ทั้งที่เป็นเสียงข้างมากของรัฐบาลชุดนี้
“มีโอกาสแล้วไม่ทำ แล้วจะไปความหวังลมๆ แล้งๆ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องช่วยกันคิด” นายภูมิธรรมกล่าว
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พรรคประชาชนไปโหวตให้นายอนุทินหรือทำ MOA แต่เป็นเรื่องของพฤติกรรม และพฤติการณ์ ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พรรคประชาชนยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างแท้จริง ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยเข้าชื่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 พรรคประชาชนจะร่วมด้วยหรือไม่ จะอภิปรายค้านหรืออภิปรายปกป้อง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


