นิด้าโพลชี้ยังไร้คนเหมาะนั่งนายกฯ “อนุทิน” คะแนนพุ่งจี้ติด “หน.เท้ง” ขณะที่สวนดุสิตโพลเผย ปชช.หมดหวังรัฐบาลเดิม หนุนเริ่มต้นใหม่กับ ครม.ใหม่-ปลื้ม “คนละครึ่งพลัส” “เสี่ยหนู” ชี้ผลโพลเตือนใจต้องทำงานหนัก
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2568 ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 19-24 กันยายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 27.28 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้, อันดับ 2 ร้อยละ 22.80 ระบุว่าเป็นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน), อันดับ 3 ร้อยละ 20.44 ระบุว่าเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย), อันดับ 4 ร้อยละ 7.16 ระบุว่า เป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย), อันดับ 5 ร้อยละ 6.76 ระบุว่าเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย), อันดับ 6 ร้อยละ 6.00 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อันดับ 7 ร้อยละ 2.72 ระบุว่าเป็นนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ), อันดับ 8 ร้อยละ 1.76 ระบุว่าเป็นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์)
อันดับ 9 ร้อยละ 1.24 ระบุว่าเป็นนายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา), อันดับ 10 ร้อยละ 1.04 ระบุว่าเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และร้อยละ 2.80 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ), นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ), พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ), ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (พรรคกล้าธรรม), นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา), นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์), พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย), ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ (พรรคเศรษฐกิจ)
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 33.08 ระบุว่าเป็นพรรคประชาชน, อันดับ 2 ร้อยละ 21.64 ระบุว่ายังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้, อันดับ 3 ร้อยละ 13.96 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย, อันดับ 4 ร้อยละ 13.24 ระบุว่าเป็นพรรคภูมิใจไทย, อันดับ 5 ร้อยละ 6.12 ระบุว่าเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ, อันดับ 6 ร้อยละ 5.52 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 7 ร้อยละ 2.92 ระบุว่าเป็นพรรคไทยสร้างไทย, อันดับ 8 ร้อยละ 1.72 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ และร้อยละ 1.80 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคกล้าธรรม พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยภักดี พรรคชาติพัฒนา และพรรคเพื่อไทยรวมพลัง
ขณะที่ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง "ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนกันยายน 2568" กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,012 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 23-26 กันยายน 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนกันยายน 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2568 ที่ได้ 3.71 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุดคือ ผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 4.57 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ การแก้ปัญหาความยากจน 3.59 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือนคือ อนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 55.98 ด้านนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือนคือ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ร้อยละ 44.27 ส่วนผลงานฝ่ายรัฐบาล ที่ชื่นชอบประจำเดือนคือ คนละครึ่งพลัส ร้อยละ 46.25 ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือนคือ ผ่านกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ร้อยละ 61.22
ด้าน ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า เดือนกันยายนเป็นช่วงคาบเกี่ยวจากรัฐบาลแพทองธารสู่รัฐบาลอนุทิน ทำให้คะแนนดัชนีการเมืองไทยอาจยังสะท้อนภาพได้ไม่ชัดเจนนัก แต่การที่คะแนนปรับเพิ่มขึ้นทุกด้าน ยกเว้นผลงานฝ่ายค้าน ก็เพียงพอจะสะท้อนความรู้สึกของประชาชนว่าหมดหวังกับรัฐบาลเดิม ขอเริ่มมีหวังกับรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะการจัดทีมเศรษฐกิจควบคู่กับนโยบายขวัญใจอย่างคนละครึ่ง กลับมาพลัสเงินในกระเป๋าให้ประชาชน ซึ่งเป็นการเรียกคะแนนนิยมให้กับรัฐบาลชุดนี้ได้ไม่น้อย
ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง ความหวังกับความกลัว ในสภาวะเศรษฐกิจซบเซา จากกลุ่มตัวอย่างทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,069 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 23-27 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา พบว่าคนไทยกำลังเผชิญความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความหวังและความกลัว ซึ่งสะท้อนสภาวะสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่เปราะบาง แต่ก็ยังแฝงด้วยพลังใจที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า
ความหวังของคนไทย ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนยังคงมีความหวังสำคัญอยู่หลายประการ โดยร้อยละ 67.4 คาดหวังอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัวและความมั่นคงของเศรษฐกิจ สะท้อนความต้องการให้รายได้และค่าครองชีพกลับเข้าสู่สมดุล ขณะที่ร้อยละ 59.2 มีความหวังต่อการได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ปราศจากอาชญากรรมและภัยสังคม การปฏิรูปการเมืองที่มีเสถียรภาพ โปร่งใส และสามารถลดความขัดแย้ง กลายเป็นความหวังของประชาชนร้อยละ 53.8 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าคนไทยยังฝากอนาคตไว้กับโครงสร้างการเมืองที่มั่นคง
ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจผลโพลหลายสำนักที่คะแนนนิยมของนายอนุทินเพิ่มขึ้น ตรงนี้จะเป็นความหวังให้ประชาชนมากน้อยแค่ไหนว่า เราต้องไม่ไปหลงใหลได้ปลื้มกับโพลความนิยม แต่ว่าดีใจหรือไม่ ก็ดีใจ เป็นเครื่องเตือนสติว่ามีความคาดหวังเกิดขึ้นจากประชาชน การที่ประชาชนให้ความคาดหวังและให้กำลังใจโดยความเชื่อมั่นเป็นน้ำทิพย์ชโลมจิตใจ แต่เราก็ต้องทำงานหนักตอบแทน เพื่อไม่ให้น้ำทิพย์กลายเป็นยาพิษ
นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเรื่องความเห็นในเรื่องเดียวกันว่า เราจะทำให้เต็มที่ ไม่ใช่แค่ประชาชนที่มีความหวัง ส่วนตัวในฐานะที่เป็นรัฐบาลและเป็นฝ่ายการเมืองก็หวังสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้เช่นกัน ตั้งแต่กระบวนการต่างๆ ที่ทำให้รัฐบาลชุดที่แล้วพ้นหน้าที่ไป วันนี้รัฐบาลชุดนี้เห็นได้ชัดว่าให้ความสำคัญกับประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในการประชุม UNGA ในนามตัวแทนของนายกรัฐมนตรีและประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนอบอุ่นใจ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ลงพื้นที่ทุกพื้นที่ที่ประสบภัย และให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้ประชาชนสามารถมั่นใจได้ว่ามีรัฐบาลที่สามารถพึ่งพาได้
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร จ.พิจิตร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพจากมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล ให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 2,000 ชุด พร้อมมอบเสบียงอาหารสัตว์ ชุดเวชภัณฑ์ และโฉนดเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน ส.ป.ก.4-01 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทั้งด้านความเป็นอยู่และการทำการเกษตร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


