‘หนู’ไม่ง่อยทำทันที ห้ามครม.ทะเลาะ/‘ชวน’ท้ารวยอย่าโกง

"นายกฯ" ปิดแถลงนโยบายรัฐบาล  รับคำวิจารณ์-ข้อเสนอแนะไปปฏิบัติ ลั่นจะไม่ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือตนให้พ้นจากสิ่งที่ทำผิด ขอลุยทำงานทุกวัน แข่งกันทำความดีให้ประชาชน ยัน 4 เดือนยุบสภา-แก้ไข รธน. หลังอภิปรายวันสองฟาดกันเดือด "อนุทิน" จวก "จิราพร" สร้างวาทกรรม กล่าวหาเป็นผู้ต้องหาคดีฮั้ว  สว. แฉเบื้องหลัง “อิ๊งค์” บีบยึด มท.1 "ชวน" ท้า "ผู้นำ" พิสูจน์คนรวยเป็นนักการเมืองไม่โกง “ก่อแก้ว” ไล่บี้ ครม.นอมินีปราสาทสายฟ้า ตั้งคนใกล้ชิดเนวินนั่งเก้าอี้สำคัญ เหน็บน่าตั้งกระทรวงบุรีรัมย์ "ไชยชนก" สวนจี๊ด หรือต้องเป็นรัฐบาลทักเซน-ฮุนษิณ "ธรรมนัส" ซัด "อนุสรณ์" กลืนคำเคยขอซบกล้าธรรม "สุทิน" เตือนนรกมีจริง รบ.เสียงข้างน้อยเจอแน่

ที่รัฐสภา วันที่ 30 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระเรื่องด่วน 1 คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน เป็นวันที่สองซึ่งเป็นวันสุดท้าย

น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) เริ่มอภิปราย โดยตอนหนึ่งระบุว่า  รัฐบาลที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นรัฐบาลพิเศษ เกิดท่ามกลางสถานการณ์ที่ผิดปกติ จัดตั้งรัฐบาลด้วยวิธีพิสดาร เพราะหลังจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 18 มิ.ย. ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านประกาศว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนนายกฯ ในอีก 3 เดือน  นับเวลาดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยเรามีรัฐบาลใหม่ใน 3 เดือน ตามที่ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านประกาศไว้จริงๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ ความเคลื่อนไหวของผู้นำประเทศเพื่อนบ้านสอดคล้องและสอดประสานกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

นอกจากนี้ พรรค ภท.มีท่าทีและเจตนาอย่างโจ่งแจ้งในการสะสมกำลังพลแบบนี้ เท่ากับว่ากำลังจงใจฉีกข้อตกลง MOA แบบไม่เกรงใจผู้นำฝ่ายค้านเลย ถ้าตนเป็นพรรคที่โหวตให้ท่านเป็นนายกฯ การทำแบบนี้ต้องถึงขั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว

สส.พรรค พท.รายนี้ระบุว่า สิ่งที่คนอยากฟังคือนโยบายที่นายกฯ ไม่ได้อ่าน คือคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและพัวพัน และรัฐมนตรีบางคน คือคดีฮั้ว สว.และคดีเขากระโดง รัฐบาลจะเอาอย่างไร เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายกฯ ที่เป็นผู้ต้องหาของ กกต. ดีเอสไอ แถลงยืนยันว่าถูกกลั่นแกล้งแบบนี้ เท่ากับเป็นการแถลงนโยบายกับข้าราชการแล้วว่าถ้าใครทำคดีฮั้ว สว. คดีเขากระโดงต่อ เท่ากับเป็นการกลั่นแกล้งนายกฯ หรือไม่ แบบนี้ข้าราชการนั่งตัวแข็งหมดไม่กล้าทำอะไร

จากนั้นเวลา 09.40 น. นายอนุทินลุกขึ้นชี้แจงว่า คิดว่า น.ส.จิราพรพยายามใช้วาทกรรมอีกแล้ว เวลาพูดความจริงดูน่าเชื่อถือมาก แต่เวลาพูดความเท็จเห็นได้ชัดเจนขาดความมั่นใจ พยายามทำให้เห็นว่าตนกับผู้นำกัมพูชารู้อะไรกัน  ซึ่งยืนยันไม่รู้จักผู้นำกัมพูชาในนามส่วนตัวเลยสักคนเดียว เพิ่งเคยพบกับสมเด็จฮุน เซน ครั้งแรกอย่างเป็นทางการตอนที่ติดตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ เยือนกัมพูชาเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และไม่มีความสัมพันธ์ใดที่เป็นส่วนตัว

"ยืนยันไม่มีการตกลงเบื้องหลัง เต็มที่มีแค่เพื่อนที่รู้จักกันและเป็นผู้ที่มีอำนาจในรัฐบาลแห่งนั้น ไม่มีลุง ไม่มีอังเคิล มีแต่เพื่อน และไม่เคยพูดถึงเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงเสนอแนะอะไรที่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ผมยังรู้สึกตกใจด้วยซํ้าว่าเมื่อผมกลับมาแล้วจากการติดตาม น.ส.แพทองธารไปเยือนกัมพูชา เพื่อนของผมที่รู้จักกันเขาโทร.มาบอกว่า รู้ไหมที่เขาไม่ให้คุณเข้าไปในที่ประชุมหลายที่ เขาไปแจ้งผู้นำเขาว่าไม่ต้องคุยอะไรกับคุณมากหรอก เขาจะปลดคุณออกจาก มท.1 อยู่แล้ว” นายอนุทินกล่าว

หนูยันไม่ยุ่งฮั้วสว.-เขากระโดง

นายกฯ ระบุว่า เคยถามนายกฯ แพทองธารไปว่าทำไมต้องเปลี่ยนตำแหน่งไป รมว.สาธารณสุข ตนทำอะไรผิดหรือ น.ส.แพทองธารก็บอกว่าใกล้เลือกตั้งแล้ว พรรคเพื่อไทยต้องได้กระทรวงมหาดไทย ตนจึงบอกไปว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ท่านเชื่อว่าการได้ดูแลกระทรวงมหาดไทยและจะชนะเลือกตั้ง ซึ่งคำตอบที่ได้คือก็จะเอามหาดไทยคืนอะ

ทำให้ น.ส.จิราพรลุกขึ้นประท้วงว่า นายอนุทินกำลังเล่าซีนดรามาระหว่างตัวเองกับบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในสภาแห่งนี้ ทำให้นายอนุทินกล่าวว่า "ผมอยู่ตรงนั้น เอามายืนยันกันตรงนี้เลยก็ได้ ท่านไม่ได้อยู่ตรงนั้น ท่านจะมาบอกดรามาได้อย่างไร"

นายกฯ กล่าวต่อว่า ที่มาของ MOA  ไม่ได้พิสดาร เพราะไม่ได้แอบเซ็นกันในห้องผู้นำฝ่ายค้าน แต่เป็นการทำอย่างทางการ จะมีการยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. และวันที่ 14-15 ต.ค. ก็จะมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งไม่มีการดูด สส.จากพรรค พท. มีแต่พรรค ภท.ถูกดูด แต่โชคดีที่เขากลับตัวทัน ส่วน สส.ที่เพิ่มมา ก็มาจากการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษ

นายอนุทินกล่าวถึงเรื่องคดีเขากระโดงและคดีฮั้ว สว.ว่า ขอให้มั่นใจว่าตนจะไม่เข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้เด็ดขาด และ น.ส.จิราพรต้องถอนคำพูดว่า นายกฯ เป็นผู้ต้องหาของดีเอสไอ เพราะตนไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ยังไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย ชอบใช้วาทกรรมพูดให้ประชาชนเข้าใจผิด

ต่อมา น.ส.แนนขอให้ประธานวินิจฉัยที่นายกฯ ได้ขอให้ผู้อภิปรายถอนคำพูด ทำให้ น.ส.จิราพรยอมถอนคำพูดว่าผู้ต้องหา แต่เปลี่ยนเป็นผู้ที่พัวพันในคดีและส่อที่จะเข้ามายุบคดีหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายอนุทินชี้แจงเสร็จได้เดินทางออกจากอาคารรัฐสภาไปยัง Private Jet Terminal โดยนายกฯ ขับเครื่องบินส่วนตัวด้วยตัวเอง นำ นพ.พัชร อ่องจริต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เดินทางไปยังจังหวัดเลย ในภารกิจ “หัวใจติดปีก”  ซึ่งเป็นภารกิจด่วน

ทั้งนี้ นายอนุทินเดินทางกลับเข้าสภาในเวลา 16.30 น. พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า  ระหว่างไปปฏิบัติภารกิจก็ฟังการอภิปรายตลอด ตนรีบไปและรีบกลับมา ก็เรียบร้อยดี

เวลา 10.40 น. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายว่า มีข้อสงสัยที่ขอให้รัฐบาลช่วยชี้แจง ในช่วง 2 ปีเศษ เรามีโอกาสได้พิจารณานโยบายรัฐบาล 3 ชุด ตนได้มีโอกาสอภิปรายทั้ง 3 ครั้ง แต่เมื่อพิจารณานโยบาย 4 เดือนของรัฐบาลชุดนี้ ถ้าเปรียบเทียบรัฐบาลชุดก่อนนี้มีข้อเหมือนกันและแตกต่างกัน ประเด็นนโยบายที่น่าจะสนับสนุนคือเรื่องความมั่นคง เขียนไว้ 2 เรื่อง กัมพูชาและเรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของชีวิตเหมือนกัน

นายชวนกล่าวว่า เรื่องจัดการเลือกตั้ง แม้มี กกต. แต่บทบาทของรัฐบาลจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ ขอเสนอให้นายกฯ วางรากฐานเพื่อมีผลต่อไปในอนาคต  ทำการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่นายกฯ ต้องรับผิดชอบให้สุจริตเที่ยงธรรม

ชวนท้าอนุทินพิสูจน์รวยไม่โกง

"เราเปลี่ยนนายกฯ 3 คน ความเห็นต่างกัน เหมือนกันอย่างเดียวคือรวยเหมือนกัน แต่สวนทางกับชาวบ้านที่ยากจนลง รายได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนับล้านคน ท่านนายกฯ มีโอกาสพิสูจน์ให้เห็นว่าคนรวยไม่โกงก็มี ความเชื่อแต่เดิมว่าต้องสนับสนุนคนรวย เพราะนักการเมืองต้องดูแลงบมหาศาล ไปเลือกคนไม่มีเงินไม่มีบ้านอยู่เดี๋ยวจะคอร์รัปชันโกง แต่ในที่สุดเวลาพิสูจน์ว่ารวยที่สุดก็ทุจริต โกง โคตรโกงก็มี นายกฯ มีโอกาสพิสูจน์ว่าไม่จริง เป็นเรื่องตัวบุคคล ในฐานะที่ท่านเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มคนรวย ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าคนรวยมาเป็นนักการเมืองไม่โกงก็มี" นายชวนกล่าว

เวลา 11.50 น. นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. อภิปรายว่า จากการแต่งตั้ง ครม.ชุดนี้ บางท่านไม่มีความเหมาะสม ไม่มีศักยภาพ ไม่ขาวสะอาด บางท่านเป็นนอมินีของผู้มีอำนาจตัวจริงของพรรค ภท. ขอยกตัวอย่างนายโสภณ ซารัมย์ เป็นรองนายกฯ ซึ่งตนลืมชื่อท่านนานแล้ว แต่เมื่อมีชื่อเอ่ยมาก็นึกได้ว่าท่านเป็นคนสนิทของครูใหญ่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ระหว่างนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม กล่าวเตือนว่า ให้ระมัดระวังในเรื่องกล่าวถึงบุคคลภายนอกที่ไม่อยู่ที่นี่ เช่น นายเนวิน ตนไม่อยากให้มีการประท้วง บรรยากาศกำลังดำเนินไปด้วยดี ไม่ให้กล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น

นายก่อแก้วกล่าวต่อว่า พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ได้รับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ทั้งที่เป็นเพียงอดีตรอง ผบช.ภ.3 และใกล้ชิดครูใหญ่เนวิน ทั้งที่กระทรวงนี้ควรเป็นตำแหน่งของแกนนำหลักในพรรค แต่กลับแต่งตั้งบุคคลภายนอกซึ่งไม่ต้องผูกพันสร้างผลงานให้พรรค การแต่งตั้งนายไชยชนก ชิดชอบ ได้รับตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งที่ถูกตั้งคำถามเรื่องประสบการณ์และศักยภาพ

"การแต่งตั้งเช่นนี้ไม่ใช่การยึดประโยชน์ประเทศเป็นหลัก แต่เป็นระบบอุปถัมภ์เพื่อพวกพ้องที่ไร้ความชอบธรรม ไม่ยึดประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง และคำถามเรื่องนิติธรรม ถ้าจะตั้งกันแบบนี้ แนะนำให้ตั้งกระทรวงบุรีรัมย์ไปเลยดีกว่า" นายก่อแก้วกล่าว

จากนั้น นายโสภณใช้สิทธิ์พาดพิงว่า วันนี้วันพระ กล่าวในสภาศีลข้อ 4 ตนระวัง พรรคท่านเอาลูกมาเป็นนายกฯ ตนไม่อยากใช้วาทกรรมเรื่องแบบนี้ ถ้าจะผิดท่านต้องดูนับจากวันนี้เขาทำอะไรผิดท่านค่อยว่า หากพวกตนทำตามคำปรามาสของพวกท่าน พวกตนเป็นผู้ร้ายทันที

นายไชยชนกก็ลุกขึ้นชี้แจงว่า ขอน้อมรับ เพราะเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง ยังไม่มีประสบการณ์ในการบริหารอย่างเป็นทางการในด้านการเมือง แต่ไม่ว่าจะทำหน้าที่ไหน ตนทำอย่างสุดความสามารถและเต็มกำลัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของส่วนรวม

"ท่านพูดเรื่องปราบคอลเซ็นเตอร์ ผมยังไม่ทันเข้ารับตำแหน่ง ทราบหรือไม่ว่ามีคนติดต่อมาหาผมไม่ใช่โดยตรง แต่ผ่านเพื่อนสมาชิกที่ทราบว่ารู้จักผม เสนอที่จะมอบเงินให้ผมเดือนละ 40 ล้านบาท เพื่อไม่ให้จับเรื่องคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และเว็บไซต์ ทำให้สงสัยว่าประเพณีปฏิบัติของ รมว.ดีอีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ผมปฏิเสธไปแล้ว" นายไชยชนกกล่าว

นายก่อแก้วลุกขึ้นอภิปรายว่า ต้องขอขอบคุณนายไชยชนกที่กล้ายอมรับ ถ้าเปิดใจที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติเป็นหลักตนขอชื่นชมและจะติดตาม ส่วนที่บอกว่ามีคนติดต่อเงินให้ท่าน 40 ล้านบาท ช่วยกระชากหน้ากากมาให้สังคมได้รับทราบและดำเนินการจับกุมด้วย

นายไชยชนกชี้แจงว่า ตนจะพยายาม แต่พูดออกไปแล้วไม่แน่ใจว่าจะได้รับความร่วมมือหรือไม่ แต่ก็จะพยายาม และตนน้อมรับความคิดเห็นที่ท่านได้แสดงก่อนหน้านี้เช่นกันในเรื่องของรัฐบาล "เนทิน” ตนก็ไม่มั่นใจ เพราะเป็นน้องใหม่ในวงการการเมือง ไม่แน่ใจว่าต้องเป็นรัฐบาล "ทักเซน” หรือ “ฮุนษิณ” หรือเปล่าถึงจะเป็นแบบที่ท่านมองว่าถูกต้อง 

ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมตัดบทไม่ให้พูด เดี๋ยวจะเป็นการประชดประชัน ขอให้ถอนคำพูด ซึ่งนายไชยชนกก็ถอนให้ พร้อมกล่าวว่า แค่สงสัยจริงๆ

เวลา 12.43 น. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง ลุกขึ้นชี้แจงแนวคิดวางแผนนโยบายเศรษฐกิจว่า แนวนโยบายเศรษฐกิจ หลักคิดที่ใช้คือกระตุ้นสั้นได้ยาว กระจายตัวทุกพื้นที่ เราถึงเรียกควิกบิ๊กวิน แบ่งเป็น 5 เสาหลักที่ 1 กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คือ นโยบายคนละครึ่งพลัส, 

เสาหลักที่ 2 การบริหารหนี้เสีย (NPL), เสาหลักที่ 3 การดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสภาพคล่อง, เสาหลักที่ 4 การเพิ่มการออมภาคประชาชน สลากออมทรัพย์ เรียนว่าคนละอันกับหวยเกษียณ, เสาหลักที่ 5 การเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

ธรรมนัสฟาดกลับอนุสรณ์ยับ

เวลา 13.03 น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ชี้แจงถึงนโยบายการต่างประเทศกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาว่า การเจรจาประเทศไทยต้องเจรจาอย่างสันติ แต่เราไม่ยอมเรื่องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน สิ่งสำคัญเรายังแก้ไขปัญหาแต่ละวันเฉพาะหน้า โดยต้องมียุทธศาสตร์ข้อมูลข่าวสาร ที่ทางฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นประโยชน์อย่างมาก สร้างความได้เปรียบของเขา นำเวทีทวิภาคีไปสู่นานาประเทศ แต่ไม่ใช่ว่าตนปิดประตูสำหรับการเจรจา ถ้าเขาพร้อมเมื่อไหร่เราก็ต้องพร้อม ปัญหาตอนนี้เขายังไม่แสดงความจริงใจที่จะเจรจากับเรา

ต่อมาเวลา 13.20 น. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. อภิปรายว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรีที่มีการตั้งรัฐมนตรีที่รัฐบาลที่แล้วไม่กล้าตั้ง เลยแก้ปัญหาด้วยการลุยไฟตั้งเสียเองหรือไม่ ขอมุ่งไปยังคุณสมบัติของรัฐมนตรี 2 คน โดยตั้งชื่อเรื่องว่ารางวัลแด่คนช่างหัก รอยด่างพร้อยที่ยากจะลบเลือน

นายอนุสรณ์กล่าวว่า คนแรก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ประวัติมีเงื่อนงำ พัวพันคดีความและข้อสงสัยในอดีตที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ จนถูกศาลตัดสินจำคุก และถ้าไปหาอ่านตามจะพบคลิปข่าว คลิปดังข้ามปี จะมีข้อความว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดรัฐนิวเซาท์เวลส์ อ้างว่าเป็นเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัมนั้น มันคือแป้ง ซึ่งแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าท่านไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีตามกฎหมายไทย แต่ย่อมนำมาซึ่งข้อสงสัยและการตั้งคำถามอย่างรุนแรงถึงคุณธรรมและจริยธรรม

กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรัฐมนตรีเพียงไม่กี่คนที่พรรคฝ่ายค้ำตั้งเงื่อนไขไม่ให้ตั้ง ด้วยภูมิหลังที่อาจทำให้มีความกังวลเรื่องความโปร่งใส โดยเฉพาะประเด็นอาคาร SKYY9 เมื่อคราวดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

"ความรับผิดชอบทางการเมืองย่อมเหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย เส้นแบ่งการเป็นรัฐมนตรี เป็นได้หรือไม่ ขาดคุณสมบัติหรือไม่นั้น เป็นเส้นแบ่งทางกฎหมาย แต่คุณธรรม จริยธรรมทางการเมือง ซึ่งบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองควรมีสูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมายหรือไม่” นายอนุสรณ์กล่าว

จากนั้นเวลา 13.30 น. ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงกรณีนายอนุสรณ์พาดพิงว่า อภิปรายเรื่องเก๊าเก่า ก่อนที่จะอภิปรายในเรื่องเก่า ตนจำได้ว่านายอนุสรณ์เคยมาคุยกับตนในฐานะสมาชิกพรรค พท. และมาขอร่วมอุดมการณ์กับตนในพรรคกล้าธรรม ไม่มั่นใจว่าวันนั้นกับวันนี้ต่างกันราวกับฟ้ากับดิน วันนั้นท่านชื่นชมว่าตนทำงานได้ดี ได้ใจประชาชน ทำงานถึงลูกถึงคน ตนอยู่บ้านนี้ไม่มีความสุข อยากมาร่วมอุดมการณ์ด้วย  และท่านก็พูดกับสมาชิกพรรคกล้าธรรมหลายคน

"ผมไม่เข้าใจว่าเมื่อเช้าท่านตื่นมากินยาผิดประเภทหรือไม่ สิ่งที่นายอนุสรณ์พูดย้ำและบอกว่าเจอกันในสถานีหน้า ผมบอกว่าได้เจอสถานีที่พะเยาแน่นอน ท่านไม่อ่านกฎหมายไม่อ่านข่าว ไม่หาความรู้กับผู้รู้ในพรรค ทว่ากระบวนการยุติธรรมทั้งหมดผมผ่านมาหมดแล้ว" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ส่วนนายสุชาติชี้แจงว่า เรื่องตึก SKYY 9 ตนก็ยังงงจนถึงทุกวันนี้ อยากฝากเรียนสั้นๆ ว่า การลงทุนของบอร์ดประกันสังคมไม่ได้ลงทุน 7,000 ล้าน แต่เขาลงทุนเป็นหลักล้านล้าน มีบอร์ดลงทุน บอร์ดประกันความเสี่ยงที่แต่งตั้งโดยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด

ขู่รัฐบาลข้างน้อยนรกมีจริง

เวลา 14.30 น. นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายเรื่องปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ภัยไซเบอร์ สแกมเมอร์ ที่ทำคนไทยสูญเสียเงินให้กับสแกมเมอร์มากกว่า 1 แสนล้านบาท โดยเส้นเงินส่วนใหญ่สามารถระบุได้ว่าอยู่ที่กัมพูชา และสแกมเมอร์ที่ตั้งอยู่ที่กัมพูชา ตัวละครสำคัญของแก๊งสแกมเมอร์ ได้แก่ ก๊ก อาน เจ้าของกาสิโนและตึก 18 ชั้น ตึก 25 ชั้น รวมทั้งนายลี ยงพัด หรือคนที่ได้รับฉายาว่าราชาแห่งเกาะกง หรือที่ชาวจังหวัดตราดเรียกว่าเสี่ยพัด ผู้ก่อตั้ง LYP กรุ๊ป และโอร์เสม็ดรีสอร์ท นอกจากนี้ยังมีตัวละครสำคัญนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ เป็นชาวแอฟริกาใต้ มีภรรยาเป็นคนไทย

เวลา 15.10 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. อภิปรายว่า จากการติดตามตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปรากฏว่ากองทุนจากประเทศสิงคโปร์ได้เข้ามาถือครองหุ้นบางจากฯ ในสัดส่วนสูงถึง 14% แต่ถืออยู่เพียงชั่วคราวก็รีบเทขายหุ้นถึง 9% ให้กับบริษัทของไทย และบริษัทดังกล่าวมีการไล่ซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่องจนกวาดหุ้นไปครองถึง 20% ซึ่งธุรกรรมเหล่านี้เชื่อมโยงไปถึงนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับสมเด็จฮุน เซน นอกจากนี้ ในไทยยังมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับนักการเมืองหลายคนอย่างแนบแน่นไม่แพ้กัน จึงควรตรวจสอบ

เวลา 17.45 น. นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. อภิปรายว่า ขอแสดงความกังวลที่จะทำให้เป็น 4 เดือนที่ไม่สูญเปล่า รัฐบาลอยู่ในสภาพที่มีข้อจำกัดเยอะมาก 1.เรื่องของ MOA ซึ่งเป็นข้อจำกัดในเรื่องของเงื่อนเวลาให้ 4 เดือน 2.ปัญหารัฐบาลเสียงข้างน้อยเลือกให้ท่านเป็นนายกฯ แล้วก็ไม่ได้ไปเป็นรัฐบาลกับท่าน  ลอยแพให้ท่านเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะมีปัญหาอะไรนั้น ขอให้ฟังตนแล้วจะได้รู้ว่านรกมีจริง 3.ไม่ได้จัดงบเอง ท่านเขียนนโยบายมาเยอะ จะจัดทำนั่นทำนี่ ท่านไม่ได้จัดงบไว้  4.ความเชื่อมั่นความเชื่อถือของทั้งต่างชาติและในประเทศ จะใช้เวลา 4 เดือนอย่างไรให้เขามาลงทุนกับเราอย่างไร 5.ระยะเวลา 4 เดือนนี้จะทำให้ข้าราชการเกียร์ว่าง

นายสุทินกล่าวว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยคือไม่มีความกล้าหาญที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญ ฉะนั้นตนจึงเห็นใจ ข้าราชการก็จะเกียร์ว่าง สภาก็จะจ้องจับผิดท่าน หากนำเรื่องเข้าสภา ถ้าไม่เห็นด้วยท่านก็เดินไม่ได้ ท่านจะไม่มีความสามารถในระยะเวลาอันสั้น หากให้เวลาท่านสัก 1 ปี คิดว่าท่านทำได้ ตนไม่ติดใจในฝีมือท่าน 4 เดือนเทวดาทำยังยาก อีกทั้งยังเป็น 4 เดือนที่ท่านมีข้อจำกัด เป็นเป็ดง่อยด้วย คนจึงระแวงต่อว่าหาก 4 เดือนทำเรื่องพัฒนาประเทศไม่ได้ แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ แล้วเราจะทำอะไร ความดีใช้เวลาในการทำ แต่การทำลายใช้เวลาสั้นๆ ก็สามารถทำได้ สร้างเมืองต้องใช้เวลานาน ทำลายวินาทีเดียวก็ทำได้

 “ท่านมีเจตนาดี แต่ 4 เดือนนี้ไม่เสร็จ สุดท้ายจะโทษใคร จริงๆ แล้วก็อยากโทษคนไปทำ MOA กันนั่นแหละ ทำไมใจร้ายให้แค่ 4 เดือน และตำหนินายกรัฐมนตรี ก็ไปรับกับเขาอย่างละม่อม ไม่ขอให้มากหน่อย หากพูดแบบนี้ก็จะย้อนว่าพรรคเพื่อไทย ก็ยอมรับเหมือนกัน แต่ผมบอกว่า 4 เดือน อย่าเอา แต่ขอให้ตั้งนายกรัฐมนตรีแล้วยุบสภาเลย ให้ได้รัฐบาลใหม่” นายสุทินกล่าว

กระทั่งเวลา 18.03 น. หลังสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้น นายอนุทินกล่าวขอบคุณสมาชิก ตอนหนึ่งระบุว่า หลังจากได้แถลงนโยบายแล้ว  รัฐบาลจะได้ไปบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป และขอกราบขอบพระคุณสมาชิกรัฐทุกคน ทั้ง สส.และ สว. ที่ได้ให้ความรู้ ข้อแนะแนว ความคิดเห็น คำวิจารณ์ การเสนอแนะและอื่นๆ อีกมากมายเพื่อให้รัฐบาลได้นำไปปฏิบัติในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งขอให้คำยืนยันว่า พวกเราทุกคนรับฟัง และจะนำไปเป็นข้อคิดแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

นายกฯ แถลงปิดลุยงานทุกวัน

"ขอให้คำยืนยันว่า 2 วันนี้เป็น 2 วันที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับรัฐบาลชุดนี้ ผมให้ความมั่นใจกับท่านว่า ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ตลอดจนรัฐมนตรีทุกท่านในคณะรัฐบาลของผม เราจะไม่ใช้อำนาจที่เราได้รับมอบหมายจากพี่น้องประชาชนมากระทำการสิ่งใดที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง หรือช่วยเหลือให้ตนเองพ้นจากสิ่งที่ได้ทำผิดไป และหวังว่าสิ่งที่ได้ทำไปคงไม่มีอะไรเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ถ้ามีอะไรที่ผิดกฎหมาย ท่านบอกมาเลย ตั้งแต่ผมที่เป็นเบอร์หนึ่งของคณะรัฐบาลชุดนี้ รวมถึงเบอร์ 36 ถ้าผมพบว่าผู้ใดทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผมจะไม่ให้ท่านต้องมาเร่งผม ผมจะเป็นคนเร่งรัดและถ้าดำเนินการด้วยตัวเองได้ ผมจะดำเนินการด้วยตัวเองไม่เว้นแม้แต่กระทั่งตัวผม” นายอนุทินกล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐธรรมนูญ ขอยืนยันกับผู้ที่ลงนามเอ็มโอเอกับตน 4 เดือนจากนี้ไปมันไม่ใช่เป็ดง่อย ถ้าเป็นเป็ดง่อยมันจะยุบสภาไม่ได้ ท่านหัวหน้าพรรคประชาชนบอกว่านโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้คือยุบสภาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั่นคือการกระทำที่ต้องทำอย่างแน่นอน คือยุบสภาใน 4 เดือน และแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 “ผมขอยืนยันว่าจะสนับสนุนเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญและจัดทำประชามติให้พร้อมในการเลือกตั้งทั่วไป และรัฐบาลขอความร่วมมือให้สมาชิกรัฐสภาทุกท่านร่วมกันประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ด้วย ถ้าเป็นไปได้ คือเดือน ธ.ค.นี้ คณะกรรมาธิการฯ อาจจะต้องมีการประชุมบ่อยมาก หรืออาจจะไม่มีวันหยุดเลย ก็ขอให้ทุกคนได้มาร่วมกัน เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และใช้เวลามาก ถ้าพวกเราทุกคนร่วมมือกันทุกวัน ก็ทำให้เจตนารมณ์ของทุกท่านที่ต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้สมปรารถนา" นายกฯ กล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  รัฐบาลจะดำเนินการให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญด้วยว่าจะทำได้ด้วยประสิทธิภาพที่มีมากเพียงใด สำหรับการเสนอกฎหมายต่างไปประกอบรัฐธรรมนูญนั้น ทุกท่านในรัฐสภาแห่งนี้ทราบดีว่ามันไม่สามารถผ่านสภานี้ได้ภายใน 4 เดือน แต่เราเริ่มต้นไว้ได้เพื่อให้รัฐบาลภายหลังจากการเลือกตั้งมาสานต่อได้เลยโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์  เพราะพวกเราจะเริ่มวางรากฐานไว้ให้เป็นอย่างดี เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 147 วรรค 2

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องโยกย้ายข้าราชการเพื่อไปช่วยการเลือกตั้ง ขอให้ท่านได้มั่นใจ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ดีกว่าตน เพราะตนอยู่มหาดไทยมา ตอนนี้แฮตทริกแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีชื่อพ่อตน ตนมั่นใจเป็นอย่างดีว่าจะเลือกตั้งได้มากได้น้อยอยู่ที่ผู้สมัครนโยบาย พรรคการเมือง ใครทำนโยบายดี ใครส่งผู้สมัครดี ก็มีโอกาสที่จะได้เข้ามา ตนไม่เคยคิดเลยว่าข้าราชการคนไหนจะสามารถช่วยให้พรรคการเมืองชนะการเลือกตั้งได้ ลองไปถาม รมว.มหาดไทยคนก่อนหน้าตน วินาทีนี้คงจะซาบซึ้งเป็นอย่างดี ในเรื่องของการเอามีดตัดมือตัวเอง สำหรับคนชื่ออนุทิน ไม่เคยมี คนที่เอามีดตัดมือตัวเอง ตัดแขนตัวเอง คือคนที่ให้ตนออกจากรัฐบาลที่แล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีวันนี้ ดังนั้นเราเห็นสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นมาแล้ว และไม่เป็นประโยชน์ด้วย แต่ขอให้อโหสิกันและจบกันไป เรามาแข่งขันทำคุณงามความดี ขายนโยบายให้กับพี่น้องประชาชน

"อีก 4 เดือนยุบสภา อีก 2 เดือนก็มาเลือกตั้งกันด้วยความบริสุทธิ์ โปร่งใส รับรองว่าไม่ใช่เป็ดง่อย นี่หนูครับไม่ใช่เป็ด หนูไม่ง่อย เป็ดอาจจะง่อย ก็ขอให้ท่านมั่นใจว่ารัฐบาลนี้จะทำหน้าที่ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป โดยจะประชุม ครม.ทันทีเพื่อทำในเรื่องเป็นต้องทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชน” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา สั่งปิดการประชุมในเวลา 18.17 น.

เวลา 18.35 น. นายอนุทินเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ภายหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น โดยกล่าวช่วงต้นว่า ในการอภิปรายนโยบาย 2 วันที่ผ่านมา ให้ ครม.ไปพิจารณาว่าจะดำเนินการได้อย่างไรบ้าง ณ วินาทีนี้รัฐบาลของเราสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างสมบูรณ์ แบบสั่งการมอบนโยบายหรือการปฏิบัติใดๆ

"ขณะนี้รัฐบาลชุดนี้มีความสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้เราจะเร่งทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้นำนโยบายที่ทางผมในฐานะนายกฯ ได้แถลง ซึ่งรวมไปถึงนโยบายที่เกี่ยวพันกับกระทรวงทุกกระทรวง ขอให้ได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน" นายกฯ กล่าว.