‘อนุทิน’สงสารทหาร!

"อนุทิน" ดูจุดวางรั้วลวดหนามชายแดนบุรีรัมย์ เผยทำรั้วสลับสร้างกำแพงตามภูมิประเทศ สงสารทหารเฝ้าชายแดน เป็นเหตุต้องให้ความสำคัญ ขณะที่แม่ทัพภาคที่  2 ระบุพื้นที่ช่องจอมเป็นเพียงข้อเสนอเดิมที่จะสร้างเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 75 ปี ไทย-กัมพูชา   สร้างหรือไม่สร้างต้องหารือกันอีกครั้ง

ช่วงเย็นวันที่ 4 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะ​ลงพื้นที่จุดผ่านแดนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนการค้าที่เชื่อมต่อกับจุดจุ๊บโกกี ประเทศกัมพูชา​ โดยตอนนี้ยังถูกปิดอยู่​ ทันทีที่มาถึงนายอนุทินรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์​ ก่อนจะเดินดูบริเวณรอบๆ พื้นที่​ และได้มอบเสบียงอาหาร​ให้แก่ทหารที่ปฏิบัติงาน​

จากนั้นเดินทางต่อมาที่ฐานปฏิบัติการแมงป่อง​ กองร้อยทหารพรานที่​ 2604 มอบเสบียงอาหารบำรุงขวัญกำลังใจให้แก่กำลังป้องกันชายแดนของกองกำลังสุรนารี​ ก่อนจะเข้าไปดูภายในฐานทัพ​นานกว่า​ 20 นาที​ และให้สัมภาษ​ณ์โดยชี้ไปที่รั้วลวดหนามหีบเพลงพร้อมกล่าวว่า​ มีรั้วลวดหนามหีบเพลงที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นรั้วอย่างหนึ่ง ใครบอกว่า​ยังไม่ทำรั้วคงไม่ใช่ รั้วนี้ทำตั้งหลายชั้น และตอกไปตามแนวเขตเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามา คิดดูว่าหากฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาต้องนั่งตัดนั่งผ่ารั้ว ซึ่งเรามีทหารประจำจุด ที่คนไปบอกว่าเป็นรั้วลวดหนามแล้วจะไปตัดเข้ามาได้  ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

นายอนุทินยังพาสื่อไปชี้จุดที่วางรั้วลวดหนามซ้อนกันหลายชั้นหลายวง และวางยาวทอดไปตลอดแนวชายแดน พร้อมกล่าวยอมรับว่า​ สงสารทหาร เพราะเขาต้องอยู่กันแบบนี้ ช่วงหน้าฝนก็ต้องอยู่ ต้องเฝ้าตามแนวชายแดน นี่คือสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญกับทหารในช่วงนี้ หากเขาขอการสนับสนุนอะไรจากรัฐบาลก็ต้องดำเนินการ เพราะมาเห็นกับตาตัวเอง เห็นภาพว่ามีความจำเป็นอะไรบ้าง วันดีคืนดีก็มีจรวดเข้ามา ระเบิดยิงเข้ามาจากฝั่งโน้น ซึ่งนี่ถึงเรียกว่ารั้ว เราไม่ได้สร้างกำแพง และจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ เพราะหากสภาพภูมิประเทศแบบนี้มาสร้างกำแพงก็งบประมาณเท่าไหร่

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่าจะเป็นรั้วสลับกำแพงไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นไปตามภูมิประเทศและตามความสำคัญ  ส่วนความคืบหน้าตอนนี้ทหารก็จะไปดูความสำคัญและความจำเป็นตรงนี้เราจะไปกำหนดเองไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มารอพบนายกรัฐมนตรีด้วย​ โดยนายกรัฐมนตรี ถามพี่น้องประชาชนว่า​ “ย่านบ่” ประชาชนตอบกลับว่า​ “ย่านอยู่” ก่อนจะชวนคุยต่อโดยยืนยัน​ว่าไม่เปิดด่านแน่นอน​ และขอให้รอรับเงินเยียวยาในวันที่ 6 ต.ค.นี้​ จากนั้นได้ถ่ายภาพร่วมกับประชาชน​

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ​นายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจทหารอีกครั้ง​ โดยขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย​ รัฐบาลพร้อมดูแล ให้การสนับสนุน​ และก่อนขึ้นรถ​นายอนุทินได้ร้องเพลงปลุกใจทหารด้วยว่า​​ “เรารบจนใจขาด​ เพื่อชาติของไทย”

คนไทยรุกป่ายังถูกจับ

ก่อนหน้านี้ นายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์ถึงการมอบเงินเยียวยาให้ประชาชนว่า ผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทุกครัวเรือนจะต้องได้รับเงินเยียวยาจากผลกระทบ เช่น การอพยพออกจากพื้นที่มีค่าเยียวยาให้เป็นรายครัวเรือน จำนวน 5,000 บาท ต่อครัวเรือน ทั้งนี้ เงินเยียวยาดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีชุดก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มีการขาดช่วงของการจัดสรรงบประมาณ เพราะไม่มีรัฐมนตรีเต็มรูปแบบ ซึ่งหลังจากที่รัฐบาลของตนได้แถลงนโยบายไปแล้ว กระทรวงมหาดไทยจึงได้เร่งบรรจุเรื่องให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ ฉะนั้นในวันที่ 6 ต.ค.นี้น่าจะเริ่มทยอยโอนให้กับประชาชนได้ โดยจะโอนผ่านบัญชีธนาคารให้ประชาชนที่ลงทะเบียน

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้กับชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ที่บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ว่าตนเป็นคนให้ติดป้ายประกาศพื้นที่ป่า และให้กรมป่าไม้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุก เพราะเป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมาย ส่วนการดำเนินการให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง

"ผมเป็นคนให้ไปแจ้งความเพื่อรักษาสิทธิ ให้รู้ว่าที่ดินที่เขามาอยู่เป็นของป่าไม้ พื้นที่ป่าไม้ 2484 แจ้งความดำเนินคดี ให้ผู้ว่าฯ สระแก้วดำเนินการ ผมได้พบผู้ว่าฯ และ ผบ.กองกำลังบูรพา ยืนยันว่าเราเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ส่วนการดำเนินการให้เป็นหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ผมไม่ยอม ผมให้ไปปักป้ายไปแสดงสิทธิ ดำเนินคดีผู้บุกรุกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาติอื่นมาอยู่ต้องถูกกฎหมาย ที่ไม่ถูกกฎหมายอยู่ไม่ได้" นายสุชาติกล่าว

นายสุชาติกล่าวอีกว่า หากชาวกัมพูชาไม่ย้ายออกไปตามที่จังหวัดสระแก้วได้ติดประกาศ ให้เวลากัมพูชาแจ้งแผนย้ายออก ซึ่งจะครบกำหนด 10 ต.ค.นี้ ต้องเอากฎหมายป่ามานำ เราต้องเอาของเราคืนแน่นอน ถ้าเราไม่ใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ถูกฟ้องละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157

"คนไทยที่บุกรุกป่าเราบังคับใช้กฎหมาย แต่คนประเทศอื่นไม่บังคับใช้กฎหมายไม่ได้ ผมไม่ยอม" นายสุชาติกล่าวย้ำ

อนุสรณ์ครบรอบ 75 ปีไทย-เขมร

วันเดียวกันนี้ พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการสร้างรั้วในพื้นที่แนวชายแดนที่กองทัพภาคที่ 2 ได้เสนอไปยังกองทัพบกว่าจะสร้างจุดใดเป็นที่แรกว่า ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 มีทั้งพื้นที่ที่จัดระเบียบเขตแดนแล้วทั้ง 29 หลัก แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน จึงต้องไปดูว่าจุดไหนที่เห็นตรงกันแล้วก็สามารถก่อสร้างได้ อย่างพื้นที่ช่องจอม จะมีอยู่หนึ่งพื้นที่ที่ต้องสร้างในโอกาสครบรอบ 75 ปีไทย-กัมพูชา เพื่อที่จะเป็นการทำไว้เป็นอนุสรณ์ ส่วนจะเริ่มได้เมื่อไหร่นั้นทางกองทัพก็ต้องหารือกับรัฐบาล ตรงไหนที่เป็นประโยชน์ทางกองทัพพร้อมที่จะดำเนินการ

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีมอบอำนาจให้กองทัพได้ดำเนินการอย่างเต็มที่นั้น แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า ถึงอย่างไรก็ต้องบูรณาการร่วมกันทั้งหมด ทั้งกองทัพและรัฐบาล การจะก่อสร้างใดๆ ต้องมีการหารือกัน บางพื้นที่ที่สร้างไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องสร้าง และต้องดูในความปลอดภัย รวมถึงเงื่อนไขและข้อตกลงร่วมกัน ทุกอย่างต้องทำเป็นขั้นตอนทางกองทัพยินดี สุดท้ายแล้วการจะสร้างหรือไม่สร้างต้องคุยกับทุกฝ่าย และให้ความเห็นชอบร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พื้นที่ช่องจอมจะเป็นพื้นที่แรกที่จะสร้างรั้วชายแดนใช่หรือไม่ พล.ท.วีระยุทธตอบว่า ก่อนหน้านี้เห็นเพียงแค่ข้อเสนอ และเป็นพื้นที่ที่มีความเห็นชอบร่วมกันว่าจะสร้างในโอกาสครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แต่จะสร้างหรือไม่สร้างก็อยู่ที่จะต้องไปหารือกันต่อไป

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา ด้านกองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 ว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. เป็นการประชุมของกองเลขานุการของฝ่ายไทยและกัมพูชา ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงรายละเอียดข้อเสนอกันอีกครั้ง โดยฝ่ายไทยมีการยื่นข้อเสนอให้กับฝ่ายกัมพูชา เช่น การถอนกำลังพล การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในพื้นที่ที่มีปัญหาการเผชิญหน้ากันอยู่ ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ยังไม่ลงตัว และฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้ตอบรับกลับมา จึงต้องรอยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ก็คาดว่าน่าจะมีการเลื่อนประชุม RBC ออกไปประมาณกลางเดือนตุลาคม

พล.ท.วีระยุทธยังกล่าวถึงกรณีปราสาทคนา ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ที่กำลังเป็นข้อพิพาท หลายคนเกิดความเป็นห่วงว่าจะถูกฝั่งกัมพูชายึดครองว่า ปราสาทคนาตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดน ตอนนี้บริเวณปราสาทคนาเป็นพื้นที่สำรวจร่วมเพื่อจัดทำหลักเขตแดน โดยตอนนี้ทหารฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชาต่างอยู่กันในพื้นที่ของตัวเอง ยืนยันว่าตัวปราสาทยังไม่มีใครยึดครอง นอกจากนี้บริเวณแนวใกล้กับตัวปราสาทยังเป็นพื้นที่ต้องเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ฝ่ายไทยเข้าตรวจสอบประจำ

ขณะที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก  ได้เปิดเผยข้อมูลกรณีปราสาทคนาว่า ปัจจุบันมีสภาพเป็นสิ่งปรักหักพัง หลงเหลือเพียงแนวกำแพงศิลาแลงสูงประมาณ 1.6 ม. ยาวประมาณ 25 ม.แนวเดียวเท่านั้น ตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณห่างจากขอบหน้าผามาทางฝั่งไทยประมาณ 100 ม. มีองค์ประกอบคือสระน้ำ 2 แห่ง คือสระน้อยและสระใหญ่

บริเวณใกล้เคียงปราสาทต่ำลงไปทางขอบหน้าผามีฐานทหารกัมพูชาตั้งอยู่เป็นแนวไปทางทิศใต้ โดยมีฐานทหารของไทย โดย ฉก.ทพ.26 อยู่บริเวณใกล้เคียงปราสาทไปทางทิศเหนือ ควบคุมพื้นที่ 2 แห่งคือฐานสระใหญ่และฐานสระน้อย

               ที่ผ่านมาฝ่ายไทยเข้าไปตรวจสอบสภาพพื้นที่เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ฝ่ายกัมพูชามีการไปปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปใช้งานเป็นที่ตั้งสำหรับปฏิบัติการทางทหาร และบางครั้งฝ่ายกัมพูชาก็จะเข้ามาพบกับฝ่ายไทย โดยฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีทีท่าจะขยับคืบเข้ามาควบคุมบริเวณพื้นที่ซากหรือกำแพงของปราสาทแต่อย่างใด

กระทั่งเกิดความขัดแย้งเหตุการณ์ปะทะกันที่ช่องบกเมื่อ พ.ค.68 เกิดความตึงเครียดตลอดแนว ทั้งสองฝ่ายจึงยังไม่มีการเข้าไปบริเวณซากกำแพงโบราณสถานดังกล่าว

สำหรับบันไดไม้ที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างนั้น เป็นการสร้างเพื่อใช้สำหรับการส่งกำลังบำรุงขึ้นมายังฐานตรวจการณ์ที่อยู่บนแนวหน้าผา ซึ่งภายหลังพบว่ามีการใช้ในการเดินทางมาท่องเที่ยวของชาวกัมพูชาร่วมด้วย ลักษณะของกำลังทหารกัมพูชาที่อยู่บนนั้นไม่มีท่าทีคุกคามเหมือนบางพื้นที่ และจุดเฝ้าตรวจของกัมพูชาไม่มีลักษณะเป็นป้อมปราการทางทหารเพื่อใช้สำหรับเตรียมการต่อสู้แต่อย่างใด

ซึ่งจากนี้ไปทางกองกำลังสุรนารีจะดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีเหตุความตึงเครียดในช่วงที่ผ่านมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง