‘หนู-อิ๊งค์’ลุยอุทกภัยการเมือง

"นายกฯ หนู" ประเดิมนัดถก "บอร์ดแก้ภัยพิบัติ" เร่งเยียวยาประชาชน หลังตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั่วประเทศ ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมอุดรธานี "มท.3" พร้อม ปภ.มอบถุงยังชีพอุตรดิตถ์-พิษณุโลก ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ครม.กระจายกันซับน้ำตาชาวบ้าน "อิ๊งค์" ยกเลิกหาเสียง นำทีมเพื่อไทยลุยน้ำท่วมอุตรดิตถ์ ยันเป็นฝ่ายค้านยังดูแลเต็มที่ พท.กระทุ้ง "อนุทิน" ล้วงงบกลางเยียวยาด่วน

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 6 ต.ค. เวลา 14.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 311/2568 เมื่อวันที่ 30 ก.ย. แต่งตั้ง คอภ. และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศชภ.) เพื่อให้การบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัติทั่วประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีเอกภาพ และเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การตั้ง คอภ.และ ศชภ.มีจุดเริ่มต้นจากการที่นายอนุทินลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา และพบว่าประชาชนประสบปัญหาซ้ำซากทุกปี การช่วยเหลือที่ผ่านมายังไม่ครอบคลุมหรือทันต่อความเดือดร้อน จึงสั่งให้จัดตั้งกลไกกลางที่ทำงานแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อให้การเยียวยามีความรวดเร็ว เป็นเอกภาพ และตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง

สำหรับ คอภ. มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำหน้าที่อำนวยการและบริหารจัดการภัยพิบัติทั้งระบบ ตั้งแต่การเตรียมพร้อม ติดตามเฝ้าระวัง การป้องกัน การช่วยเหลือในระหว่างเกิดเหตุ ไปจนถึงการฟื้นฟูหลังสิ้นสุดเหตุการณ์ อีกทั้งยังมีอำนาจสั่งการหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรที่เกี่ยวข้องให้บูรณาการทำงานร่วมกัน รวมถึงสามารถแต่งตั้งคณะทำงานหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาสนับสนุนได้ตามความจำเป็น ส่วน ศชภ. มีนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการ จะทำหน้าที่บัญชาการกลางและประสานงานทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน และท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยครบถ้วน ตั้งแต่การเคลื่อนย้ายประชาชน การดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน การจัดหาอาหาร น้ำดื่ม เครื่องใช้จำเป็น ตลอดจนการวางระบบที่พักอาศัยชั่วคราวที่เพียงพอและทั่วถึง

ทั้งนี้ กำหนดให้ คอภ.ใช้งบประมาณจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขณะที่ ศชภ.ใช้งบประมาณจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นายกฯ ให้กำลังใจคนอุดร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ระหว่างที่นายอนุทินปฏิบัติภารกิจหัวใจติดปีก ขับเครื่องบินนำทีมแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เดินทางมารับหัวใจจากผู้ป่วยโรงพยาบาลอุดรธานีที่ครอบครัวสละอวัยวะเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยอื่น ระหว่างที่ทีมแพทย์เดินทางไปผ่าตัดรับอวัยวะ  นายอนุทินได้แยกคณะไปลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยที่เขื่อนห้วยหลวง ต.โคกสะอาด อ.เมืองฯ จ.อุดรธานี พร้อมได้ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนห้วยหลวงด้วย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เหมาขนมจีบ 1,000 บาท ให้รับประทานด้วย ซึ่งสร้างความดีใจให้ประชาชนในพื้นที่อย่างมาก

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ชี้แจงว่า ไม่ควรเอาสถานการณ์น้ำท่วมมาโจมตีทางการเมือง เพราะทั้งน้ำท่วมกับปัญหาชายแดนมีความสำคัญเหมือนๆ กัน และรัฐบาลก็ได้พยายามแก้ไขปัญหาไปพร้อมๆ กัน ไม่อาจละทิ้งปัญหาใดปัญหาหนึ่งได้

ที่วัดศรีสะอาด ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เมื่อเวลา 10.00 น. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมกล่าวให้กำลังใจประชาชนว่า  รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นายอนุทินและคณะรัฐมนตรีมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ซึ่งได้แต่งตั้ง คอภ. เพื่อเป็นกลไกหนุนเสริมการบริหารจัดการสาธารณภัย พร้อมกันนี้ คณะรัฐมนตรีรวมถึงหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ได้กระจายกำลังกันลงพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ และได้สนับสนุนบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหาร อปท. ในการใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และแผนเผชิญเหตุ เพื่อเร่งเยียวยาประชาชน

นอกจากนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านวิชาการ หาแนวทางการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติด้านการป้องกันด้วย

ต่อมานายศักดิ์ดานำคณะมอบเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด ให้แก่ประชาชนในพื้นที่

จากนั้น รมช.มหาดไทยเดินทางลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ณ ที่ว่าการอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พร้อมมอบเครื่องอุปโภค-บริโภคถุงยังชีพของ ปภ. จำนวน 500 ชุด พร้อมกล่าวพบปะให้กำลังใจประชาชน

ส่วนนายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและมาตรการป้องกันอุทกภัย โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำน่านที่เพิ่มสูง ที่จังหวัดพิษณุโลก โดยได้ตรวจเยี่ยมสถานีเฝ้าระวัง N.5A (สะพานเอกาทศรถ) ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการตรวจวัดระดับน้ำและระบบแจ้งเตือนภัยในพื้นที่ ก่อนเดินทางไปศูนย์บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครพิษณุโลก ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ และร่วมกรอกกระสอบทรายกับจิตอาสาและเจ้าหน้าที่เพื่อเสริมแนวคันกั้นน้ำ รวมทั้งสั่งการให้เฝ้าระวังและติดตามพายุโซนร้อน “แมตโม” อย่างใกล้ชิด และได้มอบถุงยังชีพชาวบ้านบางพะยอม ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก ที่ได้รับผลกระทบน้ำน่านเอ่อล้นตลิ่ง

อิ๊งค์ลุยน้ำท่วมอุตรดิตถ์

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ยกเลิกการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมกาญจนบุรี ได้นำทีมเพื่อไทย อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.สาธารณสุข, นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึง สส.อุตรดิตถ์และ สส.พิษณุโลก ลงพื้นที่บ้านวังปรากฏ ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ทั้งนี้ได้รับฟังการรายงานจากกำนันผู้ใหญ่บ้านว่าเป็นน้ำที่มาเร็วและไปเร็ว แม้จะได้รับการแจ้งเตือนแต่ไม่ทันได้ตั้งตัว บางหลังน้ำท่วมมิดหลังคาเลย

ต่อมาคณะได้เดินทางต่อไปยังวัดคีรีวงกฎ ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัยพร้อมให้กำลังใจ โดย น.ส.แพทองธารกล่าวตอนหนึ่งว่า "ดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเจอพี่น้องประชาชน หลังจากพ้นจากตำแหน่งนายกฯ รู้สึกอบอุ่นเสมอทุกครั้งที่ได้มาลงพื้นที่ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ได้รับตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งนายกฯ ว่าการได้มาเจอพี่น้องทุกครั้งก็จะได้รับกำลังใจจากพี่น้องประชาชนทุกครั้งเลย เมื่อสักครู่ที่ได้ไปติดตามพื้นที่ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหมดเลย ไม่เหลืออะไรเลย เห็นใจจริงๆ ค่ะ แต่ถึงไม่เหลืออะไร ยังเหลือกำลังใจเหลือกันและกันที่จะคอยช่วยเหลือ และดิฉันจะคอยช่วยเหลือผ่าน สส. เพื่อให้เร่งเรื่องการช่วยเหลือ ทั้งการสนับสนุนเยียวยาให้ได้โดยเร็ว และดิฉันจะเป็นอีกแรงหนึ่งที่จะช่วยผลักดันผ่าน สส.ทุกคนค่ะ ช่วงนี้อาจจะหนักหน่อย แต่ก็ขอให้กำลังใจทุกๆ ท่านเลยค่ะ”

หลังจากนั้น น.ส.แพทองธารได้นั่งล้อมวงพูดคุยกับชาวบ้านเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ และยังได้เดินเท้าไปหาชาวบ้านแต่ละหลังด้วยตัวเอง โดยมีชาวบ้านนเข้ามาสวมกอดพร้อมชี้ให้เห็นร่องรอยน้ำท่วมที่ทิ้งไว้บริเวณผนังบ้าน               

จากนั้นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยพร้อมคณะเดินเท้าต่อไปยังศาลาการเปรียญวัดศรีสะอาด โดย น.ส.แพทองธารพูดกับประชาชนว่า “วันนี้ดิฉันมาพร้อม สส.เพื่อไทย ดิฉันอยากมาให้กำลังใจพี่น้องทุกท่านด้วยตัวเอง พรรคเพื่อไทยจะดูแลประชาชนให้เต็มที่ให้เต็มความสามารถ ถึงวันนี้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่เรามีกำลังใจทำเพื่อพี่น้องประชาชน อยากให้ทุกคนมีหวัง แน่นอนว่าหากเรายังมีชีวิต มีกำลังใจ คนเข้มแข็งอย่างเราต้องไปต่อได้แน่นอน ขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ” ก่อนจะมอบถุงยังชีพให้ประชาชน

น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ว่า อยากฝากถึงรัฐบาลอุ้มบุญให้ตระหนักว่า การเมืองที่ดีต้องทำอยู่ข้างประชาชน ทำเพื่อประชาชน หน้าที่แรกคือการมองเห็นความเดือดร้อนของเขา และลงมือช่วยก่อนจะสายเกินไป ที่สำคัญเมื่อมีอำนาจรัฐและถือครองงบประมาณของรัฐ ควรเร่งสั่งการให้ใช้งบกลางเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัยโดยด่วน ไม่ใช่รอให้เรื่องกลายเป็นข่าวถึงค่อยขยับ เพราะประชาชนคนไทยวันนี้ไม่ได้ต้องการแค่คำพูด แต่ต้องการการลงมือทำจริง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ชัยภูมิ และฉะเชิงเทรา มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 102,051 ครัวเรือน 345,712 คน และมีผู้เสียชีวิต 12 ราย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ ข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงระยะนี้ หากมีประกาศหรือคำเตือนขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

บางระกำรับน้ำอ่วม

ที่ จ.พิษณุโลก สถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่านที่ผ่านเมืองพิษณุโลก พบว่าช่วงเช้าค่อยๆ ลดระดับลงต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 10.13 เมตร จากจุดวิกฤต 10.37 เมตร ทำให้ทางชลประทานจังหวัดพิษณุโลกได้เปลี่ยนธงแจ้งเตือนจากสีแดงเป็นสีส้ม แต่ก็ยังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะมวลน้ำที่เขื่อนใหญ่ระบายมายังมีมาก ส่วนพื้นที่บางระกำโมเดล คือ อ.พรหมพิราม อ.เมืองฯ และ อ.บางระกำ จากสถานการณ์น้ำท่วมในสุโขทัย ทำให้มวลน้ำได้ไหลเข้าสู่พื้นที่เป็นจำนวนมากเกินเป้าหมายที่ชลประทานกำหนดไว้ คือ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่ล่าสุดพื้นที่บางระกำโมเดลกักหน่วงน้ำไว้ถึง 523.39 ล้าน ลบ.ม.แล้ว หรือ 130.85% ของการกักเก็บ ส่งผลให้ระดับน้ำท่วมขังเฉลี่ยที่ 1.63 เมตร

ที่ จ.พิจิตร ยังคงมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั้งลุ่มน้ำน่าน-ลุ่มน้ำยม โดยหน่วยกู้ชีพกู้ภัยศูนย์พระไวย์ เทศบาลเมืองพิจิตร ได้ลุยน้ำเข้าช่วยเหลือผู้สูงอายุ 80 ปี ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงบริเวณชุมชนหลังสถานีรถไฟ ต.ในเมือง อ.เมืองพิจิตร ซึ่งบ้านอยู่ริมแม่น้ำน่าน                         

ที่บริเวณลานหน้าโบสถ์พระศรีเมืองทอง วัดต้นสน อ.เมืองฯ จ.อ่างทอง เกิดน้ำท่วมขังสูง 30-40 เชนติเมตร หลังน้ำเจ้าพระยาไหลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไหลซึมทะลักเข้าบริเวณวัดต้นสนและกำแพงริมเขื่อนหลายจุด พบแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวแช่อยู่ภายในน้ำ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไหว้พระขอพรนั่งรับประทานแบบที่เท้าแช่อยู่ในน้ำบอกเย็นเจี๊ยบ ทั้งนี้ ทางวัดร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารก็เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกจากบริเวณวัดต่อไป          

ที่บริเวณถนนเทศบาล 8 ริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ตลาดหลวง อ.เมืองฯ จ.อ่างทอง พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนจำนวน 3 หลัง อยู่ในสภาพวิกฤตน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลังน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องลอดผุดริมเขื่อนไหลซึมท่วมบ้านเรือนประชาชน

ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำอัตรา 2,500 ลบ.ม./วินาที แม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.อ่างทอง ระดับน้ำสูง 9.17 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 8 เมตร จากระดับตลิ่งที่มีเขื่อนกั้นน้ำ 10 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,479 ลบ.ม./วินาที

ที่ศาลาประชาคมบ้านนาเพียง ม.4 ต.สำราญ อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น นายชรินทร์ ทองสุข ผวจ.ขอนแก่น ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้าน พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำพอง ซึ่งได้รับความเดือนร้อน 40 หลังคาเรือน ขณะที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำในลำน้ำพองลดลงประมาณ 5 ซม. ภายหลังจากเขื่อนอุบลรัตน์ปรับระดับการระบายน้ำลงเป็น 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และน้ำในลุ่มน้ำนอกเขื่อนก็ลดลงประมาณ 45 ซม.

นานชรินทร์กล่าวว่า ยังต้องต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุลูกล่าสุด  จึงกำชับและสั่งการไปยัง 26 อำเภอให้เตรียมพร้อมรับมือตลอด 24  ชม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง