นายกฯ ปลื้ม "คนละครึ่งพลัส" เกิดแล้ว วางรากฐานให้รัฐบาลหน้าต่อยอดได้ "กนง." เสียงแตก 5 : 2 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อปี ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.2% ส่วนปี 69 เหลือ 1.6% คาดครึ่งปีหลังชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นในรอบ 8 เดือน มีความหวังกับรัฐบาลอนุทิน
ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเดินหน้าโครงการคนละครึ่งพลัส และโครงการอื่นหลังจากนี้ว่า เราพยายามจะวางรากฐานเศรษฐกิจให้มีความแข็งแกร่ง กระจายรายได้ของประชาชน โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีนี้ เราจะใช้เวลา 4 เดือนที่รัฐบาลชุดนี้ทำงานอย่างเต็มที่ วางแนวทางและฐานที่ดี เพื่อที่รัฐบาลชุดต่อไปที่เข้ามาจะได้สามารถเดินหน้าต่อยอดได้ จะมีมาตรการเรื่อยๆ เฟสหนึ่งเฟสสอง
ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้มีเพียงพอใช่หรือไม่นั้น นายอนุทินเผยว่า ตนยึดถือวินัยการเงินการคลังเป็นสำคัญที่สุด ถ้าสังเกตเราไม่ได้ใช้เงินมาแจกประชาชนอย่างเดียว เราให้มีส่วนร่วมของประชาชนด้วย และเราสามารถนำงบ 30,000 ล้านบาทไปชำระหนี้ให้กับ ธ.ก.ส. เป็นการรักษาวินัยการเงินการคลังเป็นที่ประจักษ์ชัด จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลนี้ต้องรักษาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน
วันเดียวกัน นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กนง.ว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี พร้อมประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.2% และปี 2569 ที่ระดับ 1.6% ใกล้เคียงกับที่เคยประเมินไว้ โดยภาคส่งออกเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐอเมริกา ขณะที่การท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มชะลอลงก่อนจะทยอยฟื้นตัวในระยะข้างหน้า
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากราคาในหมวดพลังงานและอาหารสดเป็นสำคัญ แต่ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับลดลงของราคาสินค้าเป็นวงกว้าง ด้านสินเชื่อรวมยังหดตัวและคุณภาพสินเชื่อกลุ่มเปราะบางยังด้อยลง
“คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนคลายเพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการส่งผ่านไปยังภาคเศรษฐกิจ โดยกรรมการส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายการเงินภายใต้ขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (policy space) ที่มีจำกัด จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่กรรมการฯ 2 ท่านเห็นว่านโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ภาวะการเงินสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาด้านสภาพคล่องและภาระหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีและครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง” นายสักกะภพระบุ
ขณะที่ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกันยายน 2568 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ปรับตัวจากเดือน ส.ค. ที่ระดับ 44.1 มาอยู่ที่ระดับ 44.4 ในเดือน ก.ย. ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจในปัจจุบันปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 โดยปรับตัวลดลงจากระดับ 32.2 ในเดือน ส.ค. มาอยู่ที่ระดับ 31.1 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจในอนาคต (ใน 6 เดือนข้างหน้า) ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน โดยปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 56.1 มาอยู่ที่ระดับ 57.8 เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังและเชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนายอนุทินจะสามารถใช้นโยบายเช่นโครงการคนละครึ่งพลัส และนโยบายอื่นๆ กระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ แม้จะมีความกังวลกับผลกระทบจากสงครามการค้าของสหรัฐและความขัดแย้งไทย-กัมพูชา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พร้อมหน้า นายกฯหนู โพสต์ภาพพาครอบครัวกินห่านพะโล้ในวันพ่อแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พาพ่อ แม่เมีย น้อง หลาน ไปกินห่านพะโล้เนื่องในวันพ่อ #ฉั่วคิมเฮง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน


