“เพื่อไทย” ตีปี๊บมี 30 สส.เตรียมอภิปรายเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังกั๊กท่าทีหนุนทั้ง 3 ฉบับหรือแค่ของตัวเอง “เปรมศักดิ์” โวยถูกสกัดไม่ให้นั่ง กมธ.รัฐธรรมนูญสัดส่วนสภาสูง “อธิบดีกรมราชทัณฑ์” ปิ๊งไอเดีย เสนอให้ “ทักษิณ” เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษให้ผู้ต้องขัง
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 มีความเคลื่อนไหวในการประชุมรัฐสภาวันที่ 14-15 ต.ค. เพื่อพิจารณาวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 256 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 15/1 โดยนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า แยกออกเป็น 2 ส่วน คือในส่วนผู้อภิปรายมี สส.ที่สนใจลงชื่อลงชื่อไว้ประมาณ 20-30 คน อีกส่วนคือทีมข้อมูลของพรรคที่กำลังทำงานอยู่ เพื่อเตรียมข้อมูลว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่ต้องมีการอภิปราย โดยจะมีผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์เป็นหัวหน้าทีมอภิปราย เช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ, นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงต้องดูว่าใครจะเป็นผู้อภิปรายเปิดหรือผู้อภิปรายปิด
เมื่อถามว่า จะรับหลักการทั้ง 3 ร่างเลยหรือไม่ นายดนุพรกล่าวว่า เรากำลังพูดคุยกันอยู่เรื่องรายละเอียด จริงๆ เราอยากรับ แต่ร่างของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ค่อนข้างแตกต่างจากของพรรค พท. และพรรคประชาชน (ปชน.) อยู่ในเรื่องที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่ไม่มีภาคประชาชนเป็นส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าหากรับไปแล้วจะไปถกเถียงกันไม่จบในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) หรือไม่
ด้านนายเศก จุลเกษร สว. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา กล่าวถึงผลการประชุมคณะ กมธ.พิจารณารายชื่อ กมธ.ในคณะเพื่อตั้งเป็น กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พุทธศักราช.... ในสัดส่วนของ สว.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วมีมติไม่ส่งใครไปเป็น กมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ และให้ กมธ.อื่นๆ ไปจับฉลากกันเองเพื่อให้ครบโควตา
“นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ไม่ได้ไปเป็นตัวแทนของ กมธ.กฎหมายฯ แล้ว เพราะไปออกข่าวดักคอว่าจะมีการทบทวนให้บุคคลอื่นไปเป็น กมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ และเพื่อให้สบายใจกันทั้งหมด ก็ไม่ต้องให้ใครไปเป็น กมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ เลย เพราะในวุฒิสภาก็มีคนเก่งจำนวนมาก ไม่ใช่ไม่มี” นายเศกระบุ
ด้าน นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ ในเมื่อวันที่ 8 ต.ค. กมธ.การกฎหมายฯ ได้ประชุมกันแล้ว และมีมติส่งรายชื่อตนเองเป็นตัวแทน กมธ.ไปให้วิปวุฒิสภา จับสลากเลือกจาก กมธ. 21 คณะ ให้เหลือ 12 คณะ และเมื่อวันที่ 10 ต.ค. วิปวุฒิสภาได้จับฉลากรายชื่อตัวแทน กมธ.ทั้ง 21 คณะแล้ว โดยตนเองถูกจับฉลากได้เป็นรายชื่อแรก จึงหมายความว่าได้เป็นตัวแทน 1 ใน 12 คนเพื่อไปร่วมเป็น กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญฯ แล้ว แต่พอ กมธ.การกฎหมายฯ ทราบ ก็มีการเล่นกลนัดประชุม กมธ.ใหม่ก่อนมีมติว่าจะไม่ส่งใครไปร่วมเป็น กมธ.รัฐธรรมนูญฯ โยนให้วิปวุฒิสภาพิจารณาหาคนใหม่
“ขอถามว่าทำได้ด้วยหรือ ทำไมต้องสกัดผมไม่ให้เป็น กมธ.รัฐธรรมนูญฯ กลัวอะไรนักหนา ทั้งที่ผมมีความตั้งใจจริง เป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสอบถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้หรือไม่ แต่ในขั้นตอนการสรรหาตัวแทนกลับถูกเตะตัดขา สกัดทุกวิถีทาง ปิดปาก สว.เสียงข้างน้อย” นพ.เปรมศักดิ์กล่าว
ส่วนนายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรค พท. กล่าวว่า ในวันเสาร์ที่ 11 ต.ค.นี้ กลุ่มคนรักประชาธิปไตยทุกกลุ่มทุกสีเสื้อยังคงมีนัดทานข้าวหน้าเรือนจำกลางคลองเปรมเหมือนทุกเสาร์ ในเวลา 13.00 น. ซึ่งนอกจากเป็นการทานข้าวเป็นเพื่อนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แล้ว ยังเป็นการสื่อสารประเด็นสำคัญของประเทศในวันนี้คือการขับเคลื่อนเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เราเห็นได้ชัดว่า สส.แต่ละพรรควิ่งย้ายพรรค มีการซื้อขายตำแหน่งต่อรองอำนาจ โดยไม่ได้คำนึงถึงเสียงของประชาชนได้เลือกมาตอนเลือกตั้ง แต่กลับทำเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองเท่านั้น
วันเดียวกัน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์กรณีการคุมขังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีแผนฝึกอบรมหรือให้ออกไปบำเพ็ญประโยชน์ ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยให้สัมภาษณ์ว่าคุณพ่ออยากช่วยคุมการลอกท่อ ว่านายทักษิณเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ การให้ไปทำงานต้องคำนึงถึงสุขภาพ จึงอยากให้นายทักษิณไปช่วยเหลือด้านการศึกษา เช่น เป็นอาจารย์ภาษาอังกฤษให้ผู้ต้องขังในเรือนจำมากกว่า แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเริ่มเมื่อใด ต้องเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์เรือนจำ
เมื่อสอบถามถึงการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณนั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ บอกเพียงสั้นๆ ว่าเป็นไปตามขั้นตอน
แหล่งข่าวในกรมราชทัณฑ์กล่าวถึงการขอพักโทษว่า ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ผู้ต้องขังทั่วไปต้องรับโทษมาไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 แต่หากเป็นผู้ต้องขังอายุเกิน 70 ปีขึ้นไป ระเบียบกำหนดต้องรับโทษมาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือไม่น้อยกว่า 6 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อคำนวณโทษออกมาแล้วเงื่อนใดมีโทษมากกว่ากัน โดยให้ยึดตามโทษที่มากกว่า ผู้เข้าหลักเกณฑ์จึงยื่นขอรับการพักโทษได้ จากนั้นกรมราชทัณฑ์ก็จะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการเพื่อพิจารณาที่จะมีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง โดยหลักเกณฑ์นี้เป็นระเบียบที่ใช้กับผู้ต้องขังทุกคน
“กรณีนายทักษิณนั้น กรมราชทัณฑ์เน้นดูแลใน 2 เรื่อง คือการดูแลสุขภาพ ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องความปลอดภัยและการป้องกันความขัดแย้งทางการเมืองภายในเรือนจำ ส่วนประเด็นการให้ไปบำเพ็ญประโยชน์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องขัง หากทำได้เรือนจำก็พร้อมสนับสนุน”
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 ต้องเป็นนักโทษประหารชีวิตหรือไม่นั้น ไม่จำเป็น การขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายบุคคลเป็นสิทธิของผู้ต้องขังทุกคน โดยในชั้นเรือนจำ และกรมราชทัณฑ์ ทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารว่าครบถ้วนหรือไม่ โดยเป็นพระราชอำนาจวินิจฉัยต้องส่งไปตามขั้นตอน ยกตัวอย่างกรณีนายบรรยิน ตั้งภากรณ์ เคยถูกตัดสินประหารชีวิต ก็ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ แต่หากฎีกาถูกยกคือไม่ลดโทษให้ และอีก 2 ปีจึงขอยื่นได้ใหม่อีกครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


