‘พรรคส้ม’คึกฉีกรธน. สว.คาใจแก้หมวด1-2

พรรคประชาชนเตรียม 20 ขุนพล ฉีกรัฐธรรมนูญ 2560 ยันพร้อมโหวตให้ทั้ง 3 ร่าง  คุยกับ สว.แล้วส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่ “พิสิษฐ์”  ติดใจแก้หมวด 1 หมวด 2 ของพรรคประชาชน   แต่ภาพรวมน่าจะผ่านหลักการวาระ 1 ทุกร่าง

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.)  ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายในวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 256 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 15/1 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เป็นนโยบายของพรรคมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้มีผู้ยื่นความจำนงขออภิปรายมาประมาน 30 คน ซึ่งคณะกรรมการกิจการสภาของพรรคประชาชนกำลังพิจารณาเลือกว่าจะมีผู้ใดเป็นผู้อภิปรายบ้าง

เขากล่าวว่า ผู้อภิปรายบางส่วนจะใช้แนวทางเดิม โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.ทำให้เห็นว่าความสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญคืออะไร ให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญส่งผลกระทบต่อปากท้อง รวมถึงปัจจัยที่จะทำให้การแก้ปัญหาของประชาชนดีขึ้น

2.การแก้ในรอบนี้ไม่ใช่การแก้เนื้อหาทั้งหมด  แต่เป็นการเปิดประตู ปลดล็อก ทำให้เกิดกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่พยายามเชื่อมโยงกับประชาชนให้มากที่สุด แม้ประชาชนจะไม่ได้เลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยตรง ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในส่วนนี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน จะเป็นผู้อภิปรายหลัก

3.อธิบายต่อข้อสงสัยต่างๆ เช่น รูปแบบ ส.ส.ร.ที่ใช้ในร่างของพรรคประชาชน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ว่าจะได้ผู้ยกร่างที่มีความหลากหลาย ไม่ถูกเรียกว่าสีนั้นสีนี้ รวมถึงข้อสงสัยว่าการแก้ครั้งนี้จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และจะนำไปสู่การทำประชามติอย่างไร โดยตนจะเป็นผู้ทำความเข้าใจกับเพื่อนสมาชิกในระหว่างการอภิปราย

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า จำนวนผู้อภิปรายทั้งหมด คร่าวๆ น่าจะอยู่ที่ 20 คน ตามกรอบระยะเวลา 3 ชั่วโมงที่พรรคประชาชนได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนจะโหวตให้ร่างแก้ไขทั้ง 3 ฉบับหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า อยู่ระหว่างการพูดคุยทั้งกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง และพรรคการเมืองทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในแง่ของหลักการ ร่างของพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้แตกต่างกันมาก คือปลดล็อกกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มีความแตกต่างในรายละเอียด ซึ่งคงจะตัดสินใจลงมติโดยใช้หลักการ

ทั้งนี้ อยากให้มีการโหวตครั้งเดียวเพื่อรับหลักการทั้ง 3 ร่างด้วยซ้ำ แต่หากมีการเสนอให้โหวตแยกร่าง ทางพรรคประชาชนก็อยากสนับสนุนทุกร่าง เพราะเป็นชั้นรับหลักการ ส่วนรายละเอียด เป็นกระบวนการที่กรรมาธิการ (กมธ.) ต้องไปพิจารณาอีกครั้ง

อ้าง สว.ส่วนใหญ่อยากแก้ รธน.

เมื่อถามถึงท่าทีของ สว. แกนนำพรรคประชาชนผู้นี้เผยว่า มีการพูดคุยกับ สว.บางคน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้ไขครั้งนี้ แต่บางคนยังเห็นต่างในรายละเอียด จึงยังบอกทิศทางไม่ได้ว่า สว.จะเห็นไปในลักษณะใด แต่หากมีการตั้งคำถามมาถึงร่างของพรรคประชาชน เราก็พร้อมอธิบายให้ สว.สบายใจ

นายณัฐวุฒิยังเปิดเผยอีกว่า ในส่วนการเสนอชื่อบุคคลเข้าไปเป็น กมธ.วิสามัญ พรรคกำลังพิจารณาอยู่ แต่นายพริษฐ์คงจะเป็นหนึ่งในคนที่เข้าไปผลักดันในชั้น กมธ.ด้วย ทั้งนี้ ตนเห็นบางพรรคให้ข่าวว่าจะมีการทาบทามนักวิชาการเข้ามา จึงขอเรียนว่า เงื่อนไขรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่า กมธ.วิสามัญในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ จะต้องเป็นสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น จึงไม่สามารถให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็น กมธ.ได้ นอกจากเข้ามาเป็นในฐานะที่ปรึกษา

นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นผู้อภิปรายของพรรคเพื่อไทยได้มีการวางเนื้อหาและข้อมูล แต่คงจะมีการวางเส้นเรื่องอีกครั้งว่าใครจะอภิปรายประเด็นใดให้ร้อยเรียงกัน ส่วนจะอภิปรายเน้นหนักไปที่เรื่องใดมากที่สุดนั้น จริงๆ ได้วางไว้หลายแบบ ซึ่งหลักๆ ที่ต้องคุยกันคือ วิธีการเลือกกลุ่มที่จะมาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็ได้วางเผื่อไว้ว่าอาจจะต้องไปถึงการอภิปรายเพื่อชี้แจงด้วยว่ามีปัญหาอย่างไร ทำไมต้องแก้

สว.ติดใจพรรคส้มแก้หมวด 1-2

เมื่อถามว่า เบื้องต้นในพรรคได้คุยกันหรือไม่ว่า ใน 3 ร่าง ได้แก่ ของพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะเอาของพรรคใดเป็นร่างหลัก นายศรัณย์กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกัน แต่อาจจะต้องมีการดูหน้างานอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คิดว่าทุกพรรคมั่นใจในร่างของตัวเอง ซึ่งหากต่างคนต่างโหวต ทุกคนก็อยากให้เริ่มด้วยการที่เห็นไปด้วยกันระดับหนึ่ง ฉะนั้นต้องคุยกับตัวแทนของแต่ละพรรคอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า โดยส่วนตัวของตนได้อ่านหมดแล้วทั้ง 3 ร่าง ดังนั้นในการพิจารณารับหลักการวาระที่หนึ่ง ก็คงจะรับทุกร่าง เพราะแต่ละร่างก็มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย จะบอกว่าร่างใดร่างหนึ่งดีทั้งหมดแล้วเอาไปใช้เลยมันไม่มี ก็ต้องนำมาพูดคุยกันทั้ง 3 ร่างในวาระที่สอง ว่าจะเอาส่วนดีของร่างไหนมาพิจารณา ซึ่งก็เหมือนกับกฎหมายทั่วไป

เมื่อถามว่า มองดูแล้ว สว.คนอื่นจะรับหลักการวาระหนึ่งทั้ง 3 ร่างหรือไม่ นายพิสิษฐ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วใช้เสียง สว.แค่ 1 ใน 3 ประมาณ 67 เสียง ซึ่งไม่เยอะ 67 เสียง ดังนั้นในส่วนตัวจึงคิดว่าน่าจะผ่านวาระที่ 1 ทั้ง 3 ร่าง

ต่อข้อถามว่า ในร่างของพรรคประชาชนมีติดใจตรงไหนหรือไม่ถึงให้ผ่านได้ สว.ผู้นี้ตอบว่า ติดใจเรื่องแก้หมวด 1 หมวด 2 เพราะส่วนตัวไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว และอีกประเด็นคือการเลือก ส.ส.ร.  ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าห้ามเลือกโดยตรงจากประชาชน ซึ่งในร่างของพรรคประชาชนก็จะมี 2 ประเด็นนี้เป็นหลักที่ติดใจ แต่มีประเด็นอื่นที่ดีก็อาจจะต้องเอามาใช้บ้าง เพราะฉะนั้นส่วนตัวจึงรับทั้ง 3 ร่างก่อน แล้วค่อยมาพิจารณาอีกทีว่าจะใช้อันไหนบ้าง

ไม่เอา 'หมอเปรมศักดิ์' 

ส่วนรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของ สว.ที่ยังมีปัญหาอยู่นั้น นายพิสิษฐ์กล่าวว่า รายชื่อทั้งหมดเราเริ่มต้นจากให้วิปวุฒิสภากำหนดให้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.)พัฒนาการเมือง ได้โควตาไปก่อน 1 รายชื่อ ในทั้งหมด 12 รายชื่อ จึงเหลือ 11 รายชื่อจาก 20 กมธ.สามัญประจำวุฒิสภา ซึ่งนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ในฐานะเลขานุการวิปวุฒิสภา เป็นผู้จับฉลากเอง ซึ่งตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ก็มี กมธ.การกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา ที่เป็นปัญหา และเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ได้คุยกับเลขานุการ กมธ.การกฎหมายฯ เขาบอกว่าคนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมวันนั้นก็เหมือนกับไม่พอใจว่าทำไมให้ชื่อ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.กมธ.ไปเป็น กมธ.วิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ เลย โดยที่เขายังไม่รู้เลยทำไมเป็นอย่างนี้ ทำให้มีการทะเลาะกันในที่ประชุม จนล่าสุดเห็นมีบันทึกออกมา ซึ่งน่าจะส่งไปยังนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ ส่งคืนโควตานี้ไปดำเนินการใหม่

เมื่อถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะให้ สว.คนใดมาเป็น กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญฯ แทน นายพิสิษฐ์​กล่าวว่า คงต้องจับฉลากใหม่อยู่ดี โดยจับเฉพาะ กมธ.ที่ไม่ได้คราวที่แล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 9 คณะ ก็จะจับขึ้นมาอีกหนึ่งให้ไปเป็นตัวแทน  อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบด้วยซ้ำไปว่าทาง กมธ.การกฎหมายฯ ส่งชื่อ นพ.เปรมศักดิ์แต่แรก แต่เมื่อทาง กมธ.การกฎหมายฯ ถอนออกไปแล้วก็คงเอาตามมติของ กมธ.การกฎหมายฯ เป็นหลัก  ส่วนที่ นพ.เปรมศักดิ์จะนำเรื่องนี้ไปพูดในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็คงห้ามไม่ได้ เพราะจริงๆ  เรื่องนี้อยู่ที่มติของ กมธ.การกฎหมายฯ เราก็ต้องยึดตามนั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)