สิงห์นํ้าเงินผงาด!หนูปัดเอาคืนแดง

“นายกฯ หนู” ประชุม ครม.ที่รัฐสภา เคาะโยกย้ายข้าราชการระดับสูงมหาดไทย 45 ตำแหน่ง บอกปลัด มท.เป็นผู้เสนอ ยึดหลักคืนความเป็นธรรมจากรัฐบาลเก่า  เด้งผู้ว่าฯ จังหวัดใหญ่ทั้งเชียงใหม่-ขอนแก่น-อุบลฯ-สงขลา นั่งตบยุงกรุผู้ตรวจฯ ส่วนสิงห์น้ำเงินที่สนิทบ้านใหญ่สายอ่างทอง-อุทัยฯ-บุรีรัมย์ผงาด พร้อมเคาะ 2 โฆษกหญิง

เมื่อวันอังคารที่ 14 ต.ค.2568 มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ  CB 406 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา แทนทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากมีการประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวช่วงต้นการประชุมขอบคุณ ครม.ที่ได้ติดตามประสานงานต่างๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และลงพื้นที่ดูแลประชาชนจากเหตุการณ์อุทกภัยและเรื่องที่เดือดร้อน โดยนายกฯ ยังได้นำหนังสือธรรมนาวา วัง หนังสือคู่มือชีวิตพระราชทาน และพระคติธรรมของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในกรอบรูปมอบให้ ครม.ทุกคนด้วย

ทั้งนี้ นายกฯ ได้ใช้รถยนต์ประจำตำแหน่งเป็นวันแรก จากเดิมใช้รถยนต์ส่วนตัวโรลส์-รอยซ์  ทะเบียน วอ 3333 กรุงเทพมหานคร มาเป็นรถยนต์ Mercedes-Benz S600 Guard Sedan Long สีดำ ทะเบียน 4 กค 29 กรุงเทพมหานคร  ซึ่งเป็นรถยนต์กันกระสุนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยใช้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ แต่เกิดปัญหา กองยานพาหนะ อาคารและสถานที่ทำเนียบฯ ได้นำรถกลับไปซ่อมบำรุง และเปลี่ยนเป็นรถยนต์ Mercedes-Benz S600 Guard Sedan Long สีดำ ทะเบียน 4 กฎ 29 กรุงเทพมหานคร มาให้ แต่ปรากฏว่าเกิดการขัดข้องอีกเช่นกัน ล่าสุดจึงเปลี่ยนนำรถยนต์ส่วนตัวโรลส์-รอยซ์มาใช้ตามเดิม

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เสนอ แต่งตั้งนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ และยังเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมืองทั้งที่ปรึกษาและเลขานุการในหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม,  กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการอุดมศึกษาฯ, กระทรวงกลาโหม  และกระทรวงการคลัง เป็นต้น

นายสิริพงศ์กล่าวอีกว่า ครม.ยังมีมติแต่งตั้ง น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา ผู้ชำนาญการของนายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และ น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ อดีตโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ด้วย

 มีรายงานว่า น.ส.ลลิดานั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรฯ จากกลุ่ม 16 เป็นผู้เสนอ

นายสิริพงศ์แถลงอีกว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 45 ตำแหน่ง ซึ่งนายกฯ ได้ให้แนวทางกับปลัด มท. ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ซึ่งครั้งนี้เป็นการแต่งตั้งตามรอบปกติ เนื่องจากมีทั้งข้าราชการที่เกษียณและข้าราชการใหม่ โดยยึดหลักคืนความเป็นธรรมให้บางคนที่อาจถูกกลั่นแกล้งจากการแต่งตั้งโยกย้าย 3 ครั้งที่ผ่านมา ในช่วง 2 เดือนก่อน เพราะครั้งที่แล้วมีการแต่งตั้งถึง 3 ครั้ง ในเวลาแค่ 1 เดือน นอกจากนี้ยังยึดหลักใช้คนให้ถูกกับงาน และใช้หลักคุณธรรม เป็นไปตามหลักการของกระทรวงมหาดไทย และรายชื่อตำแหน่งต่างๆ ก็ได้รับการเสนอจากปลัด มท.ทั้งสิ้น

เปิดรายชื่อ 45 เก้าอี้

สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายทั้ง 45 ราย ประกอบด้วย 1.นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นรองปลัด มท. 2.นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าฯ สงขลา เป็นรองปลัด มท. 3.นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นรองปลัด  มท. 4.นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าฯ ขอนแก่น เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 5.นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี เป็นผู้ตรวจฯ 6.นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เป็นผู้ตรวจฯ 7.นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าฯ สตูล เป็นผู้ตรวจฯ 8.นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าฯ หนองคาย เป็นผู้ตรวจฯ 9.นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ผู้ว่าฯ ระนอง เป็นผู้ตรวจฯ 10.นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี เป็นผู้ตรวจฯ

11.นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ตรวจฯ  เป็นอธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) 12.นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) 13.นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัด มท. เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 14.นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าฯ อุทัยธานี เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 15.นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) 16.นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าฯ กระบี่ 17.นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าฯ สกลนคร เป็นผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ 18.นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี อธิบดีกรมที่ดิน เป็นผู้ว่าฯ ขอนแก่น 19.นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัด มท. เป็นผู้ว่าฯ เชียงราย 20.นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าฯ เชียงราย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่

21.นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี เป็นผู้ว่าฯ ตราด 22.ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าฯ นครพนม 23.นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา 24.น.ส.ชุติพร เสชัง ผู้ว่าฯ  แม่ฮ่องสอน เป็นผู้ว่าฯ นครสวรรค์ 25.นายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดี ปภ. เป็นผู้ว่าฯ นนทบุรี  26.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี 27.นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา 28.นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าฯ นนทบุรี เป็นผู้ว่าฯ  พิษณุโลก 29.ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดี สถ. เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี  30.นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดี ปค. เป็นผู้ว่าฯ ภูเก็ต

 31.นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าฯ ลำปาง เป็นผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน 32.นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี เป็นผู้ว่าฯ ระยอง 33.นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าฯ ลำพูน เป็นผู้ว่าฯ ลำปาง 34.นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ เป็นผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ 35.นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล ผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าฯ สกลนคร 36.นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าฯ กระบี่ เป็นผู้ว่าฯ สงขลา 37.นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าฯ นครสวรรค์ เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ 38.นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าฯ ตราด เป็นผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี 39.นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองปลัด มท. เป็นผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี 40.นายศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เป็นผู้ว่าฯ หนองคาย 41.นายสุรศักดิ์ อักษรกุล อธิบดี พช. เป็นผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู 42.นายนที มนตริวัต ผู้ว่าฯ ชัยนาท เป็นผู้ว่าฯ อ่างทอง 43.นายสันติ รังษิรุจิ ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ 44.นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผู้ว่าฯ สิงห์บุรี เป็นผู้ว่าฯ อุทัยธานี และ 45.นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

นายสิริพงศ์ยังแถลงอีกว่า ครม.ยังมีมติเห็นชอบรับโอนนางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกฯ (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  (สปน.) ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 ก่อนหน้านี้ ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นางนิชาดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายบริหาร แต่ต่อมาเมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เข้ารับตำแหน่งนายกฯ นางนิชาได้ถูกโอนไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำ สปน. กระทั่งในรัฐบาลนายอนุทินได้โอนนางนิชากลับมายัง สลน. ซึ่งเป็นต้นสังกัดเดิม

หนูลั่นไม่ได้เอาคืน

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงการโยกย้ายข้าราชการ มท. ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเกมเอาคืนหรือไม่ว่า ไม่มีๆ และเมื่อถามว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ถือเป็นการคืนความเป็นธรรมให้ผู้ที่ถูกโยกย้ายครั้งก่อนหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า  ครับ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัด มท.เป็นคนย้าย ตนเป็นเพียงผู้ที่นำเรื่องดังกล่าวบรรจุเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ตามที่ปลัดเสนอเข้ามา

เมื่อถามว่า เมื่อเห็นรายชื่อแล้วมองว่าเหมาะสมใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ดูตามข้อกฎหมาย เพราะแต่งตั้งปลัดได้คนเดียว และปลัด มท.ก็ไม่ได้ปรึกษา

ถามอีกว่า หากเป็นเช่นนั้นแสดงว่าการโยกย้ายในยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ปลัด มท.เป็นผู้เสนอมาเช่นเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามพรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติ ครม.ที่โยกย้ายข้าราชการ มท. 45 ตำแหน่ง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า เป็นการจัดทัพที่เห็นชัดเจนว่าสิงห์น้ำเงินผงาด และล้างบางขั้วนายภูมิธรรม  เวชยชัย สมัยเป็น รมว.มหาดไทย เหตุอธิบดีหลายกรมที่ถูกเด้งออกจากไลน์ตำแหน่งหลักของ  มท.ล้วนขึ้นมาในยุคนายภูมิธรรม ไม่ว่าจะเป็นนายนิรัตน์ ที่นายภูมิธรรมดันจากผู้ว่าฯ เชียงใหม่ให้เข้ามาเป็นอธิบดี ปค. โดยเป็นที่รู้กันดีว่าได้แรงหนุนจากสายเจ๊แดง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีต รมช.การคลัง  แต่เมื่อขั้วอำนาจเปลี่ยน นายนิรัตน์เลยโดนเด้งจากอธิบดี ปค.ไปเป็นผู้ว่าฯ ภูเก็ต ซึ่งดีกว่าเข้ากรุผู้ตรวจฯ

รายงานระบุอีกว่า นายนฤชา อดีตผู้ว่าฯ  บุรีรัมย์ น้องรักนายเนวิน ชิดชอบ และก่อนหน้านี้ก็เป็นอธิบดี สถ. แต่โดนนายภูมิธรรมเด้งเข้ากรุผู้ตรวจฯ คราวนี้ได้กลับมาผงาดเป็นอธิบดี ปค. เพื่อรองรับการยุบสภาและเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมานายนฤชาก็เคยไปร่วมปรากฏตัวที่พรรคภูมิใจไทย เช่น ตอนรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอนุทินเป็นนายกฯ เมื่อ 7 ก.ย.2568

นอกจากนี้ ยังมีการเด้งนายเชษฐา พ้นอธิบดี ปภ.ไปเป็นผู้ว่าฯ นนทบุรี เพราะนายเชษฐาสมัยเป็นรองปลัด มท. นายภูมิธรรมตั้งให้เป็นประธานกรรมการพิจารณากรณีเขากระโดง และมีความเห็นให้กรมที่ดินเพิกถอนที่เขากระโดง 5,083 ไร่ จนนายภูมิธรรมและนายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีต รมช.มหาดไทย เอาผลสรุปไปแถลงข่าว ซึ่งเดิมทีนายภูมิธรรมจะให้เป็นอธิบดีกรมที่ดิน แต่สุดท้ายก็ไปเป็นอธิบดี ปภ. แต่รอบนี้โดนเด้งไปเป็นผู้ว่าฯ  นนทบุรี ส่วนคนที่มาคือ นายธีรพัฒน์ ที่แนบแน่นกับบ้านใหญ่อุทัยฯ ตระกูลไทยเศรษฐ์ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงสมัยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ นั่ง รมช.มหาดไทย

ส่วนการเด้งนายขจรเกียรติจากตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดินไปเป็นผู้ว่าฯ ขอนแก่น ในช่วงปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการปีหน้า โดยถูกมองเป็นการลดชั้น แต่ จ.ขอนแก่นเป็นจังหวัดใหญ่ มีความสำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจของภาคอีสาน ซึ่งอาจเหมาะกับนายขจรเกียรติที่เติบโตบนเส้นทางพ่อเมืองมาตลอดมากกว่า  เพราะเป็นผู้ว่าฯ มาแล้วหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง, อุทัยธานี, ฉะเชิงเทรา และนครศรีธรรมราช ทำให้รู้จักเครือข่ายคนในพรรคสีน้ำเงินหลายคน ทั้งบ้านใหญ่อ่างทอง ปริศนานันทกุล  และบ้านใหญ่อุทัยธานี จึงไม่โดนเด้งเข้ากรุผู้ตรวจฯ ส่วนคนที่มาเป็นอธิบดีกรมที่ดินคือนายพรพจน์ อดีตอธิบดีกรมที่ดิน ที่ยุคนายภูมิธรรมขอย้ายตัวเองออก และนายภูมิธรรมส่งไปเป็นรองปลัด มท. แต่สุดท้ายนายพรพจน์ที่เกษียณปีหน้า 2569 ก็ได้กลับกรมที่ดินอีกรอบ เพราะตอนเป็นอธิบดีกรมที่ดินเคยยืนกรานว่าที่ดินเขากระโดงกว่า 5,000 ไร่ของราษฎรร่วม 995 ราย ที่มีตระกูลชิดชอบครอบครองอยู่ด้วยกว่า 1,000 ไร่ ไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะที่เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาก่อนหน้านี้ให้เพิกถอน 35 ราย ผูกพันเฉพาะคู่ความไม่ผูกพันบุคคลอื่น การรถไฟฯ ต้องไปฟ้องคดีกันใหม่ก่อนจนได้ข้อยุติถึงจะเข้าข่ายตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 อันเป็นความเห็นที่บ้านใหญ่บุรีรัมย์ยืนกรานแนวนี้มาตลอด จึงไม่แปลกที่นายเนวินจะดันให้นายพรพจน์กลับมาคุมกรมที่ดินอีกรอบ

ลดเสียงวิจารณ์

ส่วนการเด้งนายสุรศักดิ์ จากตำแหน่งอธิบดี พช. เป็นผู้ว่าฯ หนองบัวลำภูตามเดิม และโยกเอาคนเดิมคือนายสยาม ผู้ว่าฯ สมุทรปราการกลับมาเป็นอธิบดี พช. ทำให้นายสยามที่เคยเป็นผู้ว่าฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์มหาดไทยคือ 44 ปี ก็โยกจากผู้ว่าฯ กลับมาเป็นอธิบดีอีกรอบ และยังมีการเด้ง ร.ต.ท.ภพชนก ที่ขึ้นมาเป็นอธิบดี สถ.ยุคนายภูมิธรรมกลับที่เดิมเป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี แล้วโยกนายธีรุตม์ ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี มาเป็นอธิบดี สถ.แทน  โดยมีกระแสข่าวว่าได้แรงหนุนจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม      

 สำหรับผู้ว่าฯ สายสิงห์น้ำเงินที่เคยโดนเด้งเข้ากรุ โยกย้ายออกจากตำแหน่งหลักเช่นจากจังหวัดใหญ่ไปจังหวัดเล็กในช่วงนายภูมิธรรม  พบว่ารอบนี้กลับมาผงาดอีกครั้ง เช่น นายณรงค์  ที่เป็นผู้ตรวจฯ ก็ได้เป็นผู้ว่าฯ อุบลราชธานี และนายชวนินทร์ ผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ส่วนผู้ว่าฯ ที่ได้ดียุคนายภูมิธรรม เช่น นายทศพล ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ก็โดนแจ็กพอตเข้ากรุผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นต้น ซึ่งโผมหาดไทยรอบนี้ แม้สิงห์มหาดไทยที่เคยผงาดยุคนายภูมิธรรมโดนย้ายออกจากตำแหน่งหลัก แต่หลายคนยังได้เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดใหญ่ จึงทำให้ลดแรงกระเพื่อมใน มท.ไปได้พอสมควรว่าไม่ถึงกับเป็นการล้างบางเช็กบิลเอาคืน

วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่น่าสนใจมีรายชื่อของนายอนุทิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย โดยยื่นเอกสารเพิ่มเติม 34 แผ่น และมีทรัพย์สินเพิ่มเติมที่แจ้งเพิ่มคือ ร้านกาแฟของ น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ คู่สมรสที่อยู่กินกันฉันสามีภริยา 2 ร้านคือ ร้านจ่าจ้าคอฟฟี่ มูลค่า 10 ล้านบาท และร้านจาริสต้า มูลค่า 5 ล้านบาท.