บวรศักดิ์ลุ้นแก้รธน.วาระ3

“บวรศักดิ์” เผยอย่าเพิ่งกังวลที่รัฐสภาใช้ร่างแก้ไข รธน.ของพรรคประชาชนเป็นหลัก แนะให้ดูวาระ 3 ว่าแก้อะไรบ้าง โดยเฉพาะหมวด 1 และหมวดพระมหากษัตริย์ เช็กชื่อ "สส.-สว." หนุน "พรรคส้ม" พบสภาสูงยกมือโหวต 27  เสียง หาย 37 ขณะที่เพื่อไทยตบเท้าสางแค้นสำเร็จ ด้าน "ชาติไทยพัฒนา" พร้อมใจไม่ปรากฏยกพรรค

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีข้อสังเกตหากรัฐบาลอยู่ไม่ครบ 4 เดือน จะกระทบกับไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน  เป็นเรื่องของสภา แต่ถ้ามีการยื่นยุบสภาก่อน รัฐธรรมนูญถึงจะชะงัก แต่ถ้ารัฐธรรมนูญอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แล้วมีเหตุอื่น เปลี่ยนรัฐบาล สภาก็ดำเนินเรื่องไป แต่ถ้ายุบสภาก็จบ แต่รัฐบาลใหม่ที่มาหลังจากการเลือกตั้ง สามารถขอให้สภาหยิบขึ้นมาพิจารณาได้ภายใน 60 วัน

รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องรัฐบาลสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน หากจะถามเรื่องเนื้อหาการเมือง ให้ไปถามพรรคการเมือง  รัฐบาลมีหน้าที่เดียวคือ เมื่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญผ่านรัฐสภาแล้ว รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญบังคับให้รัฐบาลต้องไปขอประชามติว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ คำถามแรกเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคำถามที่สอง เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับรูปแบบ ขั้นตอนกระบวนการและหลักการพื้นฐานที่ปรากฏในร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งมานี้หรือไม่ ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จ ประชามติก็เหลือคำถามเดียวคือ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ส่วนคำถามที่สอง จะทำได้ต่อเมื่อรัฐสภาเห็นชอบรัฐธรรมนูญแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สภาเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชน.เป็นร่างหลัก มีความกังวลจะเปิดโอกาสให้แก้หมวด 1 และหมวด 2 นั้น  นายบวรศักดิ์ชี้แจงว่า ต้องดูร่างที่สภาผ่านในวาระ 3 ส่วนวาระ 1 และ 2 ไม่สำคัญ เพราะกว่าจะถึงวาระ 3 จะแก้อะไรก็แก้ได้ หมวด 1 หมวด 2 ที่กังวลว่าจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องดูร่างสุดท้ายที่สภาลงมติในวาระที่ 3

เมื่อถามถึงกรณีมีการไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ถ้ามีการร้องศาลรัฐธรรมนูญ และอยู่ระหว่างการวินิจฉัย จะเอาเนื้อหารัฐธรรมนูญไปทำประชามติในวันที่ 29 มี.ค.ไม่ได้  จะถามได้เพียงคำถามเดียวว่าเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงคะแนนจะใช้ร่างรัฐธรรมนูญของพรรคใดเป็นร่างหลักในการพิจารณาชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับพรรคประชาชนได้รับคะแนน 292 คะแนน ขณะที่ร่างของพรรคภูมิใจไทยได้รับคะแนน 295 คะแนน  เฉียดฉิวกันเพียงแค่ 3 คะแนนนั้น ทำให้สมาชิกรัฐสภาขอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขณะนั้น นับคะแนนใหม่ ซึ่งผลปรากฏว่าที่ประชุมได้ดำเนินการลงมติแบบขานชื่อตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา จากการตรวจสอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับพรรค ปชน. ซึ่งเป็นของพรรคฝ่ายค้าน ได้รับคะแนนสนับสนุนมากกว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับของพรรค ภท.ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล ด้วยคะแนน 300 ต่อ 287

อย่างไรก็ตาม พบข้อมูลว่าเสียงที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญจากฝ่ายค้านชนะ มาจากเสียงของพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคเป็นธรรม พรรคไทรวมพลัง พรรคชาติพัฒนา

นอกจากนี้ ยังมีเสียงของ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ และกลุ่มสีขาวอีก 27 คนให้การสนับสนุน อาทิ นายชิบ จิตนิยม, นายชูชีพ เอื้อการณ์, นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย, นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร, น.ส.นันทนา นันทวโรภาส, นางประทุม วงศ์สวัสดิ์, นายประภาส ปิ่นตบแต่ง, น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, นายเศรณี อนิลบล, พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง, นางอังคณา นีละไพจิตร, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และนายพรชัย วิริยเลิศพันธุ์ เป็นต้น

สำหรับผู้ที่ไม่ลงมติในรอบการขานชื่อ พบว่ามีหลายพรรคที่น่าสนใจ เริ่มตั้งแต่พรรคชาติไทยพัฒนา หายยกพรรคทั้ง 10 คน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ 15 คน อาทิ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ, นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และนายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รวมถึงตระกูลขาวทอง จากสงขลาทั้ง 3 คน พรรคกล้าธรรม หาย 3 คน ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงนายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ หาย 9 คน เช่น นายชัชวาลล์ คงอุดม สส.บัญชีรายชื่อ, พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร สส.นครปฐม, นายอนุชา นาคาศัย สส.บัญชีรายชื่อ,   พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น

ทั้งนี้ จะมี สส.ขาดการประชุมและไม่มาลงมติเป็นขาประจำ ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ

ส่วน สว.ที่ไม่ลงมติในรอบขานชื่อ มีจำนวน 37 คน ซึ่งหลายคนเป็น สว.สีน้ำเงิน อาทิ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์, นายอลงกต วรกี, นายกมล รอดคล้าย, นายพิศูจน์ รัตนวงศ์, นายยะโก๊ป หีมละ,  นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว

นอกจากนั้นยังมี สว.กลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ร่วมลงมติ  อาทิ นายบุญส่ง น้อยโสภณ, นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม, นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย, นายนพดล อินนา, นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา, นายมานะ มหาสุวีระชัย

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติรับหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่… พ.ศ..… โดยใช้ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลักว่า ก็ต้องยอมรับว่าตามกติการัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย เมื่อเสียงของร่างพรรคประชาชนมากกว่าร่างของพรรคภูมิใจไทย ก็ยอมรับได้ เพราะเป็นกติกาประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีบางส่วนกังวลว่าร่างของพรรคประชาชนจะเปิดทางให้ไปแตะหมวด 1 หมวด 2 นายพิสิษฐ์กล่าวว่า อย่างที่ตนอภิปรายไว้ในสภา ตนมีประเด็นที่ห่วงอยู่ 6 ประเด็น ซึ่งตนจะเข้าไปเป็นกรรมาธิการร่วมด้วย จะพยายามไม่ให้ความสุ่มเสี่ยงที่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก็ต้องคุยกันในกรรมาธิการจริงๆ ว่าเขาพอจะแก้ไขหรือปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง ต้องไปว่ากันในวาระ 2

เมื่อถามว่า หากตกลงกันในกรรมาธิการไม่ได้  แล้วเนื้อหามีความสุดโต่งมากเกินไป จะเปิดช่องให้คนสามารถไปร้องได้หรือไม่ นายพิสิษฐ์กล่าวว่า  ตราบใดที่อยู่ในวาระ 2 ก็ยังอยู่ในขั้นการพิจารณา ตนก็มีอำนาจที่จะสงวนคำแปรญัตติ แล้วไปว่ากันในวาระ 3 อีกที ซึ่งวาระ 3 จะเป็นวาระตัดสินว่าจะรับร่างที่มันออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรได้หรือไม่

ถามว่า ฝั่งพรรคประชาชนก็รู้สึกแปลกใจได้ผ่านเป็นร่างหลัก และมีความกังวลว่าจะโดนหลอกเข้าไปในเกมอะไรหรือไม่ นายพิสิษฐ์ร้อง “โห ไม่มีหรอกครับ” ในความคิดเห็นตนมันไม่มีโดนหลอกครับ จริงๆ แล้วต้องตามกติกาของประชาธิปไตย ตนเห็นว่าพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยก็โหวตสนับสนุนเลยชนะไป ซึ่งท่าทีของ สว.เอาจริงๆ ก็เห็นตามที่โหวต ไม่ได้คุยอะไรกัน เสียงโหวตก็จะเห็นว่าส่วนใหญ่โหวตให้ร่างของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย    กล่าวกรณีพรรคเพื่อไทยโหวตสนับสนุนให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก หลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยถูกตีตกโดย สว.ว่า เราเห็นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนมีความยึดโยงกับประชาชน ในเรื่องที่มาของ ส.ส.ร. ต่างจากร่างของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่มีอะไรยึดโยงกับประชาชนเลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บวรศักดิ์' แถลงตั้งอนุกรรมการ 5 คณะ ถอดบทเรียนมหาอุทกภัยหาดใหญ่

"บวรศักดิ์" แถลงตั้ง 5 อนุกรรมการ ถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย แก้ครบวงจร ตั้งแต่พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา ทำระบบให้ใช้ได้ทุกพื้นที่ รายงานผลทุก 2 สัปดาห์ เผยนำทีมกรรมการ ลงดูหน้างานจริง 6 ธ.ค. หวังคนหาดใหญ่นอนหลับ สบายใจ