นายกฯ อนุทินเยือน "สปป.ลาว" คุยร่วมมือปราบฉ้อโกงออนไลน์-ยาเสพติด-ค้ามนุษย์ พร้อมต่อสาย "ปธน.เกาหลีใต้” ยืนยันไทยพร้อมร่วมมือจัดการปัญหาสแกมเมอร์ในกัมพูชา ย้ำไทยไม่เคยเพิกเฉย แค่ใช้แนวทางสันติเจรจาทางการทูต "เขมร" อ่วม! "สหรัฐ-อังกฤษ" โดดร่วมมือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อสู้กับภัยคุกคามข้ามชาติ "ฮุน มาเนต" หารือทวิภาคีเกาหลีใต้ บอกกัมพูชามีศักยภาพเพียงพอแก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ ไม่ต้องพึ่งเพื่อนบ้านช่วย "ไชยชนก" เล็งเสนอซูเปอร์บอร์ดเปิดช่องโจมตีกลับภัยไซเบอร์เหมือนญี่ปุ่น-เวียดนาม
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2568 เวลา 07.18 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะ ออกเดินทางจากกองบิน 6 ดอนเมือง ไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เนื่องในวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่า การเดินทางเพื่อกระชับสัมพันธไมตรีและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เรื่องพลังงาน ความมั่นคง รวมถึงการแสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งมีเรื่องการปราบแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งถือเป็นการพูดคุยในภาพรวมกันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ในครั้งนี้จะสามารถกวาดล้างสแกมเมอร์ได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ใจเย็นๆ พอถามว่าหากทางการสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ประสานขอความร่วมมือจากไทยในการปราบปรามสแกมเมอร์ จะวางกรอบการทำงานอย่างไร นายอนุทินไม่ตอบคำถาม บอกเพียงว่า “ขอบคุณครับ”
ต่อมาเวลา 09.30 น. นายอนุทินและคณะเดินทางถึงสำนักงานนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ โดยขึ้นแท่นรับความเคารพ ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ร่วมกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว จากนั้นนายกฯ ไทยและนายกฯ สปป.ลาวเป็นประธานร่วมการหารือเต็มคณะ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์และการค้ามนุษย์ โดยไทยจะยกระดับความร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติดและสารตั้งต้น นอกจากนี้ไทยขอให้ลาวมอบหมายหน่วยงานหลักเป็น Contact point เพื่อประสานกับศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์นานาชาติ
ส่วน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพนายอนุทินระหว่างโทรศัพท์หารือกับนายอี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระหว่างเดินทางเยือน สปป.ลาว
ทั้งนี้ นายอนุทินกล่าวแสดงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา ขณะนี้ไทยกำลังเจรจากับกัมพูชาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งชายแดน โดยให้กัมพูชาปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการเจรจา พร้อมขอความร่วมมือประธานาธิบดีเกาหลีใต้ช่วยกดดันกัมพูชา และยืนยันว่าหากไทยสามารถช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ได้ ก็ยินดีทำอย่างเต็มที่ ด้านประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวขอบคุณที่ไทยเคยช่วยชาวเกาหลีใต้ที่ถูกหลอกลวงในเมียนมา และพร้อมให้ความร่วมมือในการปราบปรามสแกมเมอร์อย่างเต็มที่
ไม่เพิกเฉยปราบสแกมเมอร์
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายอนุทินเปิดเผยก่อนการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายอี แจ-มย็อง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีว่า ได้พูดคุยถึงแนวทางความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ ซึ่งกำลังสร้างความเดือดร้อนทั้งกับประชาชนไทยและเกาหลีใต้ พร้อมยืนยันว่าดินแดนของไทยจะไม่มีวันถูกคุกคามหรือรุกรานเป็นอันขาด
"สิ่งที่เห็นว่าสงบ ไม่ได้แปลว่าเราเพิกเฉย แต่เพราะเราทำให้คู่กรณีเข้าใจว่า หากยังรุกรานหรือคุกคามอธิปไตยไทย จะถูกตอบโต้ทันที" นายอนุทินกล่าว
ด้านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของไทย โพสต์ข้อความระบุว่า ไทยยินดีต่อการประกาศมาตรการของสหรัฐอเมริกาในการปราบปรามเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สอดคล้องกับความพยายามของไทยในการทำงานร่วมกับประเทศและภาคส่วนต่างๆ เพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและดำเนินการกับผู้กระทำผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงออนไลน์และศูนย์หลอกลวงออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในภูมิภาคและภายนอก และเชื่อมโยงกับอาชญากรรมข้ามชาติที่ร้ายแรงอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานบังคับ และการฟอกเงิน
ส่วนสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ว่า สหราชอาณาจักรได้ประสานงานกับสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นซึ่งเกิดจากเครือข่ายนี้ โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน
นายสตีเฟน ดาวตี รัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรตระหนักถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมการเงินผิดกฎหมายต่อภูมิภาคนี้ และมุ่งมั่นที่จะทํางานร่วมกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนความพยายามท้องถิ่นในการปราบปรามศูนย์หลอกลวงและเครือข่ายที่ดําเนินการอยู่ในขณะนี้
ที่รัฐสภา นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการปราบสแกมเมอร์ว่า ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย การตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยนายกฯ เป็นสิ่งที่ดีที่ทุกองคาพยพทำงานร่วมกัน ทำให้การแก้ไขทรงพลัง และหากดูจากรายชื่อของคณะกรรมการฯ จะพบว่ามีหลายหน่วยงาน รวมถึงหน่วยงานทหาร
"ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่ผมได้สั่งการให้ศึกษาแล้ว และเตรียมจะเสนอให้คณะกรรมการฯ นั่นคือการศึกษากฎหมายใหม่ Active Cyber Defence 2025 ที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งออกมา ซึ่งมีหลายประเทศทำในลักษณะคล้ายกัน เป็นกฎหมายที่ตอบโต้ทางไซเบอร์ได้ ยกตัวอย่าง มีการคุกคามเราทางไซเบอร์ เราสามารถมีทีมงานเฉพาะหรือคณะกรรมการอนุมัติเรื่องต่อเรื่องและแฮ็กกลับได้ ไม่ได้ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เวียดนามก็ทำ ญี่ปุ่นก็ทำ โดยปลายเดือนนี้ผมจะลงนามความร่วมมือที่สหประชาชาติด้วย" นายไชยชนกกล่าว
ถามถึงกรณีฝ่ายค้านมีการเปิดตัวละครอย่างนายเบน สมิธ มีความสัมพันธ์กับคนในรัฐบาลอย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายไชยชนกกล่าวว่า ในเชิงลึกแบบนี้คงตอบไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
"ตั้งแต่ผมประกาศตัวมาเจออุปสรรครุมเร้ามาก ผมก็สงสัยเหมือนกัน คนคิดดีทำดี ทำงานเต็มที่กลายเป็นว่าโดนหมดทุกทางมากกว่าเดิม เป็นเรื่องที่น่าคิด แต่ก็สรุปอะไรไม่ได้ เราไม่มีหลักฐาน แต่ถ้ามีหลักฐานยังไงก็ดำเนินการเต็มที่ และกลุ่มที่ตั้งข้อสังเกตและนำเสนอ หากมีหลักฐานก็ควรนำมาให้ชัดเจน ช่วยกันดำเนินการเร็วขึ้น" นายไชยชนกกล่าว
เขมรลั่นไม่ต้องพึ่งใครช่วยปราบ
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงกรณีปัญหาสแกมเมอร์อาชญากรรมข้ามชาติว่า พท.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ยกระดับมาตรการปราบปรามขบวนการกล่าวเพื่อไม่ให้ประเทศไทยส่วนหนึ่งของอาชญากรรม โดยดำเนินมาตรการ 3 ตัด คือ 1.ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดการขนส่งน้ำมัน เพื่อสกัดศูนย์กลางสแกมเมอร์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยอาจพิจารณายกระดับจากโมเดลความร่วมมือระหว่างประเทศไทย จีน เมียนมา ที่สำเร็จมาแล้วในสมัยรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 2.กลับมาเข้มงวดเรื่องการปิดเส้นทางธรรมชาติ และ 3.เร่งสานต่องานจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่เกี่ยวข้องอื่น เพื่อตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) ระดมความร่วมมือจากนานาประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม แก้ไขขั้นเด็ดขาดช่วยเหลือเหยื่อกลับบ้าน
"รัฐบาลต้องเจรจากดดันเพื่อให้กัมพูชายอมรับเงื่อนไขข้อที่ 3 คือการร่วมปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งอยู่ในเงื่อนไข 4 ข้อเดิมตามมติ สมช.สมัยรัฐบาล น.ส.แพทองธารเคยเสนอไว้ และให้รัฐบาลกลับมาจริงจังเรื่องของการระงับบัญชีม้าและเร่งออกกฎหมายลำดับรอง เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.ป้องกันและปรามอาชญากรรมด้านไซเบอร์และ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งให้รัฐบาลใช้ศูนย์ AOC 1441 ที่ได้ตั้งขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว เพื่อเป็น One Stop Service ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการหลอกลวงออนไลน์แบบเร่งด่วน" นายประเสริฐกล่าว
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีลงนามในเอกสารตอบกลับข้อสอบถามของนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นทนายความให้กับนายเบนจามิน ถึงสถานะนายเบน สมิธ ไม่เคยถูกกล่าวโทษหรือดำเนินคดีโดยดีเอสไอว่า ดีเอสไอได้ตรวจสอบในฐานข้อมูล ลายพิมพ์นิ้วมือ ฐานข้อมูลหมายจับของดีเอสไอแล้ว ไม่ปรากฏรายชื่อนายนายเบน สมิธ แต่อย่างใด
วันเดียวกัน สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ได้พบและหารือกับนางคิม จี-นา รมช.การต่างประเทศลำดับที่ 2 แห่งสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมคณะ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการฉ้อโกงทางเทคโนโลยี (ออนไลน์สแกม) ซึ่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของกัมพูชาและเกาหลีใต้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้สร้างผลสำเร็จเป็นรูปธรรมหลายประการ และทั้งสองประเทศจะยังคงเสริมสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
"สื่อบางประเทศเพื่อนบ้านระบุผู้นำของประเทศนั้นมีแผนจะหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงทางเทคโนโลยีในกัมพูชา จึงได้แจ้งต่อรัฐมนตรีช่วยคิม จี-นา ให้สื่อสารไปยังประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า หากรายงานนั้นเป็นจริง ขอให้ทราบว่ากัมพูชาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาประเทศใดให้มาดำเนินการแทน และผู้นำประเทศนั้น ควรมุ่งเน้นการแก้ปัญหาภายในประเทศของตนเองให้ดีเสียก่อน" สมเด็จฮุน มาเนต ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
'อนุทิน' บอกถ้าได้เป็นรัฐบาล 'เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์' ร่วมงานต่อ เดินหน้าคนละครึ่ง
"อนุทิน" ระบุแคนดิเดตนายกฯ ยังไม่ตอบรับ แต่ถ้าได้เป็นรัฐบาลยืนยัน "เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์" ร่วมงานต่อ ส่วนจะเปิดตัววันไหนบอกยังมีเวลา ส่วนนโยบายพรรคยังไม่สะเด็ดน้ำ แต่คนละครึ่งพลัสได้ไปต่อ
ศก.สู่ยุคโตตํ่า! คุมเข้มร้านทอง กดเงินบาทแข็ง
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโตต่ำเป็น New Normal หลังกินบุญเก่ามานาน
เลือก‘คำถามประชามติ’ สมควรมีรธน.ใหม่หรือไม่
ครม.เคาะเลือกคำถามประชามติ “สมควรมีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่”
ทุกพรรคจัดทัพลุยเลือกตั้ง
ทุกพรรคพร้อมลุยเลือกตั้ง! "อนุทิน” ยันแคนดิเดตนายกฯ ภท.ไม่มีเซอร์ไพรส์เพิ่ม
พระราชทานเหรียญทองราชินี
"ในหลวง" เสด็จฯ ไปส่ง “พระราชินี” ทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศแข่งขันกีฬาซีเกมส์

