
เป็นการสูญเสีย “แม่ผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทย” นายกฯ กล่าวน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระพันปีหลวง นำ ครม.ยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัยถวาย เผยมติ ครม. สถานที่ราชการลดธง 30 วัน ขรก.ไว้ทุกข์ 1 ปี ปชช.ขอความร่วมมือแต่งดำ 90 วัน ปรับรูปแบบงานรื่นเริงให้เหมาะสมกับบรรยากาศแห่งความอาลัย โดยมิได้มีคำสั่งห้ามหรือมติให้ระงับกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ
เมื่อเวลา 10.14 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) ภายหลังสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสู่สวรรคาลัย
โดยวันเดียวกันนี้ นายกฯ สวมปลอกแขนไว้ทุกข์ และก่อนการประชุม ครม. ระหว่างเดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชาการ 1 นายกฯ มีสีหน้าท่าทีที่เคร่งขรึม ก่อนตอบว่า ขอประชุม ครม.ก่อนเพื่อเตรียมการทุกอย่างให้เรียบร้อย และเมื่อถามว่าภายหลังทราบเรื่องมีความรู้สึกอย่างไร นายกฯ นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยสีหน้าโศกเศร้าและดวงตาแดงก่ำว่า เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม มี ครม.แจ้งลา 4 คน คือ 1.นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ 2.นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) 3.นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม 4. จ.อ.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม
ขณะที่มี ครม.แจ้งประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 11 คน คือ 1.นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี 2.นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี 3.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ 4.พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม 5. นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 6.นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 7.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน 8.น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม 9.นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ 10.น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย และ 11.นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รมช.สาธารณสุข
ในที่ประชุม ครม. นายกฯ ได้กล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศและพสกนิกรในทุกๆ ด้าน ถือเป็นแบบอย่างแห่งความเสียสละ มีความเมตตา เป็นพระมหากรุณาธิคุณ และมีความห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างแท้จริง
นายกฯ กล่าวว่า ในนามคณะรัฐมนตรี ขอให้ทุกท่านร่วมกันแสดงความอาลัย ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งขอให้ถวายงานด้วยความมุ่งมั่น ซื่อสัตย์ และเสียสละ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า มีความสถาพร และให้ประชาชนชาวไทยมีความสุข และก่อให้เกิดความเจริญมั่นคงของประเทศชาติ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรียืนสงบนิ่งแสดงความอาลัยถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีการนัดประชุม ครม.เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมทุกอย่างสำหรับงานพระราชพิธีของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้รับทราบข้อสั่งการต่างๆ เพื่อให้งานพระราชพิธีเป็นไปด้วยความสมพระเกียรติยศสูงสุด ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องการไว้ทุกข์จะดำเนินการอย่างไร นายกฯ ตอบว่า ในส่วนนี้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่งจะมีการลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในส่วนของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขอให้ไว้ทุกข์ด้วยการแต่งกายเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ในส่วนของประชาชนทั่วไป ขอให้พิจารณาดำเนินตามความเหมาะสม แต่เบื้องต้นตนขอความกรุณาว่า ในฐานะเราเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน ขอให้ร่วมมือ ถ้าแต่งสีดำไม่ได้ก็ให้แต่งโทนสีที่ไม่ฉูดฉาด ถ้าแต่งได้ขอให้ทำถวายท่านเป็นระยะเวลาสัก 90 วัน นี้คือการขอของนายกฯ ต่อประชาชน เพราะพระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศและพวกเรามาตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ท่านทรงพระอิสริยยศทรงเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ควรจะต้องทำสิ่งที่เป็นการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
เมื่อถามว่า การจัดงานรื่นเริงหรือคอนเสิร์ตต่างประเทศที่มีกำหนดการก่อนแล้วจะต้องดำเนินการอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า คิดว่าเรื่องจัดคอนเสิร์ตคงต้องขอความร่วมมือ และจะพยายามหาช่องทางออกมาแล้วไม่มีผลกระทบ เราก็ต้องดูในเรื่องวัฒนธรรมประเพณีของพวกเราด้วย
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายอนุทินโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยลงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต
มีรายละเอียดระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2568 นั้น รัฐบาลได้รับทราบด้วยความโทมนัสยิ่ง จึงเห็นสมควรประกาศดังต่อไปนี้
1.ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
2.ให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์ มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
แม่ผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทย
สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม ประกาศ ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
จากนั้นเวลา 15.19 น. นายอนุทิน แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน วันที่ 24 ตุลาคม 2568 เป็นวันที่ปวงชนชาวไทยไม่ปรารถนาให้มาถึง เพราะเป็นวันที่สร้างความโทมนัสและความสูญเสียอันยิ่งใหญ่มายังพสกนิกรชาวไทยทุกคน เมื่อได้ทราบจากแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จสวรรคต ด้วยพระอาการสงบ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สิริพระชนมพรรษา 93 พรรษา
ในเวลานี้ มีแต่เสียงสะอื้นไห้ดังก้องอยู่ในหัวใจของปวงชนชาวไทยทั่วทั้งแผ่นดิน ดวงใจของพสกนิกรถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกแห่งความโศกเศร้า ความอาดูรที่ไม่อาจหาคำใดมาทดแทนได้ เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นทั้งแรงบันดาลใจ ความรัก และความเมตตาอันเป็นนิรันดร์ การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถือได้ว่าเป็นการสูญเสีย “แม่ผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทย” ที่ประชาชนทุกคนต่างรักและเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นมิ่งขวัญ เป็นที่เทิดทูนสักการะของปวงชนชาวไทย ทั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนีของพระมหากษัตริย์ที่สุดแสนประเสริฐ เป็นหลักชัยของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า สมดั่งพระราชอิสริยยศที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้
ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระปรีชาและพระวิริยอุตสาหะมาตลอดรัชสมัยแห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โครงการในพระราชดำริ ทั้งด้านศิลปาชีพ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการสาธารณสุข ล้วนก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีของราชอาณาจักรไทยที่เป็นความภาคภูมิใจของพสกนิกรชาวไทย และเป็นที่ยอมรับ ชื่นชมในพระปรีชาสามารถจากนานาอารยประเทศ
ในการนี้ รัฐบาลจะดำเนินการจัดงานพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติ และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ร่วมใจแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกจิตอันเป็นบุญกุศล ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งใช้พลังความรัก ความสามัคคี และความจงรักภักดีของพวกเราชาวไทย ถวายเป็นกำลังพระทัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในห้วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้ โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ
ขอส่งเสด็จ
กระผม ในนามรัฐบาล และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และขอตั้งจิตอธิษฐาน ขอส่งเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ทรงสถิตสถาพรในทิพยวิมาน และขอให้ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อมให้ราชอาณาจักรไทย และปวงชนชาวไทย ผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน ให้มีความผาสุกร่มเย็นภายใต้ร่มพระบารมีแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ดังที่เคยเป็นตลอดมา
ท้ายที่สุดนี้ ในนามของพสกนิกรชาวไทย ขอถวายพระพรชัยมงคลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ให้ทรงมีพระราชหฤทัยที่เข้มแข็ง สถิตเป็นมิ่งขวัญ ปกเกล้าปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎร์ และราชอาณาจักรไทย ให้มีความสุขสวัสดิ์สถาพรตลอดกาลนาน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุมและในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนและภาคเอกชน พิจารณาปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมกับบรรยากาศแห่งความอาลัย โดยมิได้มีคำสั่งห้ามหรือมติให้ระงับกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ
"รัฐบาลมีความเข้าใจว่าภาคธุรกิจบันเทิง การท่องเที่ยว และการบริการ มีการวางแผนกิจกรรมล่วงหน้าไว้แล้ว จึงขอให้ใช้ดุลยพินิจปรับรูปแบบให้เหมาะสมและสมพระเกียรติ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง" น.ส.ไตรศุลีกล่าว
ด้าน น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการจัดพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นไปอย่างสมพระเกียรติตามโบราณขัตติยราชประเพณี จึงให้มีการดำเนินการ ดังนี้
(1) เปิดให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ในวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 น. ถึงเวลา 12.00 น. ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง
พรรคประชาชนร่วมอาลัย
(2) มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับไปดำเนินการแต่งตั้ง คณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ และกราบบังคมทูลเชิญพระบรมวงศานุวงศ์เป็นองค์ที่ปรึกษา รวมทั้งให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เช่น ฝ่ายอำนวยการจัดงานพระราชพิธี ฝ่ายจัดการพระราชพิธี ฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้าง ราชรถ พระยานมาศ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และแจ้งส่วนราชการให้จัดข้าราชการไปร่วมเฝ้าฯ ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม เป็นเวลา 100 วัน เป็นประจำทุกวัน
(3) มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (กรมศิลปากร) ดูแลรับผิดชอบในเรื่องรูปแบบ พิธีการและการจัดสร้างพระเมรุมาศ โดยขอรับพระราชวินิจฉัยจากองค์ที่ปรึกษาตามข้อ (2)
(4) มอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดผลัดเวรเฝ้าฯ ของคณะรัฐมนตรี ไปเฝ้าฯ ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมทุกวัน ตลอดระยะเวลาของพระราชพิธี
(5) มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อให้ประชาชนร่วมในการถวายสักการะแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
(6) มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์รับไปดำเนินการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างต่อเนื่อง และประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศในการจัดทำคำแปลภาษาอังกฤษด้วย
เฟซบุ๊กแฟนเพจพรรคประชาชน โพสต์แสดงความอาลัยถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายหลังสำนักพระราชวังออกประกาศว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต
โดยระบุว่า ข้าพระพุทธเจ้า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน ขอน้อมรำลึกถึงพระกรณียกิจทั้งปวง ที่ได้ทรงบำเพ็ญมาตลอดพระชนม์ชีพ
ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา ส่งจดหมายถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อข่าวการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
โดยระบุว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวกัมพูชา ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และไม่อาจทดแทนได้ของพระมารดาผู้เป็นที่รักของมวลชนชาวไทย ในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้ ขอร่วมส่งความระลึกถึงและคำภาวนาไปยังพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะถูกจดจำด้วยความเคารพและชื่นชมอย่างสูงสุด สำหรับการอุทิศตนตลอดชีวิตเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรชาวไทย ทรงพระราชกรณียกิจอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยในการอนุรักษ์และส่งเสริมหัตถกรรมและวัฒนธรรมไทย รวมถึงพัฒนาชนบทอย่างไม่เสื่อมคลาย ทรงทิ้งมรดกอันล้ำค่าที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป ขอแสดงความนับถืออย่างสูง และขอส่งความปรารถนาดีอย่างสูง”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


