"ในหลวง-พระราชินี" พร้อม "กษัตริย์จิกมี-พระราชินีเจตซุน" ทรงร่วมพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง” รัฐบาลตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พร้อมเปิดให้ข้อมูล 24 ชม. ขณะที่ สปน.เตรียมรองรับ ปชช.ทั่วประเทศ พร้อมเปิดรับจิตอาสา ด้าน “นายกฯ” ยืนยันไม่ยกเลิกงานลอยกระทง
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม เวลา 19.21 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม
ราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
ในการนี้ ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ครั้นเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จเข้าพระที่นั่งราชกรัณยสภา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระราชปฏิสันถารกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งภูฏาน ที่เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ที่หน้าพระโกศพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงกราบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังมุขเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ด้านตะวันออก และด้านตะวันตก ทรงคม แล้วประทับพระราชอาสน์ เมื่อพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมครบ 4 จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าไตรพระราชาคณะ 1 รูปที่ถวายอดิเรก และพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 8 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าพระโกศพระบรมศพ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เวลา 10.00 น. สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก มาทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะหน้าพระโกศพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พร้อมทั้งทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ถวายความอาลัย
เวลา 11.00 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จในการนี้ด้วย
ปชช.ถวายสักการะวันที่ 4
ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์พระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พร้อมลงนามถวายความอาลัยในสมุดหลวง เป็นวันที่ 4 ตั้งแต่เวลา 08.30 น.-16.00 น. ในการนี้ มีบุคคลสำคัญ คณะบุคคล คณะทุตานุทูต ราชสกุล พระภิกษุสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ และประชาชนทั่วไปแต่งกายด้วยชุดสีดำไว้ทุกข์เดินทางเข้าถวายสักการะ และลงนามถวายความอาลัย ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุุณอย่างหาที่สุดมิได้ อาทิ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนฯ พร้อมคู่สมรส, เอกอัครราชทูตเยอรมนีฯ พร้อมคู่สมรส, เอกอัครราชทูตเนปาลฯ, เอกอัครราชทูตติมอร์เลสเตฯ, เอกอัครราชทูตเวียดนามฯ และเอกอัครราชทูตออสเตรียฯ พร้อมคู่สมรส รวมถึงกงสุลกิตติมศักดิ์ ประเทศ อาร์เมเนีย, มอลตา, คีร์กีซสถาน, โดมินิกัน, เอลซัลวาดอร์, เยเมน และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ 3 องค์การ ได้แก่ ILO UNESCAP UNESCO กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ, ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะฯ
นางศิริพร ทองอยู่ อายุ 52 ชาวจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า พสกนิกรไทยทุกคนรักและเทิดทูนสมเด็จพระพันปีหลวง ตนและสามีตั้งใจมาแสดงความจงรักภักดีและถวายความอาลัย ตลอดพระชนมชีพทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน ทรงพระเมตตา โอบอ้อมอารียิ่งนัก รับสั่งถามไถ่จะช่วยเหลือราษฎรทั่วทุกภาค ตนจะเดินทางมาอีกครั้งเมื่อเปิดให้เข้ากราบพระบรมศพ สมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็เดินทางมากราบพ่อหลวง พระบรมฉายาลักษณ์และข้าวเปลือกที่ระลึกยังเก็บรักษาไว้จนวันนี้ อีกทั้งวันนี้มีบุญได้รับเสด็จกษัตริย์จิกมีและพระราชินี เมื่อพระราชินีภูฏานทรงยกพระหัตถ์ไหว้ ตนน้ำตาไหลทันที ทรงพระเมตตาและพระจริยวัตรงดงามมาก
น.ส.หนึ่งนุช ประดับทอง อายุ 49 ปี ชาว ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ตนนั่งรถประจำทางตั้งใจมาถวายสักการะ พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เกิดมาไม่เคยเห็นพระองค์ท่าน เห็นแต่ในทีวี เวลาท่านเสด็จฯ ไปที่ต่างๆ กับในหลวงรัชกาลที่ 9 และวันแม่ 12 ส.ค. ประทับใจในพระเมตตาของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยให้มีอาชีพ ศูนย์ศิลปาชีพฯ ของพระองค์ท่าน ช่วยทำให้คนมีอาชีพมีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบรัว
“เศร้ามากที่สูญเสียพระองค์ท่านไป เป็นความรู้สึกที่พูดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เหมือนสูญเสียแม่ของแผ่นดิน วันนี้เข้าไปกราบสักการะก็อธิษฐานขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย จะขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป และในวันที่ 9 ต.ค.นี้ ตนตั้งใจจะเดินทางมาอีกครั้ง เพื่อเข้ากราบพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวงบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท” น.ส.หนึ่งนุชกล่าว
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ครั้งที่ 1/2568
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันวางแผนและกำหนดกรอบระยะเวลา เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ เป็นไปอย่างทันท่วงทีและครอบคลุมในทุกมิติ โดยมุ่งเน้นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พระราชประวัติ และพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ท่านเป็นสำคัญ เพื่อเตือนใจให้ประชาชนระลึกถึงคุณูปการต่างๆ ที่พระองค์ทรงสร้างไว้เป็นแบบอย่าง โดยใช้ช่องทางสื่อสารที่ได้รับความนิยมสูง เช่น TikTok, Facebook และสื่อออนไลน์อื่นๆ นำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่สร้างสรรค์ ทันสมัย น่าสนใจ และเข้าใจง่าย สื่อสารสาระสำคัญของงานพระราชพิธีและพระมหากรุณาธิคุณได้อย่างสมพระเกียรติ ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนได้มีช่องทางในการร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ตั้งศูนย์ ปชส.งานพระราชพิธี
น.ส.ศุภมาสกล่าวว่า คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ยังเตรียมใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการสื่อสาร ด้วยการพัฒนา Chatbot สามารถให้บริการข้อมูลแก่ประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบ เปิดเว็บไซต์เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนได้รับคำตอบที่ถูกต้อง รวดเร็ว และจะมีการจัดตั้งศูนย์สื่อมวลชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ทางด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมด้วย
ภายหลังการประชุม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป็นการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านสถานที่บริเวณสนามหลวงเพื่อรองรับประชาชนที่จะเข้ากราบพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยกรุงเทพมหานคร, ด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยกระทรวงคมนาคม, ด้านการจราจรและสถานที่จอดรถยนต์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ด้านการให้บริการดูแลอาหารเครื่องดื่มและการบริจาคสิ่งของสำหรับประชาชน โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, ด้านการจัดจิตอาสาดูแลประชาชน โดยสำนักงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี, ด้านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน โดยกรมประชาสัมพันธ์, ด้านการแพทย์และการพยาบาลเพื่อดูแลประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร และด้านการติดตามสถานการณ์และการข่าวโดยสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
รวมทั้งยังได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการให้บริการประชาชน โดยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้วางเป็นกติกาให้ไปดูคิวแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ และลองจัดเวรคิวว่าสามารถเข้ามาในแต่ละวันด้วยจำนวนเท่าไหร่ และในพื้นที่สนามหลวงจะมีการจัดเป็นพื้นที่ศูนย์อำนวยการเพื่อบริการประชาชน อาจจะมีศูนย์บริการเรื่องอาหาร ศูนย์บริการรักษาพยาบาลในบางท่านที่อายุมากอาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และจะมีศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินไว้บริการ
สำหรับในส่วนของกระทรวงคมนาคม จะมีการประสานงานกันในเรื่องการจราจร และในเรื่องการเคลื่อนย้ายคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพราะการเอารถใหญ่เข้ามาในบริเวณพระราชพิธีทำได้ยาก จึงต้องหาพื้นที่จอดรถด้านนอกและหารถขนส่งประชาชนที่ลงรถแล้ว นำเข้ามาในพื้นที่ อาจจะมีการประสานงานกับจิตอาสาต่างๆ และศูนย์นี้จะรับสมัครจิตอาสาเข้ามาบริการประชาชนที่เข้ามาถวายสักการะด้วย ในเบื้องต้น และในครั้งถัดไปจะมีการประชุมวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งเราจะมาอัปเดตกันทุกสัปดาห์
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการจัดงานประเพณีลอยกระทงที่บางจังหวัดมีปัญหาในเรื่องการยกเลิกจัดงานว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีการทำหนังสือชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว โดยมีแนวทางในการดำเนินงาน เพื่อทำความเข้าใจกับส่วนราชการแล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการยกเลิกการจัดงาน
“ส่วนในเรื่องของการดำเนินการอะไรต่างๆ ก็มีวิธีในการประกาศ เนื่องจากเราอยู่ในช่วงไว้อาลัย ก็ขอให้ทุกคนได้พิจารณาการแสดงออกต่างๆ โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แม้แต่ในสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีการจัดคอนเสิร์ต Blackpink ก็สามารถดำเนินการได้อย่างสวยงาม โดยทุกคนให้เกียรติ” นายอนุทินระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศก.สู่ยุคโตตํ่า! คุมเข้มร้านทอง กดเงินบาทแข็ง
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโตต่ำเป็น New Normal หลังกินบุญเก่ามานาน
ทุกพรรคจัดทัพลุยเลือกตั้ง
ทุกพรรคพร้อมลุยเลือกตั้ง! "อนุทิน” ยันแคนดิเดตนายกฯ ภท.ไม่มีเซอร์ไพรส์เพิ่ม
เลือก‘คำถามประชามติ’ สมควรมีรธน.ใหม่หรือไม่
ครม.เคาะเลือกคำถามประชามติ “สมควรมีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่”
พระราชทานเหรียญทองราชินี
"ในหลวง" เสด็จฯ ไปส่ง “พระราชินี” ทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศแข่งขันกีฬาซีเกมส์
จีนทุบ‘สแกมโบเดีย’ ‘จงอี้’แฉโยงผลประโยชน์หลายมิติ/กห.ลั่นภารกิจใกล้เสร็จ
"หลิว จงอี้" ทุบโต๊ะ! รัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ
ชาวระยองเข้ากราบพระบรมศพ สานต่อพระราชปณิธานฟื้นลมหายใจมหาสมุทร อนุรักษ์เต่าทะเล
ชาวระยองเข้ากราบพระบรมศพ สานต่อพระราชปณิธานฟื้นลมหายใจมหาสมุทร อนุรักษ์เต่าทะเล คณะผู้พิพากษาสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ’พระพันปี’ ช่วยเยาวชนหลงผิดกลับสู่สังคม

