เฉลิมชัยทิ้งปชป.ซบธรรมนัส

นายกฯ ไม่ยืนยันไทม์ไลน์ยุบสภาใน 4 เดือนยังเหมือนเดิมหรือไม่ ย้อนถามสื่อมีอะไร  ลั่นทำงานทุกวัน บอกห้ามไม่ได้ฝ่ายค้านยื่นซักฟอก  มั่นใจปมโยกงบ 3.5 หมื่นล.แจกเงินหมื่นยุครัฐบาลเศรษฐาถูกต้องตาม กม. "ครม." โยก “ดนุชา” กลับเลขาฯ สภาพัฒน์ “อ้อนฟ้า” หวนคืนเลขาฯ ก.พ.ร.  "เฉลิมชัย" ไขก๊อก "ปชป." จ่อควง "เดชอิศม์" พร้อมก๊วนซบกล้าธรรม "ธรรมนัส" โอ่สมาชิกพรรค กธ.ของจริง เหน็บไม่เหมือนบางพรรคของปลอม  "จุลพันธ์" คึกเล็งปล่อยแคมเปญหาเสียง "สร้างโอกาส ล้างหนี้ มีกิน" เชื่อ "พท." ยังมีคนหนุนนับสิบล้าน  "ภราดร” ชงสภาเปิดวิสามัญ 8-10 ธ.ค. ถกแก้ รธน. หวังโหวตวาระ 3 เสร็จก่อนปีใหม่ ยํ้า กมธ.เห็นพ้องหาทางรอดคำวินิจฉัยศาล เล็งสูตรถอยคนละก้าวตอบโจทย์ สว.

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 4 พ.ย.2568    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เราจะไปห้ามอะไรได้ เมื่อถามว่าปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้ามากมายจะตัดสินใจยุบสภาก่อนกำหนด 31 ม.ค.69 หรือไม่  โดยนายอนุทินย้อนถามว่า มีปัญหาอะไร ผู้สื่อข่าวตอบว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์และอีกหลายเรื่องที่เป็นปัญหา นายอนุทินกล่าวว่า อ้าว ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำงานทุกวันอยู่แล้ว

ถามย้ำว่า ยังยืนยันว่าไทม์ไลน์ยุบสภา (4  เดือน) ยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ยืนยัน ไม่มีอะไรต้องยืนยัน เมื่อถามว่ากรณีที่พรรคเพื่อไทยตำหนิรัฐบาลปราบปรามสแกมเมอร์ล่าช้า นายกฯ ย้อนถามว่า ใครพูด ไม่รู้จัก

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งไต่สวนคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ซึ่งนายอนุทินขณะนั้นเป็นรองนายกฯ และ รมว. มหาดไทย กรณีกระทำผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 กรณีโยกงบประมาณของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง วงเงิน 35,000 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ ว่า ก็ต้องชี้แจง แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นข้อมูลจาก ป.ป.ช.

"ยืนยันเราต้องชี้แจงในเจตนา ซึ่งเจตนารมณ์สุจริตอยู่แล้ว ก็ชี้แจงไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่าน เราไปก้าวก่ายไม่ได้ โดยเรื่องที่จะเข้า ครม.ก็ต้องทำตามกฎหมาย ผ่านการกลั่นกรองของเลขาฯ  ครม. หรือใครมีอะไรก็ถามเลขาธิการกฤษฎีกา เราก็ต้องเชื่อหน่วยงานที่เป็นองคาพยพของเรา"  นายอนุทินกล่าว

ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า เรื่องโยกงบ 3.5 หมื่นล้านบาท ตามหลักถ้าเป็นแบบนั้น เลขาธิการ ครม.จะเป็นผู้ทำหนังสือชี้แจง เพราะเป็นเรื่องของที่ประชุม ครม.

ขณะที่ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายอนุทินเป็นประธาน ได้มีมติแต่งตั้งนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กลับมาเป็นเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หลังจาก ครม.เคยมีมติอนุมัติรับโอนไปนั่งเลขาธิการ สทนช. ช่วงที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกฯ ยังแต่งตั้ง น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ สศช. กลับไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) 

นอกจากนี้ ครม.มีมติแต่งตั้ง น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีของนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีรายงานว่า น.ส.รัชดาเตรียมจะย้ายมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.)

ส่วนกระทรวงแรงงาน ครม.แต่งตั้งนายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน, น.ส.กาญจนา พูลแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และนายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นรองปลัดกระทรวง

ด้านสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการเลือกตั้งให้ น.ส.วิสุดา วิเชียรศิลป์ เป็น สส.กาญจนบุรี เขต 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง  โดยสามารถไปรับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้ง ในวันที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป    

มีรายงานด้วยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป. เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา​ โดยมอบหมายให้คณะทำงานเดินทางไปยื่นหนังสือลาออกที่สำนักงาน​ กกต.​ รวมทั้งคาดว่ากลุ่ม สส.ประจวบคีรีขันธ์ และกลุ่ม สส.ภาคกลางบางส่วน รวมถึงกลุ่ม สส.สงขลา ที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย จะทยอยลาออกเพื่อย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม

ทั้งนี้ สส.กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยมี 11 คน​ คือ​ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช​ สส.ประจวบ​​คีรีขันธ์, นายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.ประจวบ​คีรีขันธ์​, นายเดชอิศม์​ ขาวทอง ​สส.​สงขลา​, น.ส.สุภาพร กำเนิดผล สส.สงขลา​, นายศักดิ์สิทธิ์​ ขาวทอง​ สส.สงขลา,​ นายชาตรี​ หล้าพรหม​ สส.สกลนคร​, นายวุฒิพงษ์​ นามบุตร​ สส.อุบลราชธานี, น.ส.สุพัชรี​ ธรรมเพชร​ สส.พัทลุง​, นายยุทธการ​ รัตนมาศ สส.นครศรีธรรมราช,​ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่​ สส.สงขลา​ และนายยูนัยดี​ วาบา สส.ปัตตานี​

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตสมาชิกพรรคกล้าธรรมมีจำนวนมากที่สุดว่า  เรามีสมาชิกเป็นของจริง และตรวจสอบได้ ในทางตรงกันข้าม มีพรรคการเมืองบางพรรคเป็นของปลอม แต่สำหรับเราชัดเจน ตรวจสอบได้

"ที่พรรคมีจำนวนสมาชิกเป็นอันดับหนึ่ง เพราะพรรคทำงานตอบโจทย์พี่น้องประชาชน มีชาวใต้มารอพบที่พรรคและนำรายชื่อมาสมัครเพิ่มเองโดยไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า เมื่อวานก็มีเข้ามาสมัครเพิ่ม กลุ่มทรูมูฟเอารายชื่อมาสมัครกว่า 2,000 คน พรรคเราก็เป็นแบบนี้ มีแต่เพิ่ม เพราะเราทำงาน” ที่ปรึกษาพรรค กธ.ระบุ

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการปล่อยแคมเปญหาเสียงเพื่อเตรียมการเลือกตั้งครั้งถัดไปว่า เชื่อว่านโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.) ล้ำหน้าพรรคอื่นไปเยอะ ซึ่งโจทย์แรกคือแบ็กทูเบสิกกลับสู่ให้ประชาชนได้เข้าใจง่ายๆ ตรงกับความต้องการของประชาชน การออกแคมเปญขอให้รอฟัง เพราะเราก็เปิดมาแย้มๆ มาแล้วคือ สร้างโอกาส ล้างหนี้ มีกิน นโยบายของเรายังเป็นเรื่องปากท้อง ความเป็นอยู่ของประชาชน

ถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ต้องแบกวิกฤตศรัทธาในช่วงที่ถูกมองว่าเป็นขาลง หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า ตนว่าขาขึ้น เราก็ยังอยู่ในสถานะที่ดี คนที่สนับสนุนพรรค พท.ยังเป็น 10 ล้านคน ตนไม่ได้มองว่าเป็นสถานการณ์ที่มีปัญหาอะไร เรายังมีความเชื่อมั่น เพียงแต่วันนี้ต้องทำองค์ประกอบให้ครบ

"เรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเราจะเสนอ 3 ชื่อ ซึ่งเป็น 3 ชื่อที่ต้องตรงใจกับประชาชน และเชื่อว่าการยอมรับจากประชาชนจะทำให้เราประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง" หัวหน้าพรรค พท.กล่าว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงการเตรียมเปิดตัวบ้านใหญ่ว่า วันที่ 7 พ.ย.นี้ เราจะมีการเปิดตัวผู้สมัครอีกประมาณ 20 คน ส่วนบ้านใหญ่จากจังหวัดสมุทรปราการนั้นจะยังไม่มีการเปิดตัวในวันที่ 7 พ.ย.นี้ แต่มีการพูดคุยกันในระดับหนึ่ง เรากำลังรวบรวมข้อมูลอยู่

ถามถึงกรณีมีนักการเมืองเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ จะนำเรื่องดังกล่าวไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ เลขาฯ พรรค พท.กล่าวว่า เป็นหนึ่งในประเด็นที่ให้ความสำคัญ เมื่อถามว่าหากพรรค พท.จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เกรงรัฐบาลอาจจะชิงยุบสภาก่อนหรือไม่ เลขาฯ พท.กล่าวว่า เรามองแนวนั้นเช่นกัน หากเรายื่นแล้ว ประธานสภาฯ รับแล้ว รัฐบาลไม่สามารถยุบสภาได้ ฉะนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์ยุบสภาก่อน อาจจะเป็นการชิงหนี เป็นปัจจัยหนึ่งที่ได้คาดการณ์เอาไว้

วันเดียวกัน นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในชั้น กมธ. โดยเฉพาะความเห็นต่างเรื่องที่มาของ ส.ส.ร.ว่า คิดว่าไม่มีปัญหา สำหรับเรื่อง ส.ส.ร. วันนี้ทุกคนเห็นตรงกันหมดแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มี 35 คน ยืนยันว่ามีแน่นอน ส่วนเรื่องสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเพียงนิดเดียว  บางส่วนบอกว่ายังต้องมีอยู่บ้าง บางฝ่ายก็บอกว่าไม่ต้องมี เพราะมีกรรมการยกร่างอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงเจรจาเหตุเจรจาผล

ถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถทำทันพร้อมกับการทำประชามติเลือกตั้งหรือไม่ นายภราดรกล่าวว่า กกต.แจ้งว่าขอเวลาก่อนทำประชามติ 75 วัน หรือช่วงกลางเดือน ม.ค.2569 ซึ่ง กมธ.และรัฐสภายังพอมีเวลาทำงานได้อยู่ แม้จะไม่เปิดประชุมสมัยวิสามัญ แต่ความเห็นส่วนตัว หากจะเปิดสมัยวิสามัญก็สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่เดือน พ.ย. คงเป็นช่วงเดือน ธ.ค. ก่อนเปิดสมัยประชุมสามัญวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งอาจจะเป็นวันที่ 8-10 ธ.ค. เพื่อลงมติในวาระ 3 หลังจากเสร็จสิ้นวาระ 15 วัน เพราะหากไม่เปิดสมัยวิสามัญ จะทำให้การลงมติวาระ 3 เป็นช่วงหลังปีใหม่ แต่เราต้องการให้กันลงมติวาระ 3 ก่อนปีใหม่

ซักว่า มีข้อกังวลการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจไม่ผ่านเสียง สว.ในวาระ 3 นายภราดรกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่ง สว.ห่วงประเด็นเรื่องห้ามแตะหมวด 1-2 รวมถึงการขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการห้ามเลือกตั้งทางตรง ซึ่งในชั้น กมธ.เข้าใจในสิ่งที่ สว.เป็นห่วง และอะไรที่เป็นปัญหา ก็เชื่อว่า กมธ.จะถอยกันคนละก้าว เพราะไม่เช่นนั้นเสียง สว.อาจไม่ถึง 67 เสียง.