เมินฮุนเซนท้าปิดด่าน500ปี โยนเจบีซีเคลียร์‘ตาควาย’

“ฮุน เซน" ปากกล้าขาสั่น! กลัวคนเขมรหลับไปพร้อมกับข้อมูลเท็จ ลั่นกัมพูชาไม่ลดตัวขอไทยเปิดด่านชายแดน ท้าปิดต่ออีก 500 ปีก็ยังได้ อ้างเป็นเรื่องนักการเมืองไทยเอาไว้หาเสียง   ด้าน “อนุทิน” บอกเข้ามาเป็นนายกฯ เพื่อหยุดสงคราม ลั่นแผ่นดินไทยต้องไม่เสีย เดินหน้าเจรจาเจบีซี เคลียร์ปม “ปราสาทตาควาย”

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ “Thailand’s Next Frontier: A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” ในรูปแบบการสัมภาษณ์

โดยนายกฯ กล่าวถึงการลงนามสันติภาพที่ประเทศมาเลเซียว่า วัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไปลงนามเพื่อหยุดสงคราม ตนเป็นนายกฯ นำประเทศให้มีสงครามไม่ได้ ไปร่วมงานเพื่อให้มั่นใจได้เลยว่าประเทศไทยไม่มีวันเสียดินแดนและไม่มีวันเสียอธิปไตย ในการลงนามเขียนอย่างชัดเจนว่าอะไรเป็นของไทย ไม่มีจุดไหนที่เรายอมแลกตรงนั้น ตรงนี้เพื่อวัตถุประสงค์นั้นวัตถุประสงค์นี้ แต่ไปเพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทย ถ้าข้อความของตนทั้ง 4 ข้อได้ถูกส่งไปยังคู่กรณีมีความชัดเจน

ส่วนปัญหาชายแดน ตั้งแต่ตนเข้ามาเป็นนายกฯ ยังไม่มีลูกกระสุนเข้ามาจากฝั่งโน้น ไม่มีระเบิดไม่มีจรวดเข้ามาในฝั่งไทย และไม่มีใครขาขาด ไม่มีทหารบาดเจ็บ การเปิดด่านไม่มี และไม่มีอะไรที่เสียเปรียบกับประเทศคู่กรณี

นายกฯ กล่าวถึงประเด็นเรื่องแร่แรร์เอิร์ธที่ถือเป็นความขัดแย้งของประเทศมหาอำนาจว่า ประเทศไม่มีอะไรเสีย เพราะทุกอย่างอยู่ในประเทศไทย วันนี้เรามีองค์ความรู้เรื่องนี้น้อย  และหากมองว่าเป็นการเลือกข้าง เราเลือกข้างตัวเอง ไม่ใช่เป็นขี้ข้าใคร และต้องเลือกประโยชน์สูงสุดของประเทศ ถ้าไม่มีใครคบเรา เราต้องมั่นใจว่าสามารถผลิตอาหาร ปัจจัยสี่ได้ แต่เป็นสิ่งที่เกิดยาก เรามีจุดแข็งตั้งหลายอย่าง ทุกอย่างเกิดขึ้นในประเทศไทยได้ทั้งหมด

ภายหลังการแสดงวิสัยทัศน์ นายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ยังไม่ได้อ่านโพสต์ของสมเด็จฮุน เซน และตอบคำถามที่ว่า มองอย่างไรว่าสมเด็จฮุน เซน จะเคลื่อนไหวโดยการโพสต์โซเชียลตลอด ทําให้มองว่าเราเป็นฝ่ายตามเขาตลอด นายกฯ ตอบว่า "ใครตาม ไปอ่านข้อตกลง มีตรงไหนที่ตาม"

ทั้งนี้ ในช่วงค่ำวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า "การที่ผู้นำไทยรวมถึงนายกรัฐมนตรีไทยเองพูดมากเรื่องการเปิดด่านเช่นนี้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนกัมพูชา หรือประชาชนไทย  ว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายไปขอให้ไทยเปิดด่านขึ้นใหม่ ผมไม่ต้องการให้ประชาชนกัมพูชานอนหลับไปพร้อมข้อมูลที่เข้าใจผิดแบบนี้ ส่วนในด้านประชาชนไทย นั่นคือเรื่องของไทยเอง ซึ่งอาจถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือหาเสียงในการเลือกตั้ง โดย “การเปิดด่าน” กลายเป็นหัวข้อโฆษณาหาเสียง

ขอย้ำอีกครั้งว่า ตั้งแต่ไทยปิดด่านพรมแดนฝ่ายเดียว กัมพูชาไม่เคยไปขอไทยให้เปิดด่านอีกเลย ไทยจะปิดต่อไป 100 ปีหรือ 500 ปีก็เป็นเรื่องของไทย เพราะลูกกุญแจอยู่ในมือไทย การปิดที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้กัมพูชาตาย ตรงกันข้าม กลับทำให้สินค้าในประเทศเข้ามาแทนที่สินค้าจากไทย ซึ่งนั่นคือโอกาสกระตุ้นการผลิตภายในประเทศให้เพิ่มขึ้น ผมได้แจ้งเพื่อนพันธมิตรต่างประเทศว่า การที่ไทยปิดด่านพรมแดนกับกัมพูชา ไม่ใช่แค่ตัดการเชื่อมโยงกัมพูชา-ไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการ “ตัดการเชื่อมโยงของอาเซียนและเอเชีย” อีกด้วย แล้วไฮเวย์อาเซียน รถไฟอาเซียน และไฮเวย์เอเชีย จะไปทางไหน?

ผมหวังว่าสารนี้จะไปถึงผู้นำไทยและประชาชนไทยว่า กัมพูชาไม่ได้ร้องขอให้เปิดด่านชายแดนอีกครั้ง เช่นเดียวกัน ผมหวังว่าประชาชนชาวกัมพูชาจะไม่ถูกหลอกให้เข้าใจผิดว่า รัฐบาลของพวกเขากำลังลดตัวลงไปวิงวอนขอความร่วมมือจากไทยในการเปิดพรมแดนอีกเช่นกัน”

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินกล่าวถึงประเด็นประสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จะยืนยันอย่างไรว่าเป็นของประเทศไทยว่า จะต้องไปพูดคุยในคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ต่อไป โดยค่อยๆ ปลดไปทีละประเด็น ซึ่งเรามีทีมที่จะไปพูดคุยเจบีซีอยู่แล้ว ส่วนกรณีอินฟลูเอนเซอร์จะไปจัดกิจกรรมทวงคืนปราสาทตาควายนั้น ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความรักชาติอยู่แล้ว แต่อย่าไปทำผิดกฎหมาย ทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับฮุน มาเนต   นายกรัฐมนตรีกัมพูชาหรือไม่ เกี่ยวกับพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในเงื่อนไขข้อที่ 4 ซึ่งจะต้องไปพูดคุยกันให้ชัดเจน  เพราะเราก็บอกเป็นพื้นที่เรา ส่วนเขาก็บอกเป็นพื้นที่ของเขา ดังนั้นจึงต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งมีทีมที่เชี่ยวชาญมีหลักฐานเทคโนโลยีที่ไปพิสูจน์ จึงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ทีมเจรจาเจบีซี เราไปแทรกแซงไม่ได้

นายกฯ ย้ำด้วยว่า ได้ให้นโยบายอย่างชัดเจนว่าต้องรักษาแผ่นดินไทยไว้เหนือสิ่งอื่นใด

ขณะที่ กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา ยังคงปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมายในทุกรูปแบบ รวมไปถึงการควบคุมการปิดด่านหรือจุดผ่านแดนทั้งหมด ในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ทั้งจุดผ่านแดนถาวร 3 แห่ง ได้แก่ ด่านบ้านคลองลึก (อ.อรัญประเทศ), ด่านหนองเอี่ยน (อ.อรัญประเทศ) และด่านบ้านเขาดิน (อ.คลองหาด) ส่วนจุดผ่อนปรนทางการค้า 2 แห่งคือ ด่านบ้านตาพระยา (อ.ตราพระยา) และด่านบ้านหนองปรือ (อ.อรัญประเทศ) โดยเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งปิดช่องทางผ่านแดนในทุกกรณี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง