นายกฯ เป็นประธานลงนาม MOU 15 หน่วยงานประกาศ "สงครามสแกมเมอร์" ลั่นเอาผิดเด็ดขาด ทั้งเจ้าของ-คนอยู่เบื้องหลัง ไม่มีเกี้ยเซียะ ท้าคนแฉพวกเอี่ยวสแกมเมอร์บอกชื่อ-นามสกุลจริง แค่ตัวย่อไม่พอเอาผิด ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่า "บิ๊กต่าย" แถมมี "สมอลหนู" หนุน แนะส่งข้อมูลตรงมาที่รัฐบาล อย่ายื่นผิดซอยที่ กมธ. ชิ่งตอบปมปลดธรรมนัส "โรม" รับผิดหวังท่าที “อนุทิน” ปราบสแกมเมอร์ล่าช้า เหน็บ MOU แค่พิธีการ ต้องปฏิบัติจริง จี้ต้องปลด "ผู้กอง" พ้น ครม. ไม่ใช่ให้ลาออก "โจ๊ก" ยื่นข้อมูล กมธ.ฟันตำรวจรับผลประโยชน์เว็บพนันเชื่อมโยง สส. ช.ช้าง "ทนาย" เผย "ทักษิณ" แจงไม่เคยร่วมลงทุนกับ "เบน สมิธ"
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 6 พ.ย.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีกับ 15 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการคลัง, กระทรวงการต่างประเทศ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ, ธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ
นายอนุทินกล่าวว่า การลงนามป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างพร้อมเพรียงกัน ถือเป็นก้าวสำคัญที่ประเทศไทยได้มีการรวมกันเพื่อการประกาศสงครามกับอาชญากรรมออนไลน์ สงครามนี้เป็นสงครามที่เราจะต้องชนะเท่านั้น เพื่อปกป้องประชาชนทุกคนจากภัยสแกมเมอร์ที่กำลังบ่อนทำลายประเทศ
"การลงนามไม่ใช่เพียงเอกสาร แต่เป็นอาวุธที่จะใช้ในการต่อสู้กับอาชญากรอย่างเป็นระบบ ถือเป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่ภารกิจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง รัฐบาลพร้อมสนับสนุนในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากภัยสแกมเมอร์ ผมไม่มีวันที่จะต้องเกรงใจใครที่ตั้งใจจะมาทำร้ายประชาชน ขอให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ" นายอนุทินกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับ MOU ครั้งนี้ จะเดินหน้าปฏิบัติการเชิงลึก 5 ด้าน 1.การบังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด ไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำความผิดหรือผู้สนับสนุนอยู่ข้างหลัง 2.การสร้างระบบประสานงานแบบบูรณาการเชื่อมโยงข่าวกรองและการสืบสวน 3.การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทันที ตัดเส้นทางการเงินอาชญากรไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานฟอกเงินได้อีกต่อไป 4.ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและ AI ในการตรวจจับเส้นทางเงินของมิจฉาชีพเพื่อสกัดก่อนที่จะเกิดเหตุ และ 5.การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนให้มีความรู้เท่าทัน
"ภาพที่ปรากฏในวันนี้น่าจะมีความชัดเจนว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือเราเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นเจ้าของสแกมเมอร์ ภาพนี้คงทำให้ปรากฏชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ชัด ไม่มีใครที่จะมีความอดทนต่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทำร้ายประเทศไทย วันนี้รัฐบาลพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอให้ความมั่นใจว่าเรื่องนี้เคลียร์ไม่ได้ เรื่องนี้ไม่มีเกี้ยเซียะ มีแต่ลุยลูกเดียว และจะถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลงานและเป็นบุญคุณของประชาชนที่จะนำมาทดแทน เป็นสิ่งที่เราต้องทำขึ้นเพื่อขออภัยประชาชนในความเสียหายที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา และตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจในทีมไทยแลนด์" นายกฯ กล่าว
หนูท้าเปิดชื่อคนเอี่ยวสแกมเมอร์
ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ยืนยันว่าการปราบสแกมเมอร์ดำเนินการตลอดเวลาอยู่แล้ว มีการยึดทรัพย์สินเป็นหลักหลายหมื่นล้านบาท การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกับคนต่างชาติ การเพิกถอนถิ่นพำนัก การเพิกถอนวีซ่า การเพิกถอนสัญชาติ เราก็ทำไปหมดทุกอย่างแล้ว
ถามว่า ฝ่ายค้านบอกมีนักการเมือง 7 คนไปเกี่ยวกับสแกมเมอร์ และมีนักการเมือง ช. มีข้อมูลเชิงลึกสาวถึงหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราทำตามการข่าว ทำตามพฤติกรรมหน้าที่ที่เรามีอยู่ ทั้งการหาข่าวเอง มีคนมาแจ้งความ และสิ่งที่เราประสานงานกับนานาชาติ และไปทำการป้องกันปราบปราม เราไม่ได้ทำตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง เพราะเรามีหลักการทำงานของเราอยู่แล้ว
ซักว่า ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้มีการออกมาเปิดเผยว่ามีบิ๊กตำรวจหลายท่านรับเงินสแกมเมอร์ จะตรวจสอบอย่างไร นายอนุทินย้อนถามว่า “มีใครใหญ่กว่าบิ๊กต่ายไหม ณ วันนี้ ถ้าไม่มีผมก็ไม่กังวลอะไร เพราะผมก็คุยกับบิ๊กต่าย”
ถามย้ำว่า ระหว่างที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบายบนเวทีว่าคนที่ออกมาแฉไม่ใช่คนที่อยู่ในองค์กรตำรวจ นายอนุทินกล่าวว่า อย่าไปลงรายละเอียด พร้อมกับผายมือไปทางผู้ร่วมแถลงข่าวก่อนพูดว่า “ตรงนี้มีบิ๊กแพร บิ๊กบอย บิ๊กต่าย บิ๊กป็อป ผมคิดว่าถ้าได้รับการสนับสนุนไฟเขียวแรงยุจาก “สมอลหนู” ให้ท่านทำงานเพื่อประชาชน วันนี้คนเป็น ผบ.ตร.เป็นอธิบดีดีเอสไอ เลขาฯ ปปง. รมว.ยุติธรรม รมว.ดีอี ปลัดมหาดไทย เป็นนายกฯ ถ้ายังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนว่าสแกมเมอร์ทำร้ายประเทศไทยทำร้ายประชาชนขนาดไหน เรามาไม่ถึงตรงนี้ ต้องมีอะไรมาบล็อกไม่ให้เราเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ฉะนั้นถือเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด
"ผมได้แจ้งไปยังทุกหน่วยงานว่าอะไรที่เราต้องการจากรัฐบาลในการปราบปรามสแกมเมอร์ ขอให้เอ่ยมาเท่านั้น ผมมีหน้าที่บันดาลทุกอย่างเพื่อให้หน่วยงานที่ท่านกำกับดูแลไปดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างเฉียบขาดเด็ดขาด ไม่มีหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งสิ้น" นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า มีคนออกมาแฉรายวัน จะสร้างความเชื่อมั่นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรามองโลกในแง่ดี คนเหล่านั้นที่ออกมาแฉรายวัน ก็เป็นช่องทางข่าวช่องหนึ่ง ก็ดีเหมือนกัน ทำให้เรากระตือรือร้นตลอดเวลา ถือเป็นบุญคุณ ก็ต้องขอบคุณ เมื่อถามอีกว่ายังมีคนกล่าวหาว่าคนในรัฐบาลเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ต่อเนื่อง นายอนุทินย้อนถามว่า "ไหนล่ะครับ เอ่ยชื่อมาสิครับ"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า วันนี้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็นำข้อมูลของชื่อย่อ ช. ไปให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯ นายอนุทินตอบว่า คนที่พูดออกมาขอให้เอ่ยชื่อเลย ไหนๆ จะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติแล้ว ผบ.ตร.รับรองความปลอดภัยให้ รวมถึงตนจะไปขอ ผบ.ทบ.ให้ด้วย
"พอพูดชื่อย่อออกมามันไม่พอ ขอชื่อจริง นามสกุลจริง มาบอกผมหรือบอกใครก็ได้ที่เกี่ยวข้อง เรามีหน้าที่รักษาความลับและรักษาความปลอดภัยให้ท่านอยู่แล้ว เราต้องดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้องและปกป้องคนที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่หน่วยงานราชการ ใครที่มีหลักฐานขอให้เอ่ยชื่อดังๆ แล้วเราจะไปดำเนินการ ผิดว่าไปตามผิด ไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่คนเดียว" นายอนุทินกล่าว
พอถามว่า นายรังสิมันต์ออกมาบอกว่าก่อนการปราบสแกมเมอร์ ต้องสร้างความเชื่อมั่นด้วยการปราบรัฐมนตรีสีเทาทั้งหลาย นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ทำเป็นเอกสารแล้วมายื่นที่ตน หรือแจ้งความได้เลยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น แจ้งความแล้วเอ่ยชื่อ พฤติกรรม หลักฐาน จริงๆ ไม่ต้องแจ้งความถึง ผบ.ตร. แต่ไปโรงพักไหนก็ได้
เมื่อถามย้ำว่า นายรังสิมันต์ โรม คาดหวังให้นายกฯ ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ออกจากตําแหน่ง นายกฯ ย้อนถามว่า "แล้วมันเกี่ยวอะไร เพราะนี่คือเรื่องการปราบปรามการฟอกเงิน มันคนละเรื่องกัน" ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที
หยัน MOU แค่พิธีการต้องทำจริง
ส่วนนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวว่า รัฐบาลแน่วแน่ในการเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องการฟอกเงิน หรือการปราบปรามตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัย (เงินเทา) โดยก่อนหน้านี้ได้หารือกับนายอนุทิน ได้มอบโจทย์ชัดเจนว่าทุกกรณีที่หากพบว่าเป็นความผิด ไม่ว่าจะมีใครเกี่ยวข้องด้วยสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวล ดังนั้นนี่เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลเต็มที่ และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ตำรวจที่เป็นคนไม่ดี ตนยืนยันกับทุกคนว่าถ้าปรากฏข้อมูลไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือผู้ใดก็ตาม จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดไม่มีการช่วยเหลืออย่างแน่นอน การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกกล่าวหา ถามว่ารู้สึกอย่างไร ต้องบอกว่ารู้สึกเจ็บปวด แต่ตนอดทน ตั้งสติ และทำงานจากการถูกโจมตีลักษณะนี้มาตลอด แต่การกล่าวหาอย่างรุนแรงเช่นนี้เชื่อว่าตำรวจทั้งประเทศรับไม่ได้
ถามถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ออกมาแฉรายวัน เหมือนกับเป็นการแค้นส่วนตัวภายในองค์กรตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ไม่ขอเอ่ยชื่อใคร ส่วนจะแค้นหรือไม่แค้น มีอะไรที่จะพูดรายวันก็พูดไป พวกเราเป็นตำรวจ มีหน้าที่ก้มหน้าก้มตาทำงานดีกว่า
ที่รัฐสภา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์นำเอกสารหลักฐานมายื่นต่อนายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับเส้นเงินการรับผลประโยชน์จากเว็บพนันของตำรวจ 30 นาย เพิ่มเติมจากที่คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ได้ชี้มูลไปแล้วกว่า 200 คน โดยยังมีรายชื่อนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งข้อมูลนี้ได้แจ้ง ผบ.ตร.แล้ว แต่ผ่านมาแล้ว 1 ปียังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ
นายรังสิมันต์ยอมรับว่า ผิดหวังกับท่าทีของนายอนุทินในการปราบสแกมเมอร์ สวนทางกับสิ่งที่พูด ที่บอกคือวาระแห่งชาติ เป็นวาระแห่งชาติได้อย่างไรในเมื่อการแก้ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเลย เรื่องการทำ MOU ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่การทำ MOU ที่เป็นแค่พิธีการจะมีความหมายหรือไม่ อยู่ที่การปฏิบัติหน้าที่จริงๆ แต่ถ้าไม่มีการปฏิบัติหน้าที่จริงๆ แล้วไปเอาในเรื่องของการสอบสวนในเรื่องของเส้นเงินต่างๆ มา เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับบุคคลต่างๆ
ถามว่า นายกฯ ระบุการปลด ร.อ.ธรรมนัสเกี่ยวอะไรกับการปราบสแกมเมอร์ นายรังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นหนึ่งในคนที่ถูกสังคมและ กมธ.สงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับนายเบน สมิธ ซึ่งตนเชื่อว่านายกฯ มีทักษะภาษาอังกฤษ ผู้ช่วยคนไหนก็ได้ ไปเปิดดู ร่างกฎหมายสภาคองเกรส ที่เขาเสนอกันได้ระบุชื่อใครบ้าง หนึ่งในนั้นคือนายเบน สมิธ ถามว่าถึงขนาดนี้จะไม่ให้เราสงสัยถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัสกับนายเบน สมิธ ได้อย่างไร
“จริงๆ แล้วเราไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ ร.อ.ธรรมนัสลาออก เราคาดหวังให้นายกรัฐมนตรีปลดออกจาก ครม.เลย นี่คือความคาดหวังของเรา ไม่ใช่เรื่องของการแสดงสปิริตแล้ว แต่เป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ผ่านมาในทุกรูปแบบและส่อนัยอย่างชัดเจนว่าคนคนนี้ไม่สามารถให้อยู่ต่อไปในตำแหน่งรองนายกฯ ได้ ไม่เช่นนั้นจะสร้างความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน” นายรังสิมันต์กล่าว
น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายกฯ ตั้งคำถามการปลด ร.อ.ธรรมนัสเกี่ยวข้องอะไรกับสแกมเมอร์ว่า ตอนนี้ทั้งประเทศเข้าใจหมดแล้ว เราไม่ได้บอกว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นสแกมเมอร์ แต่ทั้งประเทศเข้าใจหมดแล้วในเรื่องที่นายรังสิมันต์และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายในสภา แต่นายกฯ ยังไม่เข้าใจเลย จึงไม่แปลกใจเลยว่าการแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ เรื่องฟอกเงิน หรือปัญหาอื่นในประเทศนี้ถึงแก้ไม่ได้เสียที นายกฯ ยังไม่ยอมรับความจริงว่ามีปัญหานี้
พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์กล่าวถึงการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ ว่า ได้ยื่นเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องเส้นเงิน การรับผลประโยชน์จากเว็บพนันของตำรวจประมาณกว่า 30 คนเพิ่มเติม รวมทั้งนำเอกสารเส้นเงินเว็บพนันที่จ่ายไปยังชุด PTC ซึ่ง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ อดีต ผบช.ไซเบอร์ อยู่ในชุดทำงานนี้ด้วย ซึ่งจะไปเกี่ยวพันกับ "สส. ช.ช้าง" เพราะเป็นเส้นเงินที่เชื่อมโยงกัน
ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมนายทักษิณ กรณีความสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณและนายเบน สมิธ ว่า กรณีนายเบน สมิธ เป็นเพียงความรู้จัก แต่คุณทักษิณไม่เคยร่วมลงทุนอะไรด้วย ซึ่งคุณทักษิณได้แจ้งเรียนตามตรงว่าคุณทักษิณไม่เคยเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์หรือพนันออนไลน์ใดๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


