
"นายกฯ" ออกแถลงการณ์สยบข่าวชิงยุบสภาหนีซักฟอก รับรู้ตัวเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยันเดินหน้าตาม MOA ลั่นหากยื่นอภิปรายเพื่อหาทางออก ปท.พร้อมชี้แจง "สุชาติ" มั่นใจ "อนุทิน" ลูกผู้ชาย พูดครั้งเดียวจบ 4 เดือนคือ 4 เดือน "อภิสิทธิ์" กระตุก "หนู" ควรเป็นแบบอย่างผู้นำในระบอบประชาธิปไตย อย่าคิดถูกซักฟอกโดนด่าฟรี "จุลพันธ์" ย้ำฝ่ายค้านยื่นซักฟอกเรื่องปกติ รัฐบาลไม่ผิดแจงได้ ปชช.จะตัดสิน ยังไม่เคาะ 12 ธ.ค.ยื่นเลยหรือไม่ "พท." เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.รอบ 3 "จินนี่" ลูกสาว "คุณหญิงหน่อย" สนเล่นการเมือง
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย แถลงการณ์ชี้แจงประเด็นการชิงยุบสภาหากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื้อหาโดยสรุปว่า จากข้อตกลงกับพรรคประชาชน (ปชน.) จะยุบสภาภายใน 120 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 31 ม.ค.2569 ซึ่งในห้วงเวลา 120 วัน มีภารกิจสำคัญ 3 ประการคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ จัดทำประชามติ และยุบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราจะทำให้ครบ และเมื่อทำ 2 ภารกิจแรกสำเร็จแล้วก็จะยุบสภา ซึ่งจะไม่เกินเวลา 120 วันตามที่ตกลงกันไว้
นายอนุทินระบุว่า เมื่อมาเป็นรัฐบาลแล้วในห้วงเวลา 120 วันก่อนจะไปสู่การยุบสภา ในฐานะนายกฯ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนของประเทศ 4 เรื่อง คือ 1.ปัญหาเศรษฐกิจ 2.ปัญหาความมั่นคง 3.ปัญหาภัยธรรมชาติ และ 4.ปัญหาภัยสังคม ยาเสพติด ฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน ซึ่งเกิดขึ้นมาก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาทำงาน ด้วยข้อจำกัดด้านเวลารัฐบาลนี้ไม่สามารถวางแผนทำงานเกินกว่า 4 เดือนได้
นายกฯ กล่าวว่า รู้ตัวตลอดเวลาว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ดังนั้นหากมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง รัฐบาลย่อมไม่มีทางที่จะมีเสียงสนับสนุนมากกว่า รัฐบาลก็ต้องคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงกับพรรค ปชน. แต่ถ้าเป็นการยื่นญัตติเปิดอภิปรายเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของประเทศร่วมกัน พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น จัดเวทีประชุมหรือมาพูดคุยหารือกันในลักษณะแบบนี้ได้ทั้งนั้น
"หากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อมาเป็นรัฐบาลต้องพร้อมชี้แจง แม้ว่าจะมีในข้อตกลงหรือไม่มีก็ตาม รัฐบาลพร้อมชี้แจง และไม่เคยคิดที่จะจับรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน แต่เราจะเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จเร็วที่สุด ตามกรอบเวลาที่กำหนด จากนั้นจะยุบสภา" นายกฯ ระบุ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นายกฯ พูดด้วยความเป็นลูกผู้ชาย สิ่งที่รับปากไว้แล้ว การตกลงไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ครั้งสองครั้งก็รู้กันหมดแล้ว ซึ่งการยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ สถานการณ์วันนี้ไม่ควรนำเกมการเมืองมาเล่น
"การให้สัญญาประชาคมกับประชาชนทั่วประเทศไว้แล้ว ใครที่ให้สัญญาประชาคมอะไรไว้ก็ต้องปฏิบัติ มิฉะนั้นจะกลายเป็นคนที่พลิกไปพลิกมา ต่อไปประชาชนก็จะไม่เชื่อถือ และนายกฯ บอกแล้วชัดเจน 4 เดือนก็คือ 4 เดือนที่ทำงาน หลังจากนั้นก็ว่ากันตามระบอบประชาธิปไตย" นายสุชาติกล่าว
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเลือกตั้งว่า พรรคกล้าธรรม (กธ.) มีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ผู้สมัคร สส.ครบทั้ง 400 เขต บางส่วนก็มาจากพรรคการเมืองอื่น ยืนยันพรรคมีความพร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้ง
ถามถึงกรณีนายกฯ ระบุอาจยุบสภาก่อนกำหนด ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มองเลย ทำงานอย่างเดียว โดยหลังจากนี้ตนเองก็จะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัดตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมุ่งมั่นแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน
ซักถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม เรียกร้องนายกฯ ให้ปลดท่านออกจากตำแหน่ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การเมืองก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าไปคิดมาก เป็นเรื่องธรรมชาติของการเมือง ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ของเขาเพื่อให้มีความโดดเด่น เพราะไม่สามารถสร้างผลงานในรูปแบบการบริหารจัดการได้ ก็ถือเป็นเรื่องปกติอย่าไปคิดมาก
ติงอย่าคิดซักฟอกคือโดนด่าฟรี
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีนายกฯ อาจยุบสภาก่อนกำหนดว่า ถ้าสมมติเกิดเหตุอะไรขึ้นเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องทำเท่าที่เราทำได้ แต่ความตั้งใจคือเราเชื่อว่าสามารถที่จะส่งผู้สมัครได้ เร่งทำนโยบาย เพื่อหาคำตอบให้ประชาชน เวลาในการรณรงค์การเลือกตั้ง หลังยุบสภาตีเสียว่า 2 เดือน
“เพียงแต่จากที่ฟังนายกฯ พูดว่าจะยุบสภาเพียงเพราะไม่อยากถูกด่าฟรี ผมก็อยากจะบอกท่านว่า จริงๆ อยากจะให้ท่านเป็นแบบอย่างของนายกฯ ในระบบรัฐสภา อย่ามองว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการมาด่ากันหรือถูกด่าฟรี นั่นคือความสง่างามของผู้นำในระบอบประชาธิปไตย ที่รับการตรวจสอบจากคนที่เป็นเป็นตัวแทนของประชาชน ถ้าท่านมั่นใจในสิ่งที่ท่านทำ ถ้าท่านมั่นใจในสิ่งที่ท่านเป็น มันไม่มีเหตุผลที่จะไปสร้างประเพณีของการยุบสภา เพราะว่าไม่ยอมรับกระบวนการไม่ไว้วางใจ จริงๆ ท่านเพิ่งเข้ามาทำงานสั้นมาก ก็น่าจะมีความพร้อมที่จะตอบในหลายสิ่งหลายอย่าง เพราะในฐานะที่เคยเป็นฝ่ายค้านมาหลายครั้ง คนเพิ่งเริ่มทำงานนี่ไม่ง่ายที่จะไปหาเรื่องมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ พรรคจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. แต่ในทางกฎหมาย เราต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน เพราะ กกต.ยังไม่รับรองคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ดังนั้นเราจึงดำเนินการไปก่อนโดยประกาศเชิญชวนให้มาร่วมงานกับพรรค
ถามถึง สส.เก่า ทั้งนายกาญจน์ ตั้งปอง สส.ตรัง และนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา ได้ประกาศยังอยู่กับพรรค ปชป. ได้พูดคุยกันแล้วหรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา นายกาญจน์มาพบตนเพื่อยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่ ส่วนนายศักดิ์สิทธิ์ยังไม่มีโอกาสพบกัน แต่ทราบจากข่าวว่าได้กล่าวเช่นนั้น แต่ทั้งหมดนี้ใครที่ตัดสินใจอยู่กับเราก็ต้องเดินตามแนวทางที่เรากำหนดกันไว้
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงกรณีนายกฯ อาจยุบสภาหากมีการยื่นซักฟอก เพราะไม่อยากถูกด่าฟรีว่า กระบวนการตามระบบประชาธิปไตยในการยื่นญัตติ เช่น มาตรา 151 คือการตรวจสอบรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องด่าหรือไม่ด่า พวกตนตรวจสอบเพราะเป็นฝ่ายค้าน และเมื่อใครเป็นฝ่ายค้านกระบวนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นเรื่องปกติตามระบบประชาธิปไตย ฉะนั้นอยากให้รัฐบาลมองว่าเป็นเรื่องการตรวจสอบ
"การตรวจการบ้านและหากมองว่าประพฤติถูกต้อง ไม่มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องที่เขาว่ากันว่าปัดเป่า ทั้งคดีฮั้ว สว. เขากระโดง ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ต้องห่วง ถ้าอภิปรายไปแล้วยังเป็นหนังเรื่องเก่า เนื้อเรื่องเก่า ก็เป็นความเสียหายของฝ่ายค้านที่จะดำเนินการในการอภิปราย และเป็นเวทีเปิดสภา ไม่ใช่พูดแค่ฝั่งเดียว พวกผมอภิปรายได้ ท่านก็สามารถตอบได้ หากตอบได้เคลียร์ ตอบได้ชัด ก็เป็นโอกาสของรัฐบาลในการชี้แจงทำความเข้าใจ ไม่ใช่แค่กับสภาเท่านั้น แต่กับประชาชนชาวบ้านที่ได้ฟังด้วย อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องการไปด่า" นายจุลพันธ์กล่าว
ถามว่า หากเปิดสมัยประชุมหน้าวันที่ 12 ธ.ค. จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า ยังไม่มี ไม่ได้พูดคำนั้น และยังไม่มีข้อสรุป ทางพรรคต้องมีการประชุมหารือกันกับผู้ใหญ่หลายคน เพื่อจะมาดูว่าความเหมาะสม และจังหวะเวลาคืออะไร จะดำเนินการหรือไม่อย่างไรต้องมาดูกันอีกครั้งหนึ่ง
ลูกสาวหญิงหน่อยสนการเมือง
วันเดียวกัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค พท. พร้อมแกนนำพรรค เปิดตัวผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส.พรรค พท.เป็นครั้งที่ 3 โดยแกนนำได้สวมเสื้อแจ็กเกตให้กับผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครทั้งสิ้น 18 จังหวัด 31 เขตเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส. พรรค พท.ครั้งนี้ ที่น่าสนใจ อาทิ นายวิชัย ไชยมงคล จังหวัดพะเยา อดีตเลขาฯ ป.ป.ส., นายวัชรพล เชื้อคง จังหวัดอุบลราชธานี บุตรชายนายสมคิด เชื้อคง, นายสุไพรพล ช่วยชู กทม. คู่สมรสของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายจุลพันธ์กล่าวว่า พรรค พท.มั่นใจในการเปิดตัวผู้สมัครชุดที่ 3 เพราะได้คัดสรรผู้สมัครอย่างดี ซึ่งทั้งหมดได้เปิดตัวไปแล้ว 265 เขตเลือกตั้ง นำหน้าพรรคอื่นไปเยอะ ส่งสัญญาณว่าพรรคพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง
ถามว่า จากหน้าตาของผู้สมัครและศักยภาพยังตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 200 เขต หรือมองมากกว่านั้นหรือไม่อย่างไร หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า แน่นอน
ที่โรงแรมเจซี เควิน สาทร พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) จัดเวทีสัมมนาทุบทุนเถื่อน โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท. กล่าวประกาศเจตจำนงทางการเมืองอย่างชัดเจนว่า พรรค ทสท.มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในการสร้างการเมืองสุจริต เพื่อพาประเทศออกจากหลุมดำ นำการพัฒนาสู่ประเทศ พาประชาชนหลุดพ้นความยากจน
"พรรค ทสท.ไม่โกง และจะไม่ปล่อยให้ใครมาโกงชาติบ้านเมือง คนเลวต้องไม่มีที่ยืนในสังคมไทย ที่ยืนที่เดียวของคนโกงคือในคุก เพื่อยืนยันความตั้งใจของพรรคที่จะผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบการเมืองที่โปร่งใสและยุติธรรมอย่างแท้จริง" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ หรือ จินนี่ บุตรสาวของคุณหญิงสุดารัตน์ เปิดใจถึงเส้นทางทางการเมืองของตัวเอง หลังถูกจับตามองในฐานะทายาทของคุณหญิงสุดารัตน์ว่า การเมืองไม่ใช่มรดกที่ตกทอดจากคุณแม่ แต่เป็นความตั้งใจของตัวเองตั้งแต่ต้น บ้านเราไม่ได้มีแนวคิดว่าการทำงานการเมืองของผู้ใหญ่จะต้องส่งต่อเป็นมรดก แต่หากถามว่าตัวเองมีความสนใจทางการเมืองไหม มีอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่เด็กจนโตก็ได้ลงพื้นที่กับคุณแม่มาตลอด เรียกได้ว่าโตมาในรถเลย เห็นทั้งความเหน็ดเหนื่อย เห็นทั้งพลังและความตั้งใจของคุณแม่ ในการทำงานเพื่อประชาชน
ส่วนพรรคไทยก้าวใหม่ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ เป็นประธานเปิดที่ทำการพรรค โดยระบุว่า เสมือนเป็นการขึ้นบ้านใหม่ เปิดหัวใจ เปิดความหวัง และเปิดพลังของคนรุ่นใหม่ เพื่อเริ่มก้าวใหม่ของประเทศไทย ซึ่งพรรคไทยก้าวใหม่เชื่อว่าการเมืองไทยแบบใหม่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง และหันมาร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลง ด้วยอุดมการณ์ ความกล้าหาญ พลังของความรู้ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของทุกคน
ด้านนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกระแสข่าวยื่นยุบพรรคประชาชน (ปชน.) ว่า ทีมงานตนได้เดินทางไปยื่น กกต.จริง เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรค ปชน. จากกรณีการตั้งเด็กอายุเพียง ม.4 เป็นผู้ช่วย สส.และการใช้เงินเดือนของผู้ช่วย สส.ไปจ่ายเป็นค่าสมัครสมาชิกพรรค
อย่างไรก็ตาม นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนายไผ่ยื่น กกต.ยุบพรรค ปชน. ตอนหนึ่งระบุว่า หวังว่านักการเมืองอาชีพที่อยู่มานานแบบคุณไผ่ จะมีข้อมูลเด็ด มาหักล้างกับเอกสารและหลักฐานที่น้องใช้ยื่นกับสภา ไม่ใช่ปั้นข่าวขึ้นมา เพราะแค้นที่ถูกคุณไอซ์ปั่นจนหัวหมุนมาหลายครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


