เป็นแม่ของชาติ พสกนิกรถวายสักการะพระบรมศพต่อเนื่อง

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร วันที่ 2 พระราชทานหนังสือ "สมเด็จแม่กับการศึกษา"-"เสด็จฯ  ดอย" แก่ผู้เข้าร่วมพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร เปิดเข้ากราบพระบรมศพ “พระพันปีหลวง” บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 9 พ.ย.นี้วันแรก พสกนิกรถวายสักการะพระบรมศพต่อเนื่อง  เชิดชูทรงเป็นแบบอย่าง เป็นแม่ของชาติ

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.28 น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวารถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ  เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี  โดยเสด็จในการนี้ด้วย

โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน พระธิดาคนเล็กในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี รอเฝ้าฯ  รับเสด็จ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ ทรงกราบ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์  เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จบ พระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์แต่วันก่อนถวายพรพระ จบ

ทรงทอดผ้าไตร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ จนครบ 10 รูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร 10 ไตร เที่ยวแรก  ประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์สดับปกรณ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่งแล้ว เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีกเที่ยวละ 10 รูป จำนวน 2 เที่ยว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร ทรงปฏิบัติเช่นนี้จนครบ 2 เที่ยว เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 11 รูป ในจำนวน 93 รูปที่จะสดับปกรณ์เท่าพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ แล้วสวดมาติกา จบ  เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร 11 ไตร เที่ยวแรก ประทับพระราชอาสน์  พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก  ถวายพระพรลาแล้ว เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีกเที่ยวละ 11 รูป จำนวน 2 เที่ยว ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงปฏิบัติเช่นนี้จนครบ 2 เที่ยว เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีกเที่ยวละ 10 รูป จำนวน 3 เที่ยว ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีกเที่ยวละ 10 รูป จำนวน 3 เที่ยว ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงปฏิบัติเช่นนี้จนครบ 3 เที่ยว 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปที่หน้าพระโกศ ทรงกราบ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ผ่านแถวข้าราชการผู้มาเฝ้าฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมด้านตะวันออก และต้านตะวันตก ณ มุขเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงคม ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ  มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ลงทางมุขกระสันพระที่นั่งพิมานรัตยา  เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูกำแพงแก้วข้างพระที่นั่งราชกรัณยสภา เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ประชาชนเข้าถวายสักการะต่อเนื่อง

ภายหลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวารถวายพระบรมศพฯ สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมลงนามถวายความอาลัยในสมุดหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม และสนามหญ้าหน้าศาลาลูกขุนใน พระบรมมหาราชวัง อย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีราชสกุล คณะบุคคล และประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกสารทิศ แต่งกายด้วยชุดดำไว้ทุกข์และชุดชาติพันธุ์ เดินทางมาเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พร้อมลงนามถวายความอาลัยในสมุดหลวงเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  อย่างต่อเนื่องด้วยความอาลัยและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา 

อาทิ ราชสกุลมนตรีกุล, ราชสกุลวัชรีวงศ์,  ราชสกุลจรูญโรจน์, ราชสกุลเทพหัสดิน, นักเรียนและนักศึกษามูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร,  คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม, คณะผู้บริหาร บุคลากรทางการแพทย์มูลนิธิเทียนฟ้าและโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ, คณะผู้บริหารและครูโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง ในพระบรมราชูปถัมภ์, ครูและลูกเสือเนตรนารีโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว, สมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์, มูลนิธิธรรมดี,  ศิษย์เก่านักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบ รุ่น 71,  สมาคมศิษย์เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ในพระบรมราชินูปถัมภ์, คณะครูและนักเรียนโรงเรียนวัดพุทธบูชา ฯลฯ

เป็นแม่ของชาติ

น.ส.นราพร ภูงามเขียน อายุ 60 ปี ข้าราชการเกษียณจาก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตั้งใจมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นโอกาสครั้งหนึ่งที่เราจะได้มาส่งเสด็จท่าน พรุ่งนี้ตนก็จะมากราบพระบรมศพพระพันปีหลวงบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทอีกครั้ง  สำหรับพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่ตนประทับใจ คือทรงส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้านจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างผ้าไหมแพรวา มาต่อยอดกลายเป็นมรดกโลก

“ทรงเป็นแบบอย่าง เป็นแม่ของชาติ พระองค์ไม่ได้นึกถึงตัวเองเลย นึกถึงแต่ประชาชนเป็นหลักว่าประชาชนจะอยู่อย่างไร จะอิ่มไหม จะสุขไหม  ขนาดท่านป่วยท่านแพ้ฝุ่นจนพยาบาลต้องขอให้พัก ท่านจะไม่ยอม ท่านบอกว่าประชาชนรออยู่  และในช่วงที่เกิดวิกฤตคอมมิวนิสต์ในไทยท่านก็ไปหาประชาชนถึงที่" น.ส.นราพรกล่าว

ด้านนายสงวน แสงใจหนัก ชาวไทยทรงดำ จ.เพชรบุรี กล่าวว่า ตลอดเดือน พ.ย.นี้ ตนจะเข้ามาสักการะพระบรมศพพระพันปีหลวง พระองค์ท่านคือนางฟ้าในแผ่นดินของเรา น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ท่านเป็นแบบอย่างในเรื่องความสมถะ และเป็นแบบอย่างในทุกๆ เรื่องที่คนไทยได้ปฏิบัติตาม ที่ทำให้ทุกคนเคารพรัก ขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ประเทศไหนก็ไม่มีเหมือนประเทศไทยเรา คนทุกเชื้อชาติอยู่ร่วมกันได้  สังคมไทยไม่มีการแบ่งชาติ ศาสนา

ขณะที่ นายมาเทียส มาเทียสเซน อายุ 59 ปี เดินทางมาจากประเทศเดนมาร์ก พร้อมนางเตือนใจ มาเทียสเซน อายุ 49 ปี กล่าวว่า วันนี้ตนมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์พระพันปีหลวง จะจดจำช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้ไว้ ตนรู้สึกเสียใจไม่ต่างกับคนไทยที่สูญเสียแม่ของแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่

ส่วนนางเตือนใจกล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่พระองค์ท่านจากไป เรารักในหลวง รัชกาลที่ 9 รักพระพันปี เกิดมาเห็นพระองค์ท่านมาโดยตลอด  การมาที่นี่ได้มากราบลาพระองค์ท่านก่อนที่พวกเราจะเดินทางกลับเดนมาร์กในวันพรุ่งนี้ พวกเรารักพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ทั้งในหลวง พระราชินี  และพระบรมวงศานุวงศ์ ถึงแม้ตนจะอยู่เมืองนอก แต่ภูมิใจที่เรามีพระมหากษัตริย์ไทย อีกทั้งราชวงศ์ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับราชวงศ์เดนมาร์ก

'สมเด็จแม่กับการศึกษา'  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหนังสือ  “สมเด็จแม่กับการศึกษา” และ “เสด็จฯ ดอย  จดหมายเหตุรายวันคราประทับภูพิงคราชนิเวศน์ เชียงใหม่ พ.ศ.2513” โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานในโอกาสพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) ถวายพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง โดยพระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีในครั้งนี้ พร้อมกันนี้พระราชทานภาพพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และภาพการประดิษฐานพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทด้วย

สำหรับหนังสือเรื่อง “สมเด็จแม่กับการศึกษา”   เป็นพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราช กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ที่ทรงพระราชนิพนธ์ ทรงประสบด้วยพระองค์เอง  และเรื่องเก่าๆ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเล่าพระราชทานแล้วทรงประทับพระทัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการศึกษา จากความตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ “สมเด็จแม่กับการศึกษา” ว่า

ทรงรักการอ่านหนังสือมาก

“...เพื่อนๆ และครูคงจะจำได้ดีว่า ข้าพเจ้าเป็นคนที่เรียนภาษาอังกฤษแย่มากตั้งแต่เด็กๆ ไม่ตั้งใจเรียน และหลบเลี่ยงบ่อยๆ เมื่อถูกจับได้และถูกทูลฟ้องก็ไม่ได้โดนกริ้ว แต่ก็ต้องเรียนพิเศษเพิ่มเติม ที่สำคัญที่สุดคือทรงสอนเอง ให้อ่านหนังสือ และจดศัพท์ที่ไม่ทราบลงในสมุด ตอนหลังคือเมื่อประมาณ พ.ศ.2507 พระราชทานสมุดให้จด บางทีก็จดพระราชทานด้วย สมุดเล่มนั้นยังอยู่จนทุกวันนี้  ข้าพเจ้าชอบให้มีการสอบ เพราะว่าถ้าท่องคำศัพท์ได้ จะได้รับพระราชทานเงินคำละบาท..."

จากพระราชนิพนธ์ดังกล่าวทำให้เห็นถึงพระอุปนิสัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ว่าทรงรักการอ่านหนังสือมาก และพระอุปนิสัยรักการอ่านหนังสือได้ถ่ายทอดมายังพระราชโอรส พระราชธิดาทุกพระองค์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพระราชวังประกาศเรื่อง การถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง กำหนดให้ประชาชนสามารถเข้าถวายสักการะพระบรมศพฯ ใน 4 ช่วงเวลา ดังนั้น ช่วงที่ 1 เวลา 08.00 น.-10.45 น., ช่วงที่ 2 เวลา 12.00 น.-16.45 น., ช่วงที่ 3 เวลา 17.45 น.-18.30 น. และช่วงที่ 4 เวลา 19.45 น.-21.00 น. เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย.2568

ส่วนการแต่งกายของผู้ที่จะมาสักการะพระบรมศพฯ ขอความร่วมมือให้ทุกคนโปรดแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์ สีดำ ขาว เสื้อคอปก ไม่แขนกุด ชุดชาวเขาสำหรับชาวเขา ชุดลูกเสือสำหรับลูกเสือ  สุภาพสตรีต้องสวมกระโปรงผ้าหรือผ้าถุงเท่านั้น  งดสวมกระโปรงยีนส์ หรือกางเกงยีนส์. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.