ปชช.ถวายบังคมพระบรมศพ

วันแรกเปิดเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง”     พสกนิกรทั่วประเทศน้ำตาคลอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เจ้าชายซานดอร์ ฮับส์บวร์ก ส่งพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เวลา 07.00 น. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเป็นประธานในพิธีรับพระราชทานภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้น เวลา 11 .00 น. ม.จ.ฑิฆัมพร ยุคล  ทรงเป็นประธานในพิธีรับพระราชทานภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

ต่อมา เวลา 17.00 น. และเวลา 19.00 น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี  เป็นผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในการบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

วันเดียวกัน สำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง  โดยเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมทุกวัน เวลา  08.00-21.00 น. ซึ่งวันนี้เป็นวันแรก โดยให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพใน 4 ช่วงเวลา ดังนี้ ช่วงที่ 1 เวลา 08.00 น.-10.45 น., ช่วงที่ 2 เวลา 12.00 น.-16.45 น., ช่วงที่ 3 เวลา 17.45 น.-18.30 น. และช่วงที่ 4 เวลา 19.45 น.-21.00 น. 

โดยบรรยากาศวันแรกตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ประชาชนทุกสารทิศแต่งกายไว้ทุกข์ผ่านจุดคัดกรองภายในพื้นที่สนามหลวง จากนั้นเจ้าหน้าที่จิตอาสาจะพาลงไปที่อุโมงค์หน้าพระลาน บริเวณทางเข้าที่ 1 จากนั้นมาที่บริเวณประตูมณีนพรัตน์ เดินเลียบกำแพงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ผ่านห้องจำหน่ายบัตรเข้าชมพระบรมมหาราชวัง เข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เดินผ่านหมู่พระมหามณเฑียร พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท  มุ่งหน้าเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้านกำแพงฝั่งทิศตะวันออก ขึ้นกราบถวายบังคมพระบรมศพตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เสร็จแล้ว เมื่อลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เดินออกทางกำแพงแก้วฝั่งทิศตะวันตก เดินออกประตูเทวาภิรมย์ ข้ามไปยังท่าราชวรดิษฐ์ โดยประชาชนกลุ่มแรกมาถึงพื้นที่สนามหลวงตั้งแต่เช้ามืด และเฝ้ารอเวลาที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ด้วยความอาลัยและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา

นายบารอน อเล็กซานเดอร์ กราฟ เดอ แพงโซวา อัศวินผู้ใหญ่แห่งออสเตรีย และมหาเสนาบดีแห่งภาคี นำคณะผู้แทนจากสาธารณรัฐออสเตรีย นายทหารชั้นผู้ใหญ่จากกองทัพออสเตรียจากนานาประเทศ และชาวไทย ดร.โสภิตา ชาญวิชัย ทูตผู้แทนเครื่องอิสริยาภรณ์เซนต์สตานิสลาสประจำประเทศไทย และในฐานะนายกสมาคมเพื่อนไทยในออสเตรีย รวม 40 คน เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 

บารอน อเล็กซานเดอร์ กล่าวว่า ก่อนการเดินทางมาไทย ได้รับพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต  จากเจ้าชายซานดอร์ ฮับส์บวร์ก-โลธริงเงน ผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์ฮับส์บวร์ก เหลนในสมเด็จจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟ แห่งออสเตรีย วันนี้ได้เชิญพระราชสาส์นฉบับดังกล่าวมอบให้สำนักพระราชวังเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามากราบพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวง ไทยและออสเตรียมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แน่นแฟ้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่  5 เสด็จประพาสออสเตรเลีย 2 ครั้ง ทรงมีไมตรีกับกษัตริย์ฟรันซ์ โยเซฟ อีกทั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จฯ ออสเตรเลีย 2 ครั้ง ตนและชาวออสเตรียมีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จ และให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ยังเป็นภาพในความทรงจำ หลังสวรรคตรู้สึกเสียใจ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวงเป็นที่รับรู้ทั่วโลก ทรงงานหนักเพื่อพัฒนาประเทศชาติและช่วยเหลือชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ผมมาเป็นตัวแทนชาวออสเตรียแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้” บารอน อเล็กซานเดอร์ กล่าว

น.ส.วรรณี ศรีอรัญ อายุ 52 ปี ชาว จ.นราธิวาส กล่าวภายหลังเข้าถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวงว่า ป่วยเป็นเนื้องอกไขสันหลังทับเส้นตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เคยรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระพันปีหลวง และกรมสมเด็จพระเทพฯ ที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรใน จ.นราธิวาส ทรงรับตนเองไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์สมเด็จพระพันปีหลวง  ก่อนส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า  กรุงเทพฯ รู้สึกซาบซึ้งใจมาก เมื่อครั้งรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านเดินมาจับที่แขนแล้วถามอาการ ก่อนส่งตัวมารักษา หมอส่วนใหญ่บอกว่าไม่รอด ดีใจมากที่รอดชีวิตมาได้ 41 ปีแล้ว ในหลวงรัชกาล 9 เสด็จสวรรคต ได้บวชชีปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศล วันนี้ตั้งใจเดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ จะขอตอบแทนพระองค์ด้วยการคิดดีทำดีถวายสมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อตอบแทนพระองค์ท่าน

น.ส.เรืองศรี บุญมี อายุ 46 ปี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า มาพร้อมครอบครัว 7 คน รีบออกจากบ้านย่านบางกะปิตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. ถึงสนามหลวงเวลา 03.30 น. จากนั้นพาคุณแม่อายุ 84 ปี ซึ่งเดินทางมาจาก จ.พังงา นั่งรถเข็นมาต่อแถวเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทันทีที่ขึ้นบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้กราบถวายบังคม รู้สึกตื้นตันใจและน้ำตาไหล โชคดีที่มีโอกาสได้มา คุณแม่ก็ตั้งใจมากราบ แม้จะป่วยด้วยโรคหัวใจ นั่งรถเข็นก็ไม่ย่อท้อ พสกนิกรชาวไทยรักสมเด็จพระพันปีหลวงมาก

นายชานน แก้วมีศรี ข้าราชการบำนาญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อายุ 53 ปี กล่าวว่า  ตนและภรรยาพาคุณแม่อายุ 75 ปี ซึ่งเพิ่งผ่าตัดเข่านั่งรถเข็นมากราบถวายบังคมพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ได้เข้าถวายสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์ที่ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง เมื่อได้มากราบถวายบังคมพระบรมศพต่อหน้าพระโกศ  เกิดความรู้สึกล้นในหัวใจ คุณแม่ร้องไห้ตลอดด้วยความเสียใจ

ทั้งนี้ ประชาชนที่เดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท  ในพระบรมมหาราชวัง หลังเวลา 15.30 น. จนถึงเวลา 21.00 น. เมื่อเข้าประตูมณีนพรัตน์ จะเดินเลี้ยวขวา ผ่านแผนกแพทย์หลวง เลี้ยวซ้ายแยกกองรักษาการณ์วิเศษไชยศรี เข้าถนนจักรีจรัล ผ่านประตูพิมานไชยศรี เลี้ยวขวาหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่พระที่ดุสิตมหาปราสาท ด้านกำแพงฝั่งทิศตะวันออก ขึ้นกราบพระบรมศพตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เสร็จแล้วเมื่อลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทจะเดินออกทางกำแพงแก้วฝั่งทิศตะวันตก เดินออกประตูเทวาภิรมย์ ข้ามไปยังท่าราชวรดิฐ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จิตอาสาและเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดรถรางไฟฟ้าให้บริการกลับไปส่งที่สนามหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณทางออกที่ประตูเทวาภิรมย์ ได้มีบริการน้ำดื่มจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), น้ำดื่มสิงห์ จากบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด, น้ำดื่ม AIS และน้ำดื่ม วิริยะประกันภัย แจกจ่ายให้ประชาชน นอกจากนี้ มีจุดรับคืนผ้าถุงด้วย ขณะที่ด้านซ้ายของประตูเทวาภิรมย์ มีเต็นท์พร้อมเก้าอี้นั่งให้บริการประชาชนนั่งพัก และมีรถ Shuttle Bus ติดแอร์ให้บริการจากประตูเทวาภิรมย์ไปยังสนามหลวง  เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางกับรถ Shuttle Bus ที่จะไปยังจุดต่างๆ  ต่อได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.