พระราชทานผ้าถุง-ริบบิ้นดำแก่ปชช.

"เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ"   พระราชทานผ้าถุง-ริบบิ้นดำ แก่ประชาชนที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ "พระพันปีหลวง"  พสกนิกรทั่วภูมิภาคหลั่งไหลต่อเนื่องวันที่สาม  เจน Z ซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ ยอดถวายสักการะ-ลงนามอาลัยทะลุ 50,000 คน

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน เวลา 06.55 น.  ท่านหญิงศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์ เป็นประธานบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ   สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง 

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นประธานบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์   พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

จากนั้น เวลา 17.00 น. นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นประธานบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

และเวลา 19.00 น. ท่านหญิงศรีสว่างวงศ์  บุญจิตราดุลย์ เป็นประธานบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

วันเดียวกัน ตามที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยจะเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น. เริ่มวันที่ 9 พ.ย.2568 เป็นต้นไปนั้น

บรรยากาศในวันที่สามของการเปิดให้กราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ตลอดทั้งวันประชาชนจากกรุงเทพมหานครและภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย แต่งกายด้วยชุดสีดำไว้ทุกข์ เดินทางมาเฝ้ารอเข้าจุดคัดกรองจำนวนมาก ทั้งที่เดินทางมาเองและเป็นหมู่คณะ ประชาชนกลุ่มแรกมาถึงจุดคัดกรองตั้งแต่เวลา 05.00 น. ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดให้ประชาชนเข้าจุดพักคอยตั้งแต่เวลา 07.30 น. จนถึงเวลา 21.00 น. จากนั้นประชาชนทยอยเดินผ่านจุดคัดกรองต่างๆ เข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วกราบถวายบังคมเบื้องหน้าพระโกศด้วยความอาลัย และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา  แม้ในช่วงเย็นจะมีฝนตกก็ไม่ท้อ โดยมีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาพระราชทานคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง

น.ส.ณัฐฌาณี สุวัฒนากุลกิจ อายุ 21 ปี เดินทางมาพร้อมป้า น.ส.ปภาดา โพธิวิเศษ ชาวจังหวัดระนอง กล่าวว่า ตนและป้าซึ่งมาจากระนอง ตั้งใจมากราบถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระโกศสมเด็จพระพันปีหลวงสักครั้งหนึ่งในชีวิต ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ  อยากใช้เวลาบนพระที่นั่งที่ดุสิตมหาปราสาทให้นานที่สุด อยากเก็บทุกรายละเอียด รวมถึงซึมซับพระราชพิธีตามโบราณราชประเพณี ในสมัยในหลวง รัชกาลที่ 9 สวรรคต ตน คุณแม่ และป้า ขึ้นกราบถวายบังคมพระบรมศพ แต่ครั้งนั้นยังเล็กมาก วันนี้เป็นอีกครั้ง คนไทยสูญเสียและประชาชนมากมายหลั่งไหลเดินทางมา โดยเฉพาะคนสูงอายุ บางคนนั่งรถเข็น บางคนเดินไม่สะดวก คนพิการ สภาพอากาศร้อน แต่ไม่ท้อ เพราะทุกคนคิดถึงพระองค์ท่าน

นางอรพิน ตาดทอง ชาวคันนายาว กรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้นัดหมายกับเพื่อนอีก 2 คน เดินทางจากบ้านย่านคันนายาวเวลา 06.00 น. มาถึงจุดคัดกรองสนามหลวงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง มีจุดบริการน้ำดื่ม ใช้เวลาไม่นานได้ขึ้นกราบ ตนและเพื่อนๆ  มุ่งมั่นจะมากราบถวายบังคมพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ติดตามข่าวงานพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวงทุกวัน ทั้งรายงานข่าวและข่าวพระราชสำนักเวลา 20.00 น. ทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกว่าพระองค์ยังอยู่ ไม่ได้จากไปไหน ทรงสถิตในดวงใจของคนไทยตลอดไป เพื่อนตนเป็นข้าราชการกรมประมง ก็สำนึกในพระเมตตา    สมเด็จพระพันปีหลวงทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผืนป่า ดูแลแหล่งน้ำ ทรงปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและปลาในแม่น้ำทั่วประเทศ รวมถึงมีฟาร์มทะเลตัวอย่าง การฟื้นฟูทรัพยากรตามโครงการพระราชดำริดำเนินการสำเร็จ ตนจะมาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพอีกครั้ง นัดกับลูกไว้ เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระพันปีหลวง

นางณดา วิธานติรวัฒน์ อายุ 74 ปี ชาว จ.นครปฐม เดินทางมาคนเดียวตั้งแต่ 7 โมงเช้า  กล่าวว่า ตั้งใจมากราบถวายบังคมพระบรมศพด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เมื่อครั้งครบ 7 วันก็กราบถวายสักการะแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้มาครั้งที่สอง ความรู้สึกเหมือนมากราบแม่ เพราะตนก็มีแม่อายุใกล้เคียงกับสมเด็จพระพันปีหลวง ประทับใจพระองค์ในทุกสิ่งทุกอย่าง พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ไม่มีใครเทียบได้  อย่างเรื่องโขน ที่พระองค์ได้ทรงรักษาไว้เพื่อคนไทย ซึ่งตนได้เดินไปดูโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ทุกอย่างงดงามมาก และตอนนี้ก็กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่งดงามและเป็นมรดกให้กับคนรุ่นหลังต่อไป

 “แม้ไม่เคยเฝ้าฯ รับเสด็จ แต่รักพระองค์มาก  ประทับใจพระองค์ทุกเรื่องทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่ไม่ประทับใจพระองค์เลย ติดตามข่าวพระองค์มาตั้งแต่สมัยตัวเองสาวๆ จนแก่ ที่บ้านก็มีพระฉายาลักษณ์ตั้งไว้กลางบ้าน หลังจากนี้ตั้งใจจะมากราบถวายบังคมพระบรมศพอีก และตั้งใจจะมาวันพระราชทานเพลิงพระบรมศพเพื่อส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย แม้จะขาไม่ดี เพราะเป็นประสาททับเส้นประสาท แต่พอได้มากราบพระบรมศพกลับเดินคล่องมาก ซึ่งตัวเองก็ได้อธิษฐานว่า ถ้ามีบุญได้เข้ามากราบพระองค์ ก็ขอให้ไม่มีอะไร ทำให้สามารถนั่งรถมา 3 ทอดประมาณ 3 ชั่วโมง มาต่อคิวเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ น้อมแสดงความอาลัยถวายสมเด็จพระพันปีหลวงได้อย่างที่ตั้งใจ" นางณดากล่าว

สำหรับประชาชนที่ประสงค์ถวายเงินในงานพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  สามารถมาที่โต๊ะกองคลัง ภายในเต็นท์รับรองด้านหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. ทั้งนี้ ประชาชนจะต้องเขียนคำนำหน้า ชื่อ นามสกุล และจำนวนเงินด้วยตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่สองของการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้น หลังปิดการขึ้นกราบถวายบังคมพระบรมศพ พบว่าประชาชนเข้ากราบถวายบังคมมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,752 คน โดยตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เป็นวันแรกที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง มียอดประชาชนสะสมรวม 50,485 คน (ข้อมูลวันที่ 10 พ.ย.68 เวลา 21.00 น.)

ทั้งนี้ วันที่ 12 พ.ย.2568 เวลา 13.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้ผู้แทนพระองค์เชิญสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ ผ้าถุง ถุงผ้า และริบบิ้นสีดำติดดอกไม้  ไปมอบแก่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนที่จะเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพฯ ได้ยืมสวมใส่ ณ ห้องอมรพิมาน ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.