กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย “พระพันปีหลวง” ปชช.ยืมผ้าถุงพระราชทานเข้ากราบพระบรมศพวันที่ 4 ผู้บกพร่องทางสายตาเทิดทูนทรงเป็นแสงสว่างให้ผู้พิการ กรมศิลป์สำรวจพบความเสียหายพระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ กรมสรรพาวุธทหารบกตรวจกลไก ล้อ-เพลาราชรถ เตรียมวางแผนบูรณะ-สร้างทดแทน ระดมช่างสิบหมู่ร้อยชีวิตคืนความงดงาม เพื่อให้สมพระเกียรติสูงสุด
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 07.33 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานฉันเช้าแด่พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โอกาสนี้ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ท่านหญิงศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์ และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน โดยเสด็จด้วย เป็นพระพิธีธรรมจากวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดสระเกศ รวม 8 รูป ซึ่งสวดพระอภิธรรมพระบรมศพตั้งแต่ค่ำวันที่ 11 พ.ย.
จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเวลา 19.00 น. ท่านหญิงศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์ เป็นประธานบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันเดียวกัน เวลา 13.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้ พล.อ.ศิวะ ภระมรทัต กรมวังผู้ใหญ่ ประจำวังศุโขทัย และนางศรินดา จามรมาน เลขานุการส่วนพระองค์ฯ เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ ผ้าถุงสีดำทรงออกแบบ จำนวน 2,000 ผืน, ผ้าถุงสีดำทรงออกแบบ สำหรับเด็ก จำนวน 40 ผืน, ถุงใส่รองเท้า จำนวน 1,000 ถุง และเข็มกลัดริบบิ้นสีดำติดดอกไม้ประดิษฐ์ จำนวน 200 ชิ้น จัดทำโดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปมอบแก่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ห้องอมรพิมาน ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยืมสวมใส่อย่างถูกต้องตามจารีตประเพณี ก่อนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งกรุงเทพมหานครตั้งจุดสำหรับจ่ายยืมสิ่งของพระราชทานภายในโถงอุโมงค์ทางลอดถนนหน้าพระลาน
สำหรับเข็มกลัดริบบิ้นสีดำ ตรงกลางประดับด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ ได้แก่ “โมกราชินี” และ “มณีเทวา” ดอกไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้พระราชทานนามไว้ เป็นเครื่องหมายถึงการแสดงความอาลัย และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในวันที่ 4 ของการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.นั้น ตลอดทั้งวัน พสกนิกรจากกรุงเทพมหานครและภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย แต่งกายด้วยชุดสีดำสุภาพไว้ทุกข์ เดินทางมาเฝ้ารอเข้าจุดคัดกรองจำนวนมาก ทั้งที่เดินทางมาเองและเป็นหมู่คณะ แม้ในช่วงบ่ายฝนตกหนัก แต่ประชาชนไม่ย่อท้อ มุ่งมั่นเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ
น.ส.อารียา ปรางค์ประยูร อายุ 48 ปี ผู้บกพร่องทางสายตา ประเภทเลือนราง มาจากเขตบางกะปิ กรุงเทพฯ กล่าวว่า ตั้งใจมากราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวงพร้อมกับน้องสาว รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่คนไทยทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าจะเป็นคนปกติหรือคนพิการ เช่น ผู้บกพร่องทางสายตา ตนบกพร่องประเภทสายตาเลือนราง พระองค์พระราชทานแว่นขยายให้คนสายตาเลือนรางให้สามารถอ่านหนังสือและเรียนรู้เหมือนคนปกติ ได้เรียนหนังสือร่วมกับคนปกติ พระองค์ยังพระราชทานหนังสืออักษรเบรลล์ให้คนตาบอด พระราชทานโปรแกรมอ่านจอภาพในคอมพิวเตอร์ ด้านคนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน พระองค์พระราชทานเครื่องช่วยฟัง ส่วนคนบกพร่องทางด้านร่างกาย พระองค์ท่านพระราชทานเก้าอี้ล้อ วีลแชร์ พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ได้พระราชทานความช่วยเหลือทุกคนโดยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ยังมีเพื่อนอีกหลายคนอยากมา แต่ติดงาน ตนตั้งใจว่าจะมากับเพื่อนๆ อีกครั้ง
“เมื่อได้ขึ้นไปกราบถวายบังคมบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แม้พระองค์สวรรคตไปแล้ว แต่ในดวงจิตของหนู หนูรู้สึกว่าเหมือนเราได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ เข้าไปแล้วรู้สึกอบอุ่นเหมือนพระองค์ประทับอยู่ข้างหน้าเรา นับจากนี้จะน้อมนำสิ่งที่พระองค์พระราชทานและสิ่งที่ได้ศึกษามาประกอบอาชีพในทางที่ดี สามารถเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัวได้" น.ส.อารียากล่าว
ทั้งนี้ วันที่ 3 ของการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคม ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้น พบว่ามีจำนวนรวมทั้งสิ้น 4,207 คน
ที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร น.ส.โสภิต ปัญญาขัน นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า หลังจากที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อวันที่ 6 พ.ย.68 กรมศิลปากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานการทำงานกันเป็นรายสัปดาห์
ล่าสุด เจ้าหน้าที่กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้เข้ามาสำรวจความเสียหายเบื้องต้นของพระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ และราชรถน้อย 3 องค์ เกรินบันไดนาค 2 เกริน พระยานมาศสามลำคาน 2 องค์ พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ ขณะที่กรมสรรพาวุธทหารบกได้เข้ามาสำรวจระบบกลไก ล้อ เพลา การเคลื่อนที่ของราชรถ เพื่อเตรียมการวางแผนการดำเนินการด้านต่างๆ และการชักลากให้มีความมั่นคงแข็งแรง
น.ส.โสภิตกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุบางส่วนไปเก็บรักษายังคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อจัดเตรียมพื้นที่รองรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาทำงานภายในโรงราชรถ คาดว่าจะเข้าพื้นที่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป โดยจะมีการระดมเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมากกว่า 30 คน สำนักช่างสิบหมู่กว่า 100 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารกรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ ที่จะเข้ามาติดตั้งนั่งร้านให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจความเสียหายขององค์ราชรถ ราชยาน
ทั้งนี้ จากการสำรวจด้วยสายตา เบื้องต้นพบว่าพระมหาพิชัยราชรถมีความเสียหายประมาณ 50% เนื่องจากได้มีการบูรณะใหญ่ไปเมื่อครั้งงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยกระจกเสื่อมสภาพบางส่วน ทองหลุดลอก กระจกและโลหะหมองคล้ำ และต้องเปลี่ยนผ้าม่านที่ฉีกขาด ส่วนเวชยันตราชรถ ชำรุดค่อนข้างมาก มีกระจกหลุดและหมองคล้ำ ส่วนทองหลุดลอกไปจำนวนมาก ส่วนบริเวณอื่นมีการชำรุดในลักษณะที่คล้ายกับพระมหาพิชัยราชรถ รวมถึงพู่และฉัตรหมองคล้ำ สำหรับพระยานมาศ และราชรถน้อย ยังมีสภาพที่ดี ส่วนใหญ่จะพบความเสียหายที่กระจังและกระจกหม่น
“เมื่อกรมอู่ทหารเรือเข้ามาติดตั้งนั่งร้านแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะขึ้นไปสำรวจ โดยใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์เอกซเรย์ความเสียหายโดยรวมขององค์ราชรถ ราชยาน จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมการวางแผนการบูรณะ โดยกระบวนการจะไม่เปลี่ยนไปมากจากเดิม หากส่วนใดที่มีความเสียหายมากจะจัดสร้างขึ้นมาทดแทน รวมถึงจัดทำผ้าม่านใหม่ สร้างฉัตรภู่งอน เพื่อให้สมพระเกียรติสูงสุด” น.ส.โสภิตระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


