ไม่เอาสสร.ตั้งกมธ.ร่างรธน.

มติข้างมาก "กมธ.แก้ รธน." ไม่เอา  ส.ส.ร. เคาะตั้ง 35 อรหันต์ยกร่างรัฐธรรมนูญ-กก.ฟังความเห็น ให้รัฐสภาคัดเลือก คาดสรุปเนื้อหาเสร็จ 14 พ.ย. จากนั้นอีก 4 วัน ให้ผู้แปรญัตติแจง ก่อนประชุมวิสามัญถกวาระ2-3 "โฆษกรัฐบาล"  โพสต์หัวใจน้ำเงิน-ชมพู ร่วมเฟรมกับ “วราวุธ” ส่งสัญญาณพันธมิตรหลังเลือกตั้งครั้งหน้า

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 13.00  น. นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา แถลงผลการประชุม กมธ. ซึ่งมีข้อยุติต่อประเด็นการกำหนดให้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพียงองค์กรเดียวว่า ที่ประชุมได้ลงมติในหลักการที่ได้ข้อยุติแล้ว คือให้มี กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน และให้มีคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน จำนวน 35 คน แทนสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ การพิจารณาถือว่าผ่านในหลักการสำคัญแล้ว ประเด็นต่อไปจะหารือในรายละเอียดที่มาของ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม กมธ.ได้หารือถึงฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้นต่างๆ จึงต้องพูดคุยเพื่อให้มีข้อสรุปที่รอบคอบมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามถึงหลักการที่จะทำให้เกิดการยึดและเชื่อมโยงกับประชาชน นายนรเศรษฐ์กล่าวว่า ความเห็น กมธ.ทุกคนเห็นด้วยกับการมีการเลือกตั้งโดยประชาชน แต่ที่ต้องโหวตแก้ไขในประเด็นสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเกรงว่าจะขัดกับคำวินิจฉัยหรือความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้การผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องล่าช้า

 “ถ้ากระบวนการเริ่มต้นของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่สามารถทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการต้นน้ำได้ เช่น การเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สามารถมุ่งเน้นกระบวนการกลางน้ำ หรือการมีส่วนร่วม รับฟังความเห็นของประชาชนได้ ซึ่ง กมธ.ได้คุยในหลักการว่าจะออกแบบกระบวนการดังกล่าวให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และมีความหมายมากให้ที่สุด เพื่อชดเชยการไม่มีคูหาเลือกตั้งได้” นายนรเศรษฐ์ระบุ

ส่วนขั้นตอนต่อไป กมธ.จะหารือในรายละเอียด เพื่อกำหนดที่มาของ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญและกรรมการรับฟังความคิดเห็น การวางบทบาท รวมถึงคุณสมบัติ ดังนั้นคนที่จะสมัครเข้ามาจะแตกต่างตามบทบาทหน้าที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบ โดยให้รัฐสภาเป็นผู้คัดเลือก

น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ  พรรคประชาชน ในฐานะโฆษก กมธ. ตอบคำถามกรณีความกังวลใจว่าข้อสรุปของ กมธ. จะเกิดการถกเถียงในชั้นของรัฐสภา เพราะ ส.ส.ร.ถือเป็นองค์กรที่ได้รับการเชื่อถือจากการร่างรัฐธรรมนูญมาก่อน ว่า กมธ.มีเหตุผลที่จะสนับสนุนและตอบคำถามของสมาชิกรัฐสภาได้ ซึ่งในการพิจารณาของ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ จะหาทางเพื่อป้องกันการผูกขาดโดยเสียงข้างมากของรัฐสภา

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า กมธ.กำหนดว่าภายในวันที่ 14 พ.ย.นี้ จะทำเนื้อหาให้เสร็จสิ้น จากนั้นวันที่ 18-19 พ.ย. จะเชิญผู้เสนอคำแปรญัตติให้เข้าชี้แจง และเมื่อทำเสร็จแล้วจะกำหนดวันประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการลงมติเพื่อตัดสินว่าจะเลือกแนวทางใด ระหว่าง กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญเพียงองค์กรเดียว หรือให้มีสภาร่างธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ พบว่ามติข้างมาก 22 ต่อ 8 เห็นด้วยให้มีเฉพาะ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสียงข้างมากนั้นได้รับการสนับสนุนจาก กมธ.ฝั่งพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และ สว.ส่วนใหญ่ ขณะที่เสียงข้างน้อย เป็น กมธ.ของพรรคเพื่อไทย และแนวร่วม ส่วนประเด็นการตัดสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญออกไป และเปลี่ยนให้เป็นคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น มติออกมาคือ 22 ต่อ 9 เสียง

ส่วนความคืบหน้ากรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งให้มีการตรวจสอบเรื่องที่พยานในคดีฮั้วการเลือกตั้งวุฒิสภา ทำหนังสือกลับคำให้การถึงอธิบดีดีเอสไอ โดยระบุว่าคำให้การก่อนหน้านี้เกิดจากการข่มขู่ให้ซัดทอดถึงพรรคภูมิใจไทยนั้น

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะอดีต รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า การสอบสวนมีหลายหน่วยงาน รวมทั้งอัยการด้วย แต่รายละเอียดขอให้ไปถามดีเอสไอเอง

ทางด้าน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวว่า ขอพูดเฉพาะในส่วนที่มีประสบการณ์ กรณีการกลับคำให้การของพยานในชั้นสอบสวนของตำรวจเป็นเรื่องที่น้อยมาก เพราะต้องหาพยานหลักฐานทุกอย่างให้ได้ชัดเจน แล้วถึงจะตั้งประเด็นคำถามให้สอดคล้องกับพยานที่เขาให้การด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ถ้าไปเอาพยานมาเพื่อสอบให้เข้าประเด็นกับปัญหาที่ตัวเองตั้งขึ้น เขาสามารถที่จะกลับคำได้

"ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนขององค์กรนั้นๆ  ว่าคุณให้ความทำถูกต้องกับเขาหรือไม่ อยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจหรือความถูกต้องของผู้ทำการสอบสวน ต้องพิจารณาจากที่เขากลับคำว่าเป็นเพราะเหตุใด ต้องไปหาพยานหลักฐาน ถ้าผู้สอบทำถูกต้องเป็นธรรม ก็ไม่มีกลับคำ ผู้สอบสวนเรื่องพวกนี้ต้องเป็นมืออาชีพ จะอยู่ที่ใครสั่งไม่ได้ ต้องตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ถึงจะทำให้พยานที่เราเอามานั้นน่าเชื่อถือ" พล.ต.ต.ฉัตรวรรษระบุ

พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. ในฐานะประธาน กมธ.การกฎหมายและการยุติธรรม  วุฒิสภา กล่าวว่า จะประสาน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ โดย 2 กมธ.จะทำงานร่วมกัน และแจ้งให้สื่อมวลชนทราบเป็นระยะ

ขณะที่ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า มีหลักฐานสำคัญของคดีฮั้ว สว. คือเส้นทางการเงินและภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพบุคคลสำคัญ ซึ่งเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มการเมืองที่อาจนำไปสู่การทุจริตในการเลือก สว. โดยหลักฐานดังกล่าวเป็นภาพนักการเมืองในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ที่เดินทางมาพบบุคคลสำคัญทางการเมืองในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านรางน้ำ ซึ่งจะนำหลักฐานนี้ไปมอบให้ดีเอสไอในวันที่ 14 พ.ย.นี้

วันเดียวกัน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุแคปชัน เป็นหัวใจสีน้ำเงิน และหัวใจสีชมพู โดยภายในภาพมีนายสิริพงศ์ยืนร่วมกับนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, นายนิกร จำนง แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา, นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การโพสต์ภาพดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่

 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หลังก่อนหน้านี้มีข่าวกำลังเจรจาจะย้ายมาอยู่กับพรรคกล้าธรรม (กธ.) และยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้นหลังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำ สส.ในกลุ่มย้ายมาอยู่กับพรรค กธ. แต่ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายเดชอิศม์ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. ขณะเดียวกัน มีข่าวว่าในการประชุมพรรค  พปชร.สัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.