นายกฯ หนุนเปิดสภาวิสามัญแก้ รธน.วาระ 2-3 หวังเสร็จทันสิ้นปี สอดรับเงื่อนไข MOA ภท.-ปชน. "กมธ.แก้ รธน." ไฟเขียวสูตร 20 หยิบ 1 เลือก 35 อรหันต์ "พริษฐ์" ยันโหวตตามร่างหลักพรรค ไม่เห็นด้วยเพื่อไทยเพิ่ม ส.ส.ร.ที่ไม่ได้มาจาก ปชช. “ภัณฑิล” ฉะผู้อาวุโส พท. เหลี่ยมทุกดอก ถ่วงหาเหตุคว่ำ "อนุทิน" รับคุยบ้านใหญ่ชลบุรี-ระยอง "ไพโรจน์" ซบกล้าธรรม
ที่ทําเนียบรัฐบาล วันที่ 13 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องของพรรคประชาชน (ปชน.) ที่ต้องการให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และ 3 ว่า ดําเนินการอยู่ ซึ่งนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี และ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ประสานงานในส่วนของสภากับรัฐบาล ซึ่งทางรัฐสภามีการเตรียมพร้อมที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อให้วาระ 2 และ 3 ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี เป็นไปตามเงื่อนไขเอ็มโอเอที่พรรคภูมิใจไทยทําไว้กับพรรคประชาชน
“ขอย้ำว่าเอ็มโอเอเป็นข้อผูกมัดระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน ซึ่งเราต้องดําเนินการเป็นไปตามนั้น ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล” นายอนุทินระบุ
เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐสภา ได้ข้อยุติเกี่ยวกับองค์กรจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพียงองค์กรเดียวคือ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 35 คนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รายละเอียดให้ไปถามนายภราดร
ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐสภา กล่าวถึงการลงมติตัดส่วนของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ทิ้งว่า ปชน.ได้เสนอ 2 กลไกขึ้นมา โดยส่วนแรกจะเป็นการเลือก กมธ.ยกร่าง ซึ่งจะมาจากสมาชิกรัฐสภา โดยที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากเห็นชอบ ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีการเสนอ ส.ส.ร.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง จึงเห็นว่าควรคงไว้ตามร่างเดิมของ ปชน. เพราะอาจทำให้ผู้ร่างกับประชาชนมีระยะห่างมากขึ้น และกังวลว่าอาจทำให้ กมธ.ยกร่างถูกผูกขาดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือสีใดสีหนึ่ง
"ยืนยันว่าข้อเสนอของ กมธ.เสียงข้างมากลงมติไม่ให้เพิ่ม ส.ส.ร.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และให้คงไว้ซึ่งกลไกตามร่างประชาชน การไปพาดหัวข่าวว่าตัด ส.ส.ร.ออกไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนกลไกที่สองคือสภาที่ปรึกษารับฟังความเห็นที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน มีแค่ กมธ.ในสัดส่วนของ ปชน. 8 คนให้คงไว้ แต่เสียงข้างมากให้ตัดสภาที่ปรึกษาฯ ออกไป เนื่องจากกังวลว่าอาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ปชน.ลงมติยืนยันตามร่างของ ปชน.ทุกประการ" นายพริษฐ์ระบุ
เมื่อถามว่า โมเดลออกมาแบบนี้ ถือว่าผิด MOA หรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า เราต้องทำเต็มที่เพื่อปกป้องร่างของ ปชน. หากมีประเด็นไหนที่เห็นต่าง 2 หลักการที่เรายึดถือ คือป้องกันการผูกขาด และการมีส่วนร่วมของประชาชน ท้ายที่สุดร่างจะออกมาอย่างไร กมธ.ทุกคนต้องตระหนักว่าร่างที่ออกมาต้องเป็นฉันทามติของสภา และต้องตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุจะมีการเปิดประชุมวิสามัญนั้น นายพริษฐ์กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามนั้น หากตามเงื่อนไขการยื่นซักฟอกมาตรา 151 ของ ปชน. คือจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จภายในสิ้นปี โดยมีความจำเป็นต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญในวาระ 2 ก่อนวันที่ 12 ธ.ค.
นายพริษฐ์กล่าวว่า วันนี้มีการพิจารณาในมาตรา 256/5 ถึงเกณฑ์การคัดเลือก กมธ.ยกร่าง ซึ่ง ปชน.ได้เสนอสูตร 20 หยิบ 1 คือนำสมาชิกรัฐสภา 700 คน มาหารด้วย กมธ.ยกร่าง 35 คน หาก สส. สว. รวมตัวกันมา 20 คน จะเสนอ กมธ.ได้ 1 คน ซึ่งจะเป็นหลักประกันว่า กมธ.ยกร่างจะไม่ถูกผูกขาดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม กมธ.ได้ลงมติเห็นชอบร่างมาตรา 256/5 ที่ใช้สูตร “20 หยิบ 1” ตามข้อเสนอของ ปชน.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยมติเห็นชอบ 19 เสียง ไม่เห็นชอบ 0 เสียง งดดอกเสียง 10 เสียง โดยมีเพียงการปรับข้อความในร่างให้รัดกุมขึ้นจากร่างเดิมของ ปชน.
นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐสภา แถลงว่า ที่ประชุมได้ลงมติข้างมากตัดสินให้ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน มีที่มาจากการสมัครของประชาชน และให้รัฐสภาเป็นผู้คัดเลือก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามเนื้อหาที่พรรคประชาชนเสนอให้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ทั้งนี้ ในรายละเอียดยังต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการเลือกเป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างไร ทั้งการเป็นตัวแทนเชิงพื้นที่ เชิงประเด็น หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญ
นายภัณฑิลกล่าวว่า ประเด็น ส.ส.ร. พบว่ามีการบิดเบือนจากคนของพรรคเพื่อไทย คือนายสมคิด เชื้อคง ที่บอกว่าพรรคประชาชนจับมือกับพรรคภูมิใจไทยปัดตก ส.ส.ร. ซึ่งข้อเท็จจริงคือ ส.ส.ร.ที่เสนอต่อที่ประชุม กมธ.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ส่วนโมเดลที่พรรคประชาชนเสนอต่อองค์กรร่างรัฐธรรมนูญคือให้มีการเลือกตั้ง แต่มติที่ประชุมไม่เอา จึงต้องหากลไกอื่น
“อย่าลืมว่าร่างหลักที่รับมาคือเป็นของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ส่วนร่างของพรรคเพื่อไทยปัดตกไปตั้งแต่แรก แต่มีมารยาทยังให้ผู้อาวุโสอธิปรายข้อดี-ข้อเสีย แต่ที่ผ่านมา เราพูดอย่าง ท่านพูดอีกอย่าง จนเวลาผ่านมาจนใกล้เงื่อนเวลามากแล้ว ใน กมธ. หากมีการถ่ายทอดสด จะเห็นว่าพยายามหาทางให้ช้าและยาก พยายามบิดเหลี่ยมทุกดอก ผมอยากตั้งคำถามว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทยมีเจตจำนงแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือถ่วงเวลา สงวนไว้ทุกมาตรา เพื่อให้การอภิปรายวาระสองมีปัญหา และก่อหวอด สุดท้ายเพื่อตีตราว่าพรรคประชาชนไปร่วมกับพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นคนละเรื่อง และพยายามหาเหตุให้คว่ำ” นายภัณฑิลระบุ
ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การลงมติของ กมธ.ไม่ใช้ ส.ส.ร. เห็นชัดว่าไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของพรรคภูมิใจไทยมาตั้งแต่ต้น เพราะเมื่อมีการยุบสภา กมธ.ชุดที่จะมีการแต่งตั้งโดยสภาจะสิ้นสภาพตามไปด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแล้วเสร็จตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นอกจากนี้ชัดเจนว่าพรรคประชาชนรู้ตั้งแต่ต้นครั้งมีการลงนามในเอ็มโอเอว่าถูกพรรคภูมิใจไทยหลอก แต่ยอมให้หลอก
"พรรคประชาชนรู้ดีว่าเกมที่พรรคภูมิใจไทยจะออกมาแบบนี้ แต่แกล้งโง่ เพราะรู้ดีว่าสุดท้ายหากเป็นร่างของพรรคประชาชนก็ไม่สามารถผ่านด่าน สว.อย่างแน่นอน การตั้ง กมธ.ยกร่าง เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ทั้งพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยสมประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ รวมทั้งเป็นการสกัดกั้นพรรคเพื่อไทย สุดท้ายคนที่ถูกหลอกมากที่สุดคือประชาชน เมื่อสองพรรคจับมือกันตัดตอนไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” นายสมคิดระบุ
วันเดียวกัน นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ภาพร่วมกับนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รวมถึงบ้านปริศนานันทกุล พรรคภูมิใจไทย จะมีสัญญาณทางการเมืองอะไรหรือไม่ ว่า "พวกนั้นเขาพรรคชาติไทยเก่า รียูเนียนมั้ง”
เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีโอกาสร่วมงานกับ ภท.หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พวกเขาเป็นคนรุ่นเดียวกัน ขณะนี้ใกล้เลือกตั้งเข้ามาทุกที ถ้าอะไรเกิดขึ้น พรรคภูมิใจไทยก็พร้อม ทุกคนมีความสามารถ มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่พรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ว่าจะเป็นพรรคอะไรก็ต้องเปิดกว้าง
เมื่อถามถึงนายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีและบ้านใหญ่ชลบุรี มีโอกาสจะมาร่วมงานกับ ภท.ด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ได้คุยๆ กันอยู่
ส่วนนายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง จะมาร่วมงานกับ ภท.ด้วยหรือไม่นั้น นายอนุทินหัวเราะก่อนตอบว่า “รู้แล้วถามทำไม”
วันเดียวกัน นายไพโรจน์ ตันบรรจง อดีต สส.พะเยา พรรคเพื่อไทย 4 สมัย และอดีตผู้สมัคร สส.พะเยา พรรครวมไทยสร้างชาติ ในการเลือกตั้งปี 2566 ได้ยื่นสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมเรียบร้อยแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


