“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯ เยือนปักกิ่งวันที่ 2 รัฐบาลจีนต้อนรับถวายพระเกียรติยศสูงสุด มีพระราชปฏิสันถาร “ประเทศของเราทั้งสองได้มีความสัมพันธ์ฉันมิตรอย่างใกล้ชิดที่สุด”
เมื่อวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2568 เวลา 10.35 นาฬิกา (เวลาท้องถิ่น) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาศาลาประชาชน บริเวณลานด้านทิศตะวันออก กรุงปักกิ่ง ณ ที่นั้น นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และศาสตราจารย์เผิง ลี่หยวน ภริยา พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูง สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพ พร้อมด้วยประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามลำดับ ฝ่ายจีนยิงสลุต 21 นัด ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความเคารพในระดับสูงสุด ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางทหารสากลที่ใช้ในโอกาสสำคัญต่างๆ ของชาติ เสร็จแล้ว ผู้บังคับกองทหารเกียรติยศ กราบบังคมทูลรายงานและเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงตรวจแถวทหารเกียรติยศ เป็นภาษาจีน
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ไปทรงตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินผ่านแถวเด็กชาวจีนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ต่างโบกธงชาติไทย ธงชาติจีน และช่อดอกไม้
โอกาสนี้ ทรงแย้มพระสรวลและทรงโบกพระหัตถ์ทักทายเด็กชาวจีนเหล่านั้น จากนั้น เสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพอีกครั้ง เพื่อทอดพระเนตรการสวนสนามของกองทหารเกียรติยศและการแปรขบวนของวงดุริยางค์ทหาร เมื่อเสร็จสิ้นการสวนสนามและการแปรขบวนดังกล่าวแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จึงเสด็จพระราชดำเนินเข้ายังอาคารมหาศาลาประชาชน
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระราชปฏิสันถารกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและภริยา ดังใจความตอนหนึ่งว่า “ข้าพเจ้าก็ยินดีที่มีโอกาสได้มาเยือน และได้เห็นความเจริญก้าวหน้า ความสวยงามของเมือง มีความชื่นใจภูมิใจที่ประเทศของเราทั้งสองได้มีความสัมพันธ์ฉันมิตรอย่างใกล้ชิดที่สุด และได้มีการแลกเปลี่ยนและมีกิจกรรมหลายอย่างที่ได้ร่วมทำด้วยกัน”
ขณะที่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเลือกจีนเป็นประเทศแรกในการเยือนอย่างเป็นทางการ แสดงถึงความสำคัญที่ไทยให้กับความสัมพันธ์จีน-ไทย และสะท้อนถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศในแนวคิดจีน-ไทย คือ ครอบครัวเดียวกัน
ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปยังห้องตะวันออก พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูง สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และทรงพระราชปฏิสันถารตามพระราชอัธยาศัย
โอกาสนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะนายกรัฐมนตรีฉายพระบรมฉายาลักษณ์ด้วย สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับโรงแรมไชนาเวิลด์ กรุงปักกิ่ง โรงแรมที่ประทับ
สำหรับมหาศาลาประชาชน ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน เปิดใช้งานเมื่อเดือนกันยายน พุทธศักราช 2502 (คริสต์ศักราช 1959) เป็นหนึ่งในอาคารของโครงการ “สิบมหาอาคาร” ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบ 10 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรี ความภาคภูมิใจ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการทูตของประเทศ ใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมกับคณะผู้แทนจากต่างประเทศในการเยือนอย่างเป็นทางการ หรือเพื่อปฏิบัติงาน รวมทั้งการจัดงานเฉลิมฉลองในวาระสำคัญต่างๆ ที่มีประมุขและผู้นำระดับสูงเข้าร่วม
ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จฯ ไปทรงวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน จัตุรัสเทียนอันเหมิน และทอดพระเนตรสถานที่สำคัญต่างๆ ในกรุงปักกิ่ง ได้แก่ วัดหลิงกวง ศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์กรุงปักกิ่ง ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีและทรัพยากรด้านการศึกษา สถาบันเทคโนโลยีด้านอวกาศจีน ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมวิทยาศาสตร์นักบินจีน และศูนย์ควบคุมการบินอวกาศกรุงปักกิ่ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


