
ล่าอาณานิคมยุคใหม่ สหรัฐระงับการเจรจาภาษีการค้ากับไทยชั่วคราว จนกว่าฝ่ายไทยให้คำมั่นว่าจะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศผิดหวัง รัฐบาลทรัมป์ไม่แยกเรื่องความมั่นคงกับการค้า ย้ำไทยเดินหน้าบนผลประโยชน์ประเทศเป็นสำคัญ ด้าน "อนุทิน" เผย "อันวาร์-ทรัมป์" ยกหูคุยสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ร่ายยาว 11 ข้อชี้แจง จี้ "เขมร" ออกแถลงการณ์ขอโทษคนไทย
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุว่า เมื่อคืนนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย และประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทั้งสองท่านได้พูดคุยหารือกับผมเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลไทยยังคงดำรงเป้าหมายการสร้างสันติภาพตามแนวทางที่ได้ลงนามในปฏิญญาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ต่อไป และผมก็ได้แสดงจุดยืนของรัฐบาลไทยซึ่งพอสรุปใจความสำคัญได้ดังนี้
1.ผมได้ขอบคุณทุกคำแนะนำและรับฟังความเห็นของผู้นำทั้งสองท่านในฐานะที่เป็นพยานในปฏิญญาดังกล่าว เพื่อนำมาพิจารณาร่วมกันกับข้อมูลที่หน่วยงานความมั่นคงของไทยมีอยู่ในการไปดำเนินการกำหนดแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมจากการเกิดเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและละเมิดเงื่อนไขที่ระบุไว้ในปฏิญญา
2.ผมได้แจ้งให้พยานทั้งสองท่านทราบว่า ผู้ร่วมสังเกตการณ์จากหลายประเทศได้เข้าไปทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้ยืนยันว่า ทุ่นระเบิดทั้งสี่ทุ่นเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่มีการลักลอบเข้ามาวางในเขตพื้นที่ของไทยหลังจากที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนามในปฏิญญาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 แล้ว
3.ผมได้ยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะระงับการดำเนินการภายใต้เนื้อหาที่ระบุไว้ในปฏิญญาจนกว่ากัมพูชาจะยอมรับว่าตนมิได้ปฏิบัติตามและได้ละเมิดเงื่อนไขดังกล่าว และต้องมีคำแถลงขอโทษต่อประชาชนชาวไทยในกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ภูมะเขือซึ่งได้ทำให้ทหารของไทยได้รับบาดเจ็บและสูญเสียอวัยวะ
4.ผมได้ย้ำว่า รัฐบาลไทยทรงไว้ซึ่งสิทธิและมีอำนาจที่จะดำเนินการใดๆ เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศและสร้างความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทยเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่พึงจะกระทำเพื่อปกป้องประเทศและประชาชนให้พ้นจากภัยคุกคามของต่างชาติ
5.ผมได้เรียกร้องให้ผู้นำของทั้งสองประเทศในฐานะที่เป็นสักขีพยานในปฏิญญาดังกล่าวให้ทำการแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาให้เคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดและมีความจริงใจต่อประเทศทั้งสี่ที่ได้ร่วมกันลงนามในปฏิญญาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และได้ขอให้ผู้นำทั้งสองเน้นย้ำต่อผู้นำรัฐบาลกัมพูชาว่า จะต้องไม่มีการขัดขวางใดๆ ของฝ่ายกัมพูชาต่อการเข้าไปเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกองทัพไทยเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งได้มีการกำหนดพิกัดและพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
6.ผมได้แจ้งต่อท่าน ปธน.สหรัฐและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียว่า การที่กัมพูชาไม่เคารพต่อปฏิญญาและไม่ยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บและต้องสูญเสียอวัยวะในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนชาวไทยหมดความมั่นใจและความเชื่อถือต่อรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งจะยังผลให้การดำเนินการที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพมีความยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง
ไม่มีเจตนารุกราน
7.ผมได้ยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกชาติ เพื่อเสริมสร้างสันติภาพในภูมิภาคอาเซียน แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็ไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อไปกับเพื่อนบ้านที่ไม่มีความจริงใจและคอยคุกคามอธิปไตยของไทยอยู่ตลอดเวลา
8.ผู้นำทั้งสองท่านได้รับทราบจากผมว่ารัฐบาลไทยและพี่น้องประชาชนชาวไทยมีความเสียใจและผิดหวังต่อเหตุร้ายแรงที่ได้เกิดขึ้น เพราะว่าในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยก็เคยให้ความช่วยเหลือ ให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพหนีภัยสงครามชาวกัมพูชาด้วยความปรารถนาดีและด้วยความมีมนุษยธรรม จึงไม่คาดคิดว่ารัฐบาลกัมพูชาจะกระทำตนเป็นปฏิปักษ์และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทย และยังได้ทำร้ายคนไทยได้ถึงระดับนี้
9.ผมได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยไม่เคยมีเจตนารุกรานกัมพูชา แต่มีความพร้อมที่จะดำเนินการตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตยและเกียรติภูมิของชาติ และเพื่อสร้างความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยในทุกวิถีทาง
10.ประธานาธิบดีสหรัฐได้ถามผมว่า เรื่องการเจรจาทางการค้าระหว่างไทยและสหรัฐ มีปัญหาอะไรหรือไม่ ซึ่งผมได้เรียนท่านไปว่า อยากจะขอให้ท่านได้ลดอัตราภาษีให้กับประเทศไทยมากกว่านี้ ซึ่งท่านได้ตอบมาอย่างอารมณ์ดีว่า ในอัตรา 19% ที่ไทยได้รับ ถือว่าต่ำมากนะ ผมก็ได้พูดกับท่านว่า หากต่ำจริงผมคงไม่เดินไปขอท่านที่เกาหลีใต้ให้ลดลงอีก เพราะประเทศไทยก็ได้ให้ความร่วมมือในทุกๆ ด้านกับสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี ขอให้ท่านได้ให้หน้าผมบ้าง ท่านได้ตอบกลับมาว่า ท่านจะไปคุยกับทางกัมพูชา ซึ่งหากกัมพูชาไม่ขัดขวางการถอนทุ่นระเบิดของไทย แล้วฝ่ายไทยสามารถดำเนินการเร่งถอนทุ่นระเบิดได้อย่างรวดเร็ว ประธานาธิบดีสหรัฐจะพิจารณาให้มีการปรับลดภาษีให้มากกว่านี้ ท่านพูดกลับมาในท่วงทำนองเท่าที่ผมจำได้ว่า “If you do the demining works quickly, I’ll consider chopping more percentage for you.” อาจจะไม่ตรงทุกคำศัพท์ แต่ก็อยู่ในโทนนี้ครับ
11.ท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็บอกว่าจะเร่งทำเอกสารในนามประธาน ASEAN เพื่อย้ำความเข้าใจและให้ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในปฏิญญาอย่างเคร่งครัดต่อไป
ก่อนวางสาย ทั้งประธานาธิบดีสหรัฐและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ขอให้ผมส่งความปรารถนาดีมายังพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ซึ่งผมได้กล่าวขอบคุณทั้งสองท่านไปในขณะเดียวกัน
ผมกราบขออภัยพี่น้องประชาชนที่อาจจะส่งข้อความนี้ล่าช้าไปเล็กน้อย เนื่องจากกำลังปฏิบัติภารกิจที่สำคัญยิ่งที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน #ไทยนี้รักสงบ #แต่ถึงรบไม่ขลาด
สหรัฐระงับดีลภาษีชั่วคราว
ต่อมา นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเรื่องพัฒนาการล่าสุดในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงหนึ่งมีการเปิดเผยถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา รองผู้แทนการค้าของสหรัฐแจ้งเข้ามาว่า ขอระงับการเจรจากรอบข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างไทยกับสหรัฐเป็นการชั่วคราว และจะกลับมาเจรจาข้อตกลงอีกครั้ง เมื่อฝ่ายไทยให้คำมั่นว่าจะกลับเข้าสู่ Joint Declaration ไทย-กัมพูชา (ปฏิบัติตาม ‘ปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา’) และหวังว่าจะสามารถหาทางออกในเรื่องนี้ได้โดยเร็ว
"ไทยผิดหวังกับท่าทีของผู้แทนการค้าสหรัฐจากเรื่องนี้ โดยไทยยืนยันมาตลอดว่า ประเด็นเรื่องความมั่นคง ความปลอดภัย โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นเรื่องทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา จะต้องพิจารณาแยกออกจากประเด็นการค้า ซึ่งก็เป็นประเด็นทวิภาคีที่เป็นผลประโยชน์ร่วมระหว่างไทย-สหรัฐ"
นายนิกรเดชกล่าวว่า นายโดนัลด์ได้ย้ำกับนายอนุทินในการหารือทางโทรศัพท์เมื่อคืนนี้ว่า สหรัฐมิได้ประสงค์จะแทรกแซงการแก้ไขปัญหาของทั้งสองประเทศ ตามกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ จึงขอย้ำว่า สำหรับประเทศไทย ในประเด็นการค้าระหว่างประเทศ และมาตรการทางภาษีของประเทศที่สาม เป็นเรื่องนโยบายทางเศรษฐกิจที่จะมีการพิจารณาโดยรอบคอบในกรอบความร่วมมือทางการค้า และคำนึงถึงผลประโยชน์บนประเทศคู่เจรจาเป็นสำคัญ โดยรัฐบาลยังคงมีนโยบายขยายโอกาสทางเศรษฐกิจผ่านทางเจรจา และข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) การเปิดตลาดใหม่ๆ และการเข้าร่วมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกของไทย
ทั้งนี้ ไทยยังคงยินดี และตระหนักในบทบาทที่สร้างสรรค์ของสหรัฐ ในการสนับสนุนให้ไทยและกัมพูชาลดความตึงเครียดระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ตามที่ปรากฏในการหารือระหว่างนายอนุทินและนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยไทยจะเดินหน้าบนผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญที่มุ่งสู่สันติภาพ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการรับมือในการจัดเก็บภาษีของสหรัฐหลังจากนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตอบว่า นายอนุทินชี้แจงไปยังประธานาธิบดีสหรัฐว่าจุดยืนของไทยมีความตั้งใจในการแยกแยะเรื่องชายแดน และการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยไทยมีประสงค์จะขอให้สหรัฐแยกเรื่องนี้ออกด้วยเช่นกัน และมุ่งมั่นที่จะเจรจาการค้าเสรีกับสหรัฐต่อ ทั้งจะพยายามใช้กลไกทวิภาคีหารือกับกัมพูชา
'ทรัมป์'หยอก'อนุทิน'
นายนิกรเดชกล่าวอีกว่า ประธานาธิบดีสหรัฐแสดงถึงความเข้าใจหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทราบ รวมถึงมีการรับปากที่จะไปพูดคุยกับผู้แทนการค้าสหรัฐ อีกทั้งจากการที่นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ว่า หากจัดการทุ่นระเบิดได้ จะขอลดภาษี ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐก็ตอบรับแบบเชิงหยอกล้อว่าจะไปทำให้ด้วยความยินดี
ส่วนการดำเนินการต่อจากนี้ นายนิกรเดชระบุว่า กระทรวงด้านเศรษฐกิจจะดำเนินการเจรจาภาษีต่อไป อีกทั้งกระทรวงการต่างประเทศก็หวังว่าการเจรจากับประธานาธิบดีสหรัฐและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะช่วยกดดันให้กัมพูชาเข้าใจถึงเป้าประสงค์ประเทศไทยที่วางไว้
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ขอสื่อสารไปยังประชาชนมาเลเซีย ผมต้องการสื่อสารไปยังประชาชนชาวมาเลเซีย กรณีนายกฯ อันวาร์ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า ได้ต่อสายคุยกับนายกฯ ฮุน มาเนต แห่งกัมพูชา และยังได้ชื่นชมแนวทางของกัมพูชาว่า เลือกใช้หนทางแห่งสันติภาพ
ผมคิดว่านายกฯ อันวาร์คงนั่งจินตนาการในห้องทำงาน โดยไม่ดูข้อเท็จจริงว่า ความจริงนั้นเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่ท่านน่าจะรู้ว่ากัมพูชาเป็นผู้ก่อเหตุให้ทหารไทยขาขาด เป็นขาที่ 7 เพียงแค่ท่านคุยกับนายกฯ ฮุน มาเนต ท่านก็มาชื่นชมแล้ว
ผมเริ่มสงสัยพฤติกรรมของท่าน ในฐานะประธานอาเซียนว่า ท่านได้วางบทบาทหน้าที่เป็นกลางจริงหรือไม่ แม้สำนักข่าวแห่งชาติของท่านเอง ยังลงข่าวผิดพลาดเลยว่า ทุ่นระเบิดของกัมพูชาที่วางไว้เป็นของเก่า และมาแก้ภายหลังว่าเป็นทุ่นใหม่ แต่ก็สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยแล้ว
อย่างน้อยในฐานะท่านคือผู้มีส่วนร่วม ในการเป็นสักขีพยานของการลงนามเพื่อนสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา แต่ผ่านมาเพียงไม่กี่วัน กัมพูชากลายเป็นผู้ละเมิดสันติภาพ อย่างน้อยท่านควรเป็นผู้เรียกร้องให้กัมพูชาเคารพข้อตกลง ไม่ใช่มาพูดว่า ชื่นชมที่กัมพูชาเลือกใช้แนวทางสันติภาพ
ท่านทราบไหมว่า วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่เชื่อถือท่าน และมีคนไทยอีกจำนวนไม่น้อย มองว่าท่านอาจจะไปมีผลประโยชน์กับกัมพูชา แม้ท่านอาจจะไม่ได้อ่านข้อความนี้ที่มีต่อตัวท่าน ในฐานะประชาชนชาวไทย แต่อย่างน้อยประชาชนชาวมาเลเซียควรจะได้รับทราบว่า ผู้นำของมาเลเซียนั้นเป็นคนเช่นไร
ไม่สนแล้ว ภาษีทรัมป์
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีท่าทีนายอนุทินที่ระบุุไม่สนแล้ว ภาษีทรัมป์ ขายประเทศนี้ไม่ได้ ก็ไปขายประเทศอื่น ว่ากว่าจะถึงวันยุบสภา คงได้ยินนายอนุทินขอโทษคนไทยอีกหลายครั้ง คราวก่อนขอโทษที่พูดว่าไทยรุกล้ำพื้นที่กัมพูชา ในระยะเวลาอันใกล้อาจต้องขอโทษที่บอกว่าขายสินค้าให้สหรัฐอเมริกาไม่ได้ก็ไปขายที่อื่น ทั้งที่ตอนนายอนุทินไปลงนามถ้อยแถลงเพื่อนำไปสู่สันติภาพไทย-กัมพูชา โดยมีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยาน เคยประกาศเชิดชูการลงนามถ้อยแถลงสันติภาพไทย-กัมพูชา ว่าเป็นก้าวประวัติศาสตร์ นับหนึ่งสู่สันติภาพ ถือเป็นความสำเร็จ
นายอนุสรณ์กล่าวว่า แต่หลังเผชิญปัญหาชายแดนกัมพูชา สแกมเมอร์ ทุนเทา-ดำ ปัญหาการฟอกเงิน สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ปัญหาน้ำท่วม ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นรัฐบาลอย่างหนัก ก็หันมาพูดใหม่ว่า ไม่สนแล้ว ภาษีทรัมป์ ขายประเทศนี้ไม่ได้ก็ไปขายประเทศอื่น ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กลับพูดไปอีกทางว่า สหรัฐเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ทำประชาชนสงสัยว่ารัฐบาลกำลังเดินเกมไหนกันแน่ จะไปขายให้ประเทศไหนทดแทนดิจิทัลฟุตพรินต์ทำงาน คดีพลิกเร็ว จนทำประชาชนสับสนว่าตกลงรัฐบาลมีแนวทางต่อการสร้างสันติภาพและภาษีทรัมป์อย่างไร นายอนุทินต้องปรับโฟกัสให้ถูกจุด ว่าตกลงจะให้สหรัฐอเมริกาเป็นมหามิตรหรือเป็นศัตรู ทะเลาะกับสหรัฐอเมริกาได้คุ้มเสียหรือไม่ รู้หรือยังว่าปัญหาอยู่ตรงไหน ประชาชนตั้งคำถามถึงภาวะผู้นำที่พูดแล้วอาจชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ตอนไปลงนามสันติภาพก็บอกว่าประสบความสำเร็จ คล้อยหลังกลับมาไม่นานกลับพลิกลิ้นจนถูกตั้งคำถามว่า กำลังหันหลังให้แนวทางการสร้างสันติภาพหรือไม่ ซึ่งอาจนำความเสียหายมาสู่ประเทศชาติได้
“พรรคฝ่ายค้ำจะมองว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย ยังไม่ได้ทำอะไรเสียหายก็เป็นสิทธิ แต่ขอยืนยันว่าเป็นความเห็นและมุมมองที่แตกต่าง ตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทย ที่เห็นว่ายิ่งนานวัน ท่าทีที่ย้อนแย้งสับสนนี้ยิ่งก่อให้เกิดความสับสน เหมือนรัฐบาลเดินหลงทางกลางพายุวิกฤตศรัทธาที่ถาโถมไม่หยุด ซึ่งพรรคฝ่ายค้ำต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ" นายอนุสรณ์กล่าว
ขณะที่ เพจกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความ "สภาพแวดล้อมแบบ VUCA กับการประเมินสถานการณ์ของกองทัพ" โดยระบุว่า ในยุคปัจจุบันทั้งโลกและภูมิภาคของเราเผชิญกับสภาพแวดล้อมแบบ VUCA ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่มีความผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะเกิดเหตุรุนแรงโดยทันที
ตรงกันข้าม มันเป็นสภาวะที่กองทัพและหน่วยงานความมั่นคงต้อง "เฝ้าระวังอย่างรอบด้าน" เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย VUCA ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ ได้แก่....
V – Volatility ความผันผวน - เหตุการณ์อาจเปลี่ยนเร็ว กองทัพจะมีระบบติดตามตรวจสอบตลอดเวลา เพื่อให้พร้อมรับมือได้ทันที, U – Uncertainty ความไม่แน่นอน - บางข้อมูลต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ดังนั้นประชาชนควรรอข่าวจากแหล่งทางการ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด, C – Complexity ความซับซ้อน - หลายเหตุการณ์มีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง ทั้งด้านการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และการทูต ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังประเมินอย่างต่อเนื่อง, A – Ambiguity ความคลุมเครือ - บางเรื่องอาจตีความได้หลายแบบ จึงจำเป็นต้องใช้ "ข้อมูลที่ถูกต้อง" และ "คำอธิบายจากหน่วยงานราชการ" เพื่อให้ประชาชนได้รับความจริงเท่านั้นแล้วประชาชนควรทำอย่างไร ????
ติดตามข้อมูลจาก กองทัพ, รัฐบาล และหน่วยงานทางการเท่านั้น หลีกเลี่ยงการแชร์ข่าวลือหรือคลิปที่ไม่ทราบแหล่งที่มา มั่นใจว่าทุกสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมและการประเมินอย่างใกล้ชิด เชื่อมั่นว่ากองทัพพร้อมปกป้องความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ


