สอบครอบครัว‘ก๊กอาน’ ลูก3คนพันสแกมเมอร์

"ดีเอสไอ" ประสานข้อมูล “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ลุยตรวจสอบ "5 ธุรกิจในไทย" ของครอบครัวก๊ก อาน เบื้องต้นพบ “ลูก 3 คน” นั่งกรรมการบริหารด้วยตัวเอง หลัง "กรมการปกครอง" เพิกถอนสัญชาติไทย อาจพัวพันกาสิโน-ค้ามนุษย์-ฟอกเงิน-สแกมเมอร์ ด้าน ปชป.เปิดแคมเปญ "เปิดฟ้าใหม่ไล่เมฆเทา" เผยปมอาชญากรรมข้ามชาติฟอกเงินโยง "อดีต รมช." เดินหน้ารวบรวมข้อมูลส่ง "หัวหน้าพรรค" ยื่น "ปปง.-ก.ล.ต.-ดีเอสไอ" สอบต่อ

 จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยคณะพนักงานสืบสวน กองกิจการอำนวยความยุติธรรม เรื่องสืบสวนที่ 134/2568 ได้มีการกำหนดแนวทางการสืบสวนเครือข่ายของนายเฉิน จื้อ ผู้ก่อตั้งกลุ่มปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป  เครือข่ายของบริษัทปรินซ์ฯ และรายชื่อชาวต่างชาติทั้ง 43 คน ที่ทางการสหรัฐอเมริกาได้ขึ้นบัญชีให้เป็นบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงออนไลน์ อาทิ นายยิม เลี้ยก (Yim Leak) นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ และนายก๊ก อาน เป็นต้น

โดยตรวจสอบว่าในบรรดา 43 รายชื่อดังกล่าว มีใครเกี่ยวพันเชื่อมโยงมาถึงบุคคลและนิติบุคคล การประกอบกิจการในประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งดีเอสไอได้มีการประสานขอรายงานข้อมูลไปยังหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการขอข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูการยื่นจดทะเบียนประกอบธุรกิจ การขอข้อมูลจากสำนักงาน ปปง.เพื่อดูธุรกรรมทางการเงิน การเปิดบัญชีธนาคาร เป็นต้น และถ้ามีความชัดเจนว่านิติบุคคลใดในไทย เป็นเครือข่ายของทุนนอก หรือเป็นนอมินี ก็จะขยายผลเป็นคดีพิเศษในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือนอมินี ซึ่งเป็นความผิดตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547  ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 รายงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า คณะพนักงานสืบสวนดีเอสไอได้มีการตรวจสอบความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องของทั้ง 43 รายชื่อชาวต่างชาติ และเครือข่ายที่มีการประกอบธุรกิจในไทย ซึ่งพบว่ารายชื่อที่มีข้อมูลชัดเจนที่สุดในตอนนี้คือ นายก๊ก อาน สัญชาติกัมพูชา มีตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ของประเทศกัมพูชา

นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากรมการปกครองของประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลในทางลับจากหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานทางการข่าว พบว่านายก๊ก อาน มีการประกอบธุรกิจหลายประเภท ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มกาสิโน ค้ามนุษย์ การฟอกเงิน สแกมเมอร์ และถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายไทย และได้รับใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ทั้งยังมีบุตรจำนวน 3 คน ได้แก่ น.ส.จุรี คล่องกิจกล, น.ส.ภูเฌอหลิน คล่องกิจกล (ยุไล่) และนายกิตติศักดิ์ คล่องกิจกล ซึ่งได้สัญชาติไทยจากการระบุว่า มีบิดาและมารดาเป็นบุคคลสัญชาติไทย จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะทั้งหมดพบว่าได้สัญชาติไทยโดยทุจริต เนื่องจากแอบอ้างนำคนสัญชาติไทย  ซึ่งไม่ใช่บิดามารดาที่แท้จริงมาระบุว่าเป็นบิดามารดาของตน ในขณะที่ก็ได้มีการแจ้งการเกิดเกินกำหนด ณ สำนักทะเบียนอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย จึงถือว่าบุคคลดังกล่าวทั้ง 3 คนไม่มีสัญชาติไทยตั้งแต่แรก

ปัจจุบันถือว่าทั้งหมดเป็นคนต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิ์อยู่ในประเทศไทย และจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายจากผลที่ได้มีการแจ้งการเกิดโดยทุจริต ฉะนั้นหากย้อนไปจุดเริ่มต้น จะพบว่าทั้งนายก๊ก อานและบุตรทั้ง 3 คน ก็คือผู้ต้องหาในคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน การมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ  และการที่นายก๊ก อาน และลูก ถูกกรมการปกครองเพิกถอนสัญชาติไทย จึงเป็นเหตุให้คณะพนักงานสืบสวนดีเอสไอ ดำเนินการขยายผลเรื่องการประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งใจความสำคัญชัดเจนแล้วว่าทั้งหมดคือบุคคลต่างด้าว จึงไม่สามารถประกอบกิจการในสัดส่วนการถือหุ้นอันดับหนึ่ง/การเป็นกรรมการของบริษัทที่จดตั้งในประเทศไทยได้ เพราะจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบขยายผลเบื้องต้นของพนักงานสืบสวน กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ที่ได้ประสานข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ลูกทั้ง 3 คนของนายก๊ก อาน มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทการให้การบริการประมาณ 5 แห่งในไทย โดยมีสถานะเป็นกรรมการของบริษัท คาดว่าราวสัปดาห์นี้ดีเอสไอจะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัททั้ง 5 แห่งดังกล่าว ที่ได้ขอจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่วนการที่บริษัทต่างๆ ภายใต้ชื่อของพวกเขาที่เป็นกรรมการ จะยังสามารถประกอบกิจการต่อไปได้หรือไม่ เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป รวมถึงดีเอสไอเองก็ต้องตรวจสอบประวัติทางคดีอาญาอื่นๆ นอกเหนือจากที่ตำรวจไซเบอร์แจ้งดำเนินคดีการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งหากมีความชัดเจนเพียงพอแล้ว พนักงานสืบสวนกองกิจการอำนวยความยุติธรรม ก็จะได้เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงในการเดินหน้าทำการเมืองสุจริต ขจัดทุนเทา ผู้มีอิทธิพล รวมถึงปัญหาสแกมเมอร์ผ่านแคมเปญ "เปิดฟ้าใหม่ไล่เมฆเทา" ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า หลังสหรัฐอเมริกากำลังออกร่างกฎหมายการต่อต้านสแกมเมอร์ และมีแบล็กลิสต์ 43 รายชื่อ ซึ่งหาก 43 คนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ก็จะต้องดำเนินการโดยเร็วเพื่อไม่ให้ประเทศไทยถูกตรวจสอบจากนานาชาติ  และตกเป็นเป้าสายตานานาชาติว่าเป็นแหล่งฟอกเงิน ยืนยันว่าไม่ได้มุ่งหวังโจมตีทางการเมือง แต่เพื่อประโยชน์สาธารณะ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของคณะทำงานพรรคประชาธิปัตย์ พบการกระทำต้องสงสัยของบุคคล เช่น นายยิม เลี้ยก นักธุรกิจชาวกัมพูชา,  นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ นักธุรกิจและล็อบบี้ยิสต์ รวมถึงยังเชื่อมโยงบริษัท และสถาบันการเงินทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น B.I.C. BANK CAMBODIA และ B.I.C. BANK LAOS ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย

เช่น บริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 330 บาท แต่สามารถซื้อบริษัทที่มีทุนขนาดใหญ่ และกู้เงินได้มากกว่า 600 ล้านได้ หรือรวมถึงบริษัทที่หลีกเลี่ยงกฎหมาย พยายามนำต่างด้าวมาเป็นนอมินีถือหุ้นอย่างซับซ้อน เพื่อให้เกินร้อยละ 49 ตามที่กฎหมายไทยจำกัด หรือเชื่อมโยงบริษัทพลังงานใหญ่ของประเทศ ซึ่งเกี่ยวพันกับอดีตรัฐมนตรีช่วยคนหนึ่ง

ร.ต.อ.พงศกรยืนยันว่า พรรคจะใช้หลักสากลมาตรวจสอบ โดยเฉพาะธุรกรรมการเงิน เพื่อให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐตรวจสอบ เช่น ปปง., ก.ล.ต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่ออายัดเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงถึงการเมือง เพราะหลายเหตุการณ์มีการตั้งข้อสังเกต มีบุคคลพยายามเข้ามาถือหุ้นบริษัทพลังงานไทย  และยังอาจโยงถึงความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา และความสูญเสียทรัพย์สินของประชาชนด้วย พร้อมเปิดเผยอีกว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์รวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้น หัวหน้าพรรคจะมีการแถลงข้อเรียกร้อง และข้อเสนอของพรรคฯ

สำหรับนโยบายการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ จะถือเป็นนโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า ไม่ใช่ นโยบายเราคือการเมืองสุจริต สแกมเมอร์ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดจากการเมืองไม่สุจริต ยังมีอีกหลายปัญหา ธุรกิจการพนันออนไลน์ อำนาจอิทธิพล  และนโยบายหลักคือการเมืองสุจริต ซึ่งใช้แนวทางนี้มายาวนานกว่า 70 ปี​ โ​ดยปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ ขาดนักการเมืองที่มีความสุจริตเป็นที่ประจักษ์ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ สส.ที่ดีก็เป็นได้นะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.