ทีมเรือใบวายุ น้อมรำลึกถึง พระพันปีหลวง

พระราชวงศ์และองคมนตรี บำเพ็ญพระราชกุศลถวาย "สมเด็จพระพันปีหลวง" ทีมเรือใบวายุเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ มุ่งมั่นคว้าชัยซีเกมส์ตอบแทนชาติ-สถาบันกษัตริย์ พสกนิกรทุกสารทิศยังคงมุ่งหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทถวายความอาลัย

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.52 น. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถวายฉันเช้าแด่พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม จากวัดอนงคาราม

วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. และเวลา 17.00 น. พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เป็นประธานบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้นเวลา 19.00 น. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ ตามที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2568 เป็นต้นมา 

บรรยากาศในวันที่ 9 ของการเปิดให้กราบถวายบังคมพระบรมศพ ตลอดทั้งวันพสกนิกรจากพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทยอยเดินทางมาเฝ้ารอเข้าจุดคัดกรอง มีทั้งที่เดินทางมาเองและเป็นหมู่คณะ ประชาชนจำนวนมากมาถึงจุดคัดกรองก่อนเวลา ส่วนผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครอำนวยความสะดวกและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเข้ากราบถวายบังคมมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสมพระเกียรติ แม้บางช่วงจะมีฝนตกแต่ประชาชนก็ไม่ท้อ

  จากนั้นประชาชนเดินผ่านจุดคัดกรองต่างๆ เข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วกราบถวายบังคมเบื้องหน้าพระโกศด้วยความอาลัยและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา นอกจากนี้มีคณะต่างๆ เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระโกศ วางพวงมาลาถวายราชสักการะ อาทิ ทีมเรือใบวายุ และทีมเรือใบ SSL ซีเกมส์, คณะครูและบุคลากรโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ, คณะครูและบุคลากรสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร, คณะเทศบาลจังหวัดกระบี่, คณะเทศบาลจังหวัดกาญจนบุรี, จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นต้น

นางชนัญญา พิริยานสรณ์ อายุ 47 ปี ผู้จัดการทีมเรือใบ กล่าวว่า ทีมเรือใบวายุและคณะนักกีฬาเรือใบ SSL ซีเกมส์ มาถวายพวงมาลาและเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ท่านทรงมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อประเทศไทยในทุกด้าน ทรงมีพระวิสัยทัศน์ด้านกีฬา รวมถึงทรงส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาด้านผ้าไทย ทรงสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ผ้าไทยตั้งแต่แรก ปัจจุบันสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินี ได้ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดความซอฟต์พาวเวอร์ด้านผ้าไทยให้ออกไปสู่สายตาชาวโลก

นางชนัญญากล่าวว่า ทีมเรือใบวายุรู้สึกถึงความรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อได้เห็นประชาชนที่มาเข้ากราบแต่งกายไว้ทุกข์อย่างพร้อมเพรียง ทุกคนมาด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ท่านจริงๆ ทีมเรือใบวายุรู้สึกเสียใจอย่างที่สุดเมื่อพระองค์สวรรคต ตั้งใจมาร่วมถวายความอาลัย ซึ่งทีมเรือใบทั้งสองคณะนี้เป็นทีมที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมเป็นนักกีฬาด้วย 

 "ทีมนักกีฬาเรือใบเกินครึ่งแม้หน้าตาเป็นต่างประเทศ แต่เกิดในเมืองไทย สัญชาติไทย ทุกคนดีใจและภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินไทย อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและราชวงศ์จักรี ต่างมีความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ดังนั้นการที่ได้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มาทรงร่วมทีมถือเป็นเกียรติอย่างสูงสุด  พวกเราจะพยายามเต็มที่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ทำให้ทุกคนในโลกรู้ว่า การเล่นกีฬาเรือใบที่เป็นกีฬาที่รักของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เราจะสืบสานต่อ ด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่เพื่อทำผลงานให้ดี ทำให้วงการเรือใบเป็นที่รู้จัก สร้างแรงบันดาลใจให้นักกีฬาเรือใบเยาวชน และจะร่วมเฟ้นหานักกีฬาเรือใบมาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยต่อไป โดยทีมเรือใบมีกำหนดร่วมแข่งขันซีเกมส์ในวันที่ 15-18 ธันวาคมนี้ โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเข้าร่วมการแข่งขันด้วยอีกครั้ง" นางชนัญญากล่าว

จ.ส.อ.ปรีดา ทองใบ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองบัว จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า วันนี้ตนและคณะเทศบาลตำบลหนองบัว ประกอบด้วยพนักงานเทศบาลตำบลหนองบัว เข้าร่วมกับจังหวัดกาญจนบุรีนำประชาชนเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ รวมทั้งสิ้น 800 คน เดินทางโดยรถบัส มีจุดรวมพล ณ ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ออกเดินทางตั้งแต่เวลา 04.00 น. มุ่งหน้าสู่พื้นที่สนามหลวงและถึงจุดคัดกรองในเวลา 06.00 น. จากนั้นคณะทั้งหมดได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง ที่ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจดูแลพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะชายแดนของ จ.กาญจนบุรี ทั้ง อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี ซึ่งห่างจากตัวเมืองมากกว่า 240 กิโลเมตร แม้จะเดินทางยากลำบากทุรกันดาร แต่พระองค์ท่านก็เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนดูแลสารทุกข์สุกดิบของชาวบ้านด้วยความรักและห่วงใยพสกนิกร พระองค์ท่านส่งเสริมการประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามแนวชายแดน ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว

 “ชาวจังหวัดกาญจนบุรีตั้งใจขึ้นไปกราบพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อแสดงความจงรักภักดี  บรรยากาศด้านบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแม้จะโศกเศร้า แต่อบอวลด้วยความรักและความอาลัยที่ประชาชนมีต่อสมเด็จพระพันปีหลวง พวกเราได้เห็นการจัดพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติ สำหรับในพื้นที่หนองบัวหลังสวรรคต เทศบาลตำบลหนองบัวได้จัดฉายพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจด้านต่างๆ ของพระองค์ท่าน เพื่อน้อมสำนึกในพระเมตตา รวมถึงเผยแพร่พระราชกรณียกิจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้รับรู้รับทราบ ว่าทรงเป็นต้นแบบในการเสียสละพระองค์สร้างคุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน วันนี้คณะจังหวัดกาญจนบุรีจะเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเรียนรู้ด้านศิลปหัตถกรรมไทย ร่วมสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระพันปีหลวง ในด้านการอนุรักษ์มรดกศิลปหัตถกรรมไทย" จ.ส.อ.ปรีดากล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ของการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคม ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้น หลังปิดการขึ้นกราบถวายบังคม พบว่ามีประชาชนเข้ากราบถวายบังคมจำนวนรวมทั้งสิ้น 6,303 คน.