ย้าย34รายพันจีนเทา คุกจ่อสอบ‘บอสกันต์’

“ยุทธนา” เตรียมถาม “บอสกันต์”  หลังมีข่าวโผล่ปมห้องลับจีนเทา เผยย้าย 2 จีนเทาขังซูเปอร์แมกซ์เขาบินแล้ว ผงะ! ย้ายแล้ว 34 เจ้าหน้าที่พันคดี “ดีเอสไอ” เล็งสอบ 3 ประเด็นสำคัญ  ประสาน ตม.คุ้ย “มานพ ณ มาเก๊า”

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย.2568 นายยุทธนา   นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีมีข่าวพบนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์   1 ในกลุ่มผู้ต้องหาคดีดิไอคอนฯ ซึ่งถูกคุมขังภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โผล่ในกล้องวงจรปิดในเหตุการณ์เจ้าหน้าที่เรือนจำเอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังกลุ่มจีนเทา และห้องลับในเรือนจำ ว่าเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว แต่จะไปสอบถามข้อเท็จจริงกับนายกันต์ ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่แดน 1 เพื่อเชื่อมข้อมูลไปให้กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  และหากมีข้อมูลใดที่สื่อเปิดประเด็น เราก็จะตรวจสอบให้กระจ่างที่สุด

รายงานข่าวจากกรมราชทัณฑ์แจ้งว่า   กล้องวงจรปิดที่รวบรวมมาตรวจสอบทั้งหมด มีบันทึกภาพผู้เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่ในแต่ละวัน  โดยเบื้องต้นมีการตรวจดูภาพในวันที่ 16 พ.ย. ซึ่งเป็นวันตรวจค้น ตั้งแต่ก่อนเวลา 09.00 น. จนถึงช่วงเวลาจู่โจม 10.30 น. ซึ่งไม่ปรากฏภาพบอสกันต์ ส่วนจะมีภาพโผล่ที่จุดไหน วันใดบ้าง ต้องตรวจสอบ ส่วนผู้ต้องขังจีนเทา 2 รายนั้น ขณะนี้ถูกย้ายไปขังที่เรือนจำเขาบิน ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงหรือซูเปอร์แมกซ์แล้ว

มีรายงานแจ้งอีกว่า พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 17 พ.ย. เรื่อง บัญชีรายละเอียดการมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการ แนบท้ายคำสั่งกรมราชทัณฑ์ที่ 1510/2568 โดยรายละเอียดภายในเอกสารเป็นการย้ายเข้าและย้ายออกเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 22 รายชื่อ เบื้องต้นพบว่า 19 รายชื่อมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เรื่องการพบสิ่งของต้องห้ามและสิ่งของไม่อนุญาตให้มีครอบครองหรือใช้ในเรือนจำ ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 72 มาตรา 73 ของเรือนจำพิเศษฯ ส่วนอีก 3 รายเป็นการย้ายเข้ามาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ในขณะที่กรณีห้องลับใต้บันไดที่ถูกใช้เป็นสถานที่ของผู้ต้องขังจีนเทาและนางแบบชาวจีนประกอบกิจกรรมรักนั้น พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้มีการย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 15 ราย เมื่อรวมกับครั้งนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ถูกย้ายรวม 34 ราย

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการสอบสวนเรื่องดังกล่าวว่า ได้มอบหมายกองคดีความมั่นคงเพื่อดูว่าเข้าลักษณะคดีพิเศษในกรณีใดใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไหน อย่างไร มีใครเกี่ยวข้อง โดยมีพยานหลักฐานใดยืนยันบ้าง 2.เจ้าหน้าที่คนใดเป็นตัวการ หรือช่วยเหลืออำนวยความสะดวก รวมทั้งขยายผลหากมีผู้มีอิทธิพลคนใดช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง และ 3.กลุ่มหรือเครือข่ายผู้ต้องขังชาวต่างชาติที่ซื้อบริการถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องใด และพัวพันกับคดีข้ามชาติอื่นๆ อีกหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่ามีทรัพย์สินที่หมุนเวียนใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก โดยจะวิเคราะห์จากเส้นทางการเงินเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงประกอบการสืบสวนต่อไป

ขณะที่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบการเดินทางไปต่างประเทศของนายมานพ ชมชื่น อดีต  ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่มีกระแสข่าวว่าชื่นชอบเดินทางไปมาเก๊า คู่ขนานกับการตรวจเส้นทางการเงิน โดยมีประเด็นต้องสงสัยว่า ที่นอกจากไปเล่นพนันหรือไม่ อาจเป็นสถานที่รับมอบเงินจากกลุ่มจีนเทา เพื่อหลบเลี่ยงเส้นเงินจำนวนมาก และยังพบว่ากลุ่มจีนเทาได้มอบรถหรูให้นายมานพใช้ตลอดช่วงดำรงตำแหน่งด้วย

ส่วน พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กล่าวว่า ในวันที่ 24 พ.ย. กมธ.การทหารฯ จะมีการประชุมในวาระอื่น แต่จะหยิบเรื่องดังกล่าวมาหารือด้วย และจะเรียกหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้ข้อเท็จจริง รวมถึงมีข้อเสนอต่างๆ ไปยังรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่หนึ่งของวุฒิสภาที่จะทำงานคู่ขนานกันไปด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จีนปัดส่งอาวุธช่วยเขมร

"อนุทิน" ฟาดเขมรมีสติควรเจรจา ฮึ่ม! ต้องได้เนิน 350 กองทัพชี้สู้ยืดเยื้อจุดยุทธศาสตร์พื้นที่่ช่วงชิง พร้อมเร่งค้นหาร่างทหาร 2 นาย