ปชน.สวนพท.ปม‘สสร.’จบแล้ว

เปิดภาพ "ทักษิณ" ชุดผู้ต้องขัง ตัดผมสั้น ใบหน้ายิ้มแย้ม หลังครอบครัวชินวัตรได้เยี่ยมในโอกาสพิเศษแบบใกล้ชิด "อิ๊งค์" บอกพ่อสบายดี ฝากความเป็นห่วงถึงทุกคน "ปชน." สวน  "พท." ปม ส.ส.ร.จบไปแล้ว ย้ำไม่เลือกตั้ง 100% ก็ไร้ประโยชน์

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 12.45 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี และบุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร, นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของ น.ส.แพทองธาร, นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต, น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ ภรรยาของนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เข้าเยี่ยมนายทักษิณ โดยเป็นการเข้าเยี่ยมครั้งที่ 20  นับตั้งแต่ถูกคุมขังภายในเรือนจำ ซึ่งทุกคนเดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ยกมือไหว้สื่อมวลชนและกลุ่มคนเสื้อแดงที่รอให้กำลังใจ ก่อนเข้าภายในเรือนจำพร้อมนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือนจำทุกจังหวัดได้จัดให้เป็นวันเยี่ยมแบบใกล้ชิดถึงตัว ซึ่งเปิดให้เยี่ยมในช่วงของเทศกาลปีใหม่ นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันได้  โดยเฉพาะเรือนจำกลางคลองเปรม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 พ.ย.-1 ธ.ค.68 และเยี่ยมได้ 2 ชั่วโมง ทำให้ครอบครัวชินวัตรสามารถเยี่ยมนายทักษิณได้แบบใกล้ชิดที่สุดนับตั้งแต่นายทักษิณถูกจองจำที่เรือนจำตามคำสั่งบังคับโทษจำคุกของศาลฎีกา เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การเยี่ยมโอกาสพิเศษแบบนี้ กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดปีละประมาณ 3-4 ครั้ง  ตามแต่ช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ใกล้เทศกาลปีใหม่  ใกล้เทศกาลสงกรานต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละเรือนจำ ซึ่งจะประกาศช่วงเวลาการเยี่ยมแบบพิเศษแตกต่างกัน

จากนั้น เวลา 14.50 น. ภายหลังการเข้าเยี่ยมนายทักษิณ น.ส.แพทองธารกับนายพานทองแท้ถือภาพถ่ายกระดาษ A4 พรินต์รูปสีออกมาคนละใบ  โดยเป็นภาพถ่ายรูปหมู่ของครอบครัว ซึ่งนายทักษิณใส่ชุดผู้ต้องขังเสื้อสีฟ้า กางเกงสีน้ำเงิน   หน้าตาสดใส ตัดผมสั้นเกรียน มีบุตรสาว 2 คนยืนขนาบคนละข้างกอดพ่อ ส่วนนายพานทองแท้ น.ส.ณัฐฐิญา และนายปิฎก ร่วมอยู่ในเฟรมด้วย

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.แพทองธารว่าได้ร่วมรับประทานอาหารอะไรกับคุณพ่อบ้าง โดย น.ส.แพทองธารตอบสั้นๆ ว่า "ทานกวยจั๊บและแฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น ส่วนสุขภาพแข็งแรงโอเค และได้มีพูดคุยกับคุณพ่อเรื่องปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งคุณพ่อรู้สึกเป็นห่วงและมีการพูดคุยเรื่องนี้เยอะหน่อย"

ต่อมา น.ส.แพทองธารได้โพสต์รูปภาพดังกล่าวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า "เกือบ 2 ชั่วโมงที่เหมือนได้กลับมาอยู่ด้วยกันจริงๆ วันนี้ทางเรือนจำจัดกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิด ให้ญาติๆ ได้เข้ามาเจอกัน กอดกัน ทานข้าวด้วยกัน แบบไม่ต้องคุยโทรศัพท์ผ่านกระจก ได้เดินตลาดย่อมๆ ที่พี่ๆ น้องๆ ในเรือนจำทำอาหาร ทำศิลปะมาขาย ได้มีโอกาสอุดหนุนหลายร้านอยู่ค่ะ  แว้บนึง รู้สึกเหมือนกลับไปเป็น ด.ญ.แพทองธาร  เดินจับมือคุณพ่อ และพี่ๆ เดินตลาดกันแบบตอนเด็กๆ (จริงๆ พ่อจะชอบตลาดสดมาก เพราะได้เลือกเอง ตามเมนูที่จะทำให้ที่บ้านทานตอนวันอาทิตย์) ถึงคนที่เป็นห่วงคุณพ่อ ท่านสบายดี รับรู้ถึงความรักความห่วงใย และฝากความเป็นห่วงถึงทุกๆ คนค่ะ”

ที่รัฐสภา น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช .... รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมรื้อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในการร่างรัฐธรรมนูญว่า เราต้องยืนยันในร่างหลักของเราว่าหาก ส.ส.ร.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง 100  เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่ได้มีประโยชน์ไปมากกว่าการสร้างความเทอะทะให้กับองค์กรการเขียนรัฐธรรมนูญ ทำให้ผู้เขียนอยู่ห่างจากประชาชนออกไปอีก 1 ก้าว

เมื่อถามว่า พรรค ปชน.ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าจะเห็นด้วยกับพรรค พท.หรือไม่ น.ส.พนิดากล่าวว่า ข้อเสนอที่พรรค พท.สงวนคำแปรญัตติไว้ เป็นสิ่งที่ได้มีการพูดคุยกันไปแล้วในการประชุม  กมธ. ฉะนั้นคำอธิบายต่างๆ ที่พรรค พท.ได้ออกมาแถลงเป็นประเด็นที่ได้มีการถกกัน วิเคราะห์ฉากทัศน์กันมาเรียบร้อยแล้ว พรรคยืนตามร่างเดิม และเสียงโหวตส่วนใหญ่ในห้อง กมธ. เห็นด้วยกับร่างหลัก คงต้องตอบคำถามในประเด็นนี้เพื่อยืนยันชัดเจนในที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง แต่ไม่ได้มีแนวทางการทบทวน

ทั้งนี้ สำหรับข้อจำกัดบนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น และข้อจำกัดที่ต้องผ่านการโหวตของ สส.เสียงข้างมาก และ สว. 1 ใน 3 นั้น จึงพยายามหาวิธีการที่ทุกคนสามารถยอมรับร่วมกันได้มากที่สุด การได้มากที่สุดบนเป้าหมายของการนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นอยากขอความจริงใจจากทุกฝ่ายในการที่จะผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับนี้ เพื่อเปิดทางให้นำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยกัน.